ชื่อเรื่อง                                  การพัฒนาชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง สนุกคิดพิชิตการหาร

                                                กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4                  

ผู้วิจัย                     นางศิริมาศ กำแพงแก้ว

โรงเรียน                เทศบาลวัดมเหยงคณ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช

ปีการศึกษา           2560

บทคัดย่อ

การพัฒนาชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์  สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง สนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560โรงเรียน เทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 40 คน  โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์  สังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ซึ่งมีการจัดนักเรียนเข้าชั้นเรียนโดยคละตามความสามารถ จำนวน 6 ห้อง รวมจำนวนนักเรียน 229 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้หาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/5 ที่กำลังศึกษาใน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ดำเนินการทดลองโดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบ one group pretest - posttest design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย  (1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร โดยใช้กระบวนการ สืบเสาะหาความรู้ (2) ชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 4 เล่ม (3) แบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง สนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 30 ข้อ และ (4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อ การเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ดำเนินการวิจัยในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในครั้งนี้ ประกอบด้วย สถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต
() ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) สถิติที่ใช้ในการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือ คือการหาค่าความตรงของเครื่องมือ คำนวณค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยาก (p) และค่าอำนาจจำแนก (r) ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบโดยใช้สูตร KR – 20 คูเดอร์ ริชาร์ดสัน ( Kuder Richardson) สถิติที่ใช้ในการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิด พิชิตการหาร  กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ใช้การหา  และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยใช้ชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการหาค่าสถิติ  t – test แบบ Dependent  

ผลการศึกษาพบว่า

                            1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์  เรื่อง สนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 89.12/87.83
ตามเกณฑ์ที่กำหนด  80/80

                            2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนที่ใช้ ชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่อง สนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถม ศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01

                                3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม
เพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ เรื่องสนุกคิดพิชิตการหาร กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่าเป็นไปในทางบวกระดับมากและมากที่สุด () เท่ากับ 4.50 – 4.90 นั่นคือมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด () เท่ากับ 4.86