ชื่อเรื่อง รายงานการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้รายงาน นางสาวบังอร บำรุงเก่า
ปีการศึกษา 2561
บทคัดย่อ
ความมุ่งหมายของการศึกษารายงานเพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของหนังสือ อ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลหนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ และ 4) ศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อหนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนคูเมืองวิทยา อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 จำนวน 18 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ประกอบด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ จำนวน 8 เล่ม คือ หมู่บ้านฉัน
ในวันนี้ ก้าวไกลไปข้างหน้า ท้องถิ่นของเรามี วันนี้ดีกว่าอดีต บนทางก้าวย่างไป มีอยู่อย่างพอเพียง เส้นทางทีพอเพียง และ ชีวิตที่พอเพียง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าอำนาจจำแนก (B) ระหว่าง 0.26 ถึง 0.81 ค่าความยาก (P) ระหว่าง 0.34 ถึง 0.80 และค่าความเชื่อมั่น 0.86 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (rxy) ระหว่าง 0.44 ถึง 0.84 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การหาประสิทธิภาพ การหาดัชนีประสิทธิผล และทดสอบสมมติฐานโดยใช้การทดสอบค่าที (t-test แบบ Dependent Samples) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน
ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า
1. ประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.81/84.81 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติมเพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ 0.6653 หมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้น 0.6653 คิดเป็นร้อยละ 66.53
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อหนังสืออ่านเพิ่มเติม เพื่อการเรียนรู้ ชุด เศรษฐกิจพอเพียงกับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาเศรษฐศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.31