การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน
ชื่อผลงานวิจัย การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ การคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ชื่อ – ชื่อสกุลผู้วิจัย นางสาวสาวบน เด็นหมัด
ปีที่ทำวิจัย 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์การวิจัยเพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 2) ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 27 คน ที่ศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเคมี 3 เรื่อง อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 5) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแก้ปัญหา 6) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาค่าทีแบบไม่อิสระ (t-test for Dependent Samples)
ผลการวิจัย พบว่า
1. รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาตอนปลายมีชื่อว่า “PACEA Model” มี 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ 2) วัตถุประสงค์ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ (1) ขั้นเตรียมพร้อม (Preparation) (2) ขั้นลงมือปฏิบัติ (Action) (3) ขั้นสรุป (Conclusion) (4) ขั้นประเมินผล (Evaluation) และ (5) ขั้นประยุกต์ใช้ (Application) 4) การวัดและประเมินผล และ 5) เงื่อนไขสำคัญในการนำรูปแบบไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จโดยพบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.21/80.73
2. ประสิทธิผลของรูปแบบพบว่า 2.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเคมี 3 เรื่องอัตราการเกิด ปฏิกิริยาเคมีของนักเรียนหลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2) ความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านอยู่ในระดับสูง 2.3 ) ความสามารถในการแก้ปัญหาหลังใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับอยู่ในระดับสูง และ 2.4) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้รายวิชาเคมีตามแนวคิด Active Learning ร่วมกับห้องเรียนกลับด้านอยู่ในระดับมากที่สุด