ชมรมฉลาดบริโภค

ชมรมฉลาดบริโภค

       ชมรมฉลาดบริโภคตั้งขึ้นเพื่อสร้างผู้เรียนให้มีความรู้เรื่องการเลือกบริโภคสินค้าและนำความรู้ที่ได้ไปขยายสู่เพื่อนๆและชุมชนได้  เนื้อหาเรื่องการฉลาดบริโภคสำหรับนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 ที่ควรรู้มีดังนี้  
โปรดอ่านที่นี่ก่อน
       ด้วยเจตนาดีที่ข้าพเจ้าผู้คัดลอกความรู้จากหนังสือ “ชมรมนี้ไม่มีถูกหลอก(จริงอ่ะ)” ของกองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  มาลงในเว็บไซต์ไทยกู้ดวิวดอทคอมนั้น  ก็เพื่อเผยแพร่ความรู้เรื่องผลิตภัณฑ์ต่างๆและสิทธิที่ผู้บริโภคควรรู้  โดยผ่านเนื้อเรื่องสนุกๆเป็นตอนๆไป และให้สมมติว่าตัวของผู้อ่านเองเป็นสมาชิกของชมรมฉลาดบริโภคด้วย
เข้าเรื่องกันได้เลย
ตอนที่ 1  หนองควายจงเจริญ (ยาลูกกลอน)
         ชมรมอาจารย์และนักศึกษาได้ออกค่ายอาสาและพัฒนาไปที่บ้านหนองควาย จ.บุรีรัมย์ โดยมีสมาชิกร่วมขบวนด้วยที่สำคัญคือ
เน็กกี้  เป็นนักศึกษาชายคณะศิลปกรรมศาสตร์ มีท่าทางกวนๆ ช่วยสร้างความสนุกให้ทุกๆคนที่เห็น
อีอี้คุง  เป็นนักศึกษาชายคณะเภสัชศาสตร์ มีท่าทางสุขุม  ฉลาด รอบคอบ 
อาจารย์ฉลองชัย   เป็นที่ปรึกษาด้านการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ให้กับชมรม
อาจารย์นิรันดร   เป็นที่ปรึกษาด้านเภสัชศาสตร์ให้กับชมรม  ฉลาด  คล่องแคล่ว มีความคิดดีซึ่งเรียกว่า “ไอเดียบรรเจิด”
โน้ต  เป็นนักศึกษาหญิงคณะนิเทศศาสตร์ เป็นผู้ช่วยอีอี้คุง  มีนิสัยอ่อนโยน  น่ารัก 
เมื่อคราวเตรียมตัวขึ้นรถ  อีอี้คุงบอกโน้ตว่า “หากเน็กกี้รู้ว่าชมรมเราเลือกมาออกค่ายที่บ้านหนองควาย จ.บุรีรัมย์  ต้องโวยแน่”โน้ตตอบอย่างเห็นด้วยว่า “ใช่...เน็กกี้คิดว่า  อาจารย์จะพาไปเชียงใหม่กะหลีสาวๆเต็มที่  ผิดหวังแน่  อิอิ” และเมื่อเน็กกี้ลงมาจากรถบัสด้วยชุดสีแดง  ทุกคนต่างพากันหันมามองดูแล้วหัวเราะ  เน็กกี้ต้องสะดุดใจเพราะอาจารย์ฉลองชัยประกาศว่า
“อย่าชักช้า  เดี๋ยวไปถึงบ้านหนองคายมันจะมืด”  จึงหันไปถามอาจารย์ฉลองชัยว่า “ไม่ได้ไปเชียงใหม่หรอกหรือครับ”อาจารย์ฉลองชัยหันมาตีศรีษะของลูกศิษย์อย่างจังแล้วตอบว่า “เราต้องการที่จะไปให้ความรู้กับชาวบ้านที่ห่างไกลความเจริญ ชาวบ้านจึงจะปลอดภัยจากการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่วางขายอยู่ทั่วไป...นะ”  แล้วเน็กกี้ก็กลับขึ้นรถไปอย่างผิดหวังท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์
รถบัสออกเดินทางด้วยความเร็วปกติ  ผู้โดยสารนอนหลับมาตลอดทาง  จนใกล้จะเข้าตัวหมู่บ้าน  อาจารย์ฉลองชัยจึงประกาศใส่โทรโข่งว่า “อ้าว ! นักศึกษาทุกคน  ตื่นได้แล้ว  ถึงที่หมายแล้ว”  เกือบทุกคนตื่นยกเว้นเน็กกี้ที่ยังนอนกรนอยู่  โน้ตจึงเข้าไปปลุก “นี่แน่ะ  ตื่นได้แล้ว”  เน็กกี้ตื่นนอนอย่างเสียไม่ได้แล้วตอบว่า “ถึงแล้วเหรอ  หนองควายซิตี้...แหม  ควายอื้อเลย เหมาะสมกับชื่อหมู่บ้านจริงๆ”  เมื่อเข้าหมู่บ้านและถึงที่พักแล้ว  กลุ่มนักศึกษาก็ออกเชิญชวนชาวบ้านมาตรวจสุขภาพฟรีที่เต็นท์ท้ายวัด  โน้ตวิ่งมาหาเพื่อนๆด้วยความรีบร้อนแล้วเล่าอีอี้คุงว่า “เราเจอพ่อค้ารถเร่กำลังเร่ขายยาลูกกลอนด้วยล่ะ”  ทั้งสองจึงพากันไปดูเหตุการณ์ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังประกาศโฆษณาสินค้าของตัวเองเกินจริงว่า “ยาลูกกลอนนี้...รักษาสารพัดโรค  อัมพฤกษ์  อัมพาต  มะเร็ง  เบาหวาน  หัวใจ  หายขาดแน่นอนจ้าและของแท้ต้องมีลายเซ็นพระอาจารย์  รักษาไม่หาย...ยินดีคืนเงิน” ชาวบ้านพากันมุงดูด้วยความสนใจ  อีอี้คุงจึงฉวยโอกาสขณะที่ชาวบ้านกำลังตัดสินใจซื้อยาลูกกลอนด้วยการประกาศว่า “เชิญพ่อแม่พี่น้องไปตรวจสุขภาพฟรีที่เต็นท์ท้ายวัดกันดีกว่า”  โน้ตกล่าวเสริมอีกว่า “ตรวจสุขภาพฟรี  ไม่คิดเงินนะคะ  เชิญค่ะ...” จากนั้นชาวบ้านจึงได้พากันไปตรวจสุขภาพตามทั้งสองคนแนะนำ
อาจารย์นิรันดรกล่าวให้ความรู้เรื่องยาลูกกลอนแก่ชาวบ้านว่า “ยาลูกกลอนหรือยาแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.ส่วนใหญ่แล้วมีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่  กินไปนานๆอาจทำให้กระดูกผุ  มีอาการบวมน้ำ  ภูมิคุ้มกันต่ำและอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้...”อาจารย์ฉลองชัยกล่าวเสริมว่า “ก่อนกินยาลูกกลอนหรือยาแผนโบราณต้องดูฉลากก่อนว่ามีเลขทะเบียนตำรับยาหรือไม่และปรึกษาหมอหรือเภสัชกรก่อนกินยาจะปลอดภัยกว่านะครับ”  แต่แล้ว  ทุกคนก็เห็นเน็กกี้วิ่งหนีอะไรบางอย่างมาอย่างน่าตกใจที่สุด  “โอ๊ย !  ช่วยด้วยควายขวิด...” เน็กกี้ร้องเรียกบอกทุกคนเห็นดังนั้นก็พากันวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง
ตอนที่ 2  ทำพิษ (ยาน้ำแผนโบราณ)
         วันที่  3 ของการออกค่าย  ณ บ้านหนองควาย  อีอี้คุงเล่าข้อมูลจากการออกสำรวจเรื่องยาที่ชาวบ้านใช้เป็นประจำให้อาจารย์ที่ปรึกษาของชมรมฟังว่า “ที่นี่...ชาวบ้านหลายคนมักทานยาน้ำแผนโบราณที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนกันมา  แถมยังเชื่อคนขายที่พูดโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงอีก”  อาจารย์นิรันดรกล่าวต่อว่า “ยังงี้  ปล่อยไว้ไม่ได้...อันตรายมาก  ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ”
แต่แล้วทุกคนที่กำลังนั่งฟังอยู่ก็ได้ยินเสียงประกาศขายยาน้ำแผนโบราณว่า “อ้าวเร่เข้ามาดูกันก่อน  ยาน้ำแผนโบราณกินเพิ่มพลังแถมรักษาโรคต่างๆได้อีก”  เน็กกี้เข้าไปเอายามาคืนกับคนขายแล้วโวยวายว่า “เมื่อวาน  ฉันกินยาขวดนี้แล้วจู๊ดๆไม่หยุด..ใครเป็นคนรับผิดชอบ”  แต่คนขายกลับพูดว่า “กินอย่างอื่น...แล้วท้องเสียหรือเปล่า...ยาขวดนี้กินดีมีพลัง  รักษาโรคอัมพฤกษ์อัมพาต  โรคหัวใจ  โรคเบาหวานได้จริงๆ”  เน็กกี้โกรธจัดจึงขึ้นเสียงว่า “ยังจะมาพูดมั่วอีกเรอะ!!!”  ขณะที่ทั้งสองกำลังปะทะอารมณ์กันก็มีอาจารย์เฉลิมชัยมาคืนยาเพิ่มอีกคนด้วยสีหน้าอิดโรย  “ยาอะไรกันเนี่ย...กินแล้วถ่ายไม่หยุดเลย  อุ๊ย! มันมาอีกแล้ว”   ชาวบ้านซุบซิบเรื่องสรรพคุณยาเพราะมีผู้ใช้เกิดอาการท้องเสียเหมือนกันสองคน  โน้ตกล่าวตัดบทว่า “คุณลุงคุณป้าค่ะขอเชิญไปที่เต็นท์ของเราแป๊บนึงค่ะ  คุณลุงคุณป้าจะได้ทราบถึงอันตรายของยาน้ำที่ไม่ได้รับ อย.ค่ะ”  อาจารย์นิรันดรให้ความรู้ว่า “ผลข้างเคียงจากน้ำแผนโบราณที่โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงเช่น อาการบวมน้ำ ,หน้าบวม ,กระดูกผุ ,กระเพาะทะลุ,ความดันโลหิตสูง ,กล้ามเนื้อไม่มีแรง,หัวใจเต้นผิดจังหวะหรือหยุดเต้น”
โฆษณาเกินจริงผิดกฎหมาย  ปรับ 100,000 บาท
-ใช้คำว่า “ศักดิ์สิทธิ์  หายขาด  วิเศษ  ยอดเยี่ยม”หรืออื่นๆที่มีความหมายทำนองเดียวกัน
-แสดงสรรพคุณทายา  เกินจริงหรือเป็นเท็จ
-โอ้อวดสรรพคุณว่า  สามารถรักษา  บรรเทา  ป้องกันโรคมะเร็ง  อัมพฤกษ์  อัมพาต  หัวใจ  เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
อาการทางสมอง  ตับ  ม้าม  ไต
โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน  ปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ  ได้แก่
-ฝ่าฝืนคำสั่งระงับโฆษณา
-โฆษณาขายยาโดยวิธีแถมพกหรือออกสลากรางวัล
ใช้ยาแผนโบราณให้ปลอดภัย  ต้อง....
-ตรวจดูเลขทะเบียนตำรับยาแผนโบราณที่มีรหัส  G  H  K ตามด้วยเลขดังตัวอย่างเช่น G 20/42 , H 999/45,K 15/42 เป็นต้น
-ซื้อยาจากร้านขายยาที่ได้รับใบอนุญาต
-ฉลากต้องระบุชื่อยา  วันเดือนปีที่ผลิตหรือวันเดือนปีที่หมดอายุ  คำเตือนและมีระบุคำว่า “ยาแผนโบราณ”
-สังเกตลักษณะของยา  หากมีสี  กลิ่น  รส  ผิดปกติ 
อย่างนี้ห้ามใช้
-หากเป็นยาน้ำต้องไม่มีตะกอน  ยาเม็กต้องไม่มีรอยร้าว  ไม่มีรอยแยก  ไม่มีรอยบิ่นที่เม็ดยา  แบบนี้จึงจะปลอดภัย
-ยาแผนโบราณที่เป็นยาเม็ดควรผลิตไม่เกิน 3 ปี  หากเป็นยาน้ำควรผลิตไม่เกิน 2 ปี
-ก่อนใช้ยาแผนโบราณควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะปลอดภัยกว่า
ตอนที่ 3  โสมพลังม้า...บ้าหรือดี  (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
         ณ  มหาวิทยาลัยฉลาดคิด  ซึ่งสถานที่ศึกษาของนักศึกษาชมรมฉลาดบริโภค  ขณะนั้นมีนักศึกษาหญิงสาม คนกำลังปรึกษาเรื่องการขายตรงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชื่อ “โสมพลังม้า” ที่สำคัญทั้งสามสาวยังกำชับสมาชิกในทีมว่าระวังอย่าให้ชมรมฉลาดบริโภคจับได้  ไม่อย่างงั้นพวกเราเจ๊งแน่
และแล้ววันหนึ่ง  ขณะที่อีอี้คุงและโน้ตกำลังทานข้าวเช้าด้วยกันที่โรงอาหารอยู่ โน้ตชี้ให้อีอี้คุงดูว่า “นี่อีอี้คุง เพื่อนๆโต๊ะนั้นกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเยอะมากเลย  ไม่รู้อันตรายหรือเปล่า”  อีอี้คุงเดินไปสอบถามว่า “ขอโทษนะครับเพื่อนๆผมขอดูฉลากผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขวดนี้...หน่อยครับ” เมื่ออีอี้คุงตรวจดูก็ไม่พบฉลาก อย.แถมยังโอ้อวดเกินจริงอีกจึงพูดเตือนเพื่อนนักศึกษาหญิงกลุ่มนั้นว่า “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารขวดนี้...โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง...กินเข้าไปอาจเป็นอันตรายได้นะ”
เพื่อนหญิงคนหนึ่งบอกว่า “ตอนเรากินครั้งแรก...หัวใจเต้นแรงมาก  ต่อมารู้สึกง่วงซึมเบื่ออาหารด้วย”  แต่เพื่อนหญิงอีกคนแย้งว่า “แต่เราไปถามพีชแล้ว...พืชบอกว่าไม่เป็นอะไรนี่”  อีอี้คุงกล่าวตอบว่า “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นเพียงแค่อาหารเสริมต้องกินควบคู่กับอาหารหลัก” โน้ตกล่าวเสริมว่า “และการโฆษณาสรรพคุณเกินจริงแบบนี้  ผิดกฎหมายนะ”  เพื่อนหญิงอีกคนเสียใจที่ถูกหลอก “นี่เราโดนยายพีชหลอก...ว้า...เสียเงินฟรีเลย แต่ก็ ขอบคุณอีอี้คุงและโน้ตนะที่บอกพวกเรา” จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  อีอี้คุงจึงนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษากับอาจารย์นิรันดร “อาจารย์ครับ  ตอนนี้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกำลังระบาด เพื่อนๆบางคนโดนหลอกเรื่องสรรพคุณซื้อมากินกันหลายคนแล้วครับ”  อาจารย์นิรันดรจึงให้สมาชิกชมรมฉลาดบริโภคเตรียมตัวประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ที่ถูกต้องเรื่องผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (อาหารเสริมประเภทต่างๆ)ไม่ใช่ยาจึงรักษาโรคไม่ได้  หากมีอาการป่วย สุขภาพไม่แข็งแรงควรปรึกษาแพทย์ดีกว่านะ  เพราะถ้ากินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อรักษาสุขภาพ(เพราะหลงเชื่อโฆษณา)อาจทำให้เสียโอกาสในการรักษาที่ถูกต้องและเสียเงินฟรีด้วย
-หากมีการโฆษณาสรรพคุณที่เป็นเท็จเกินจริงหรือทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญ  มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 30,000บาท
-โฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโฆษณาไม่ตรงตามที่ได้รับอนุญาต ปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ตอนที่ 4  เกือบหน้าพัง (เครื่องสำอาง)
         วันหนึ่ง  เน็กกี้นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อย่างใจจดใจจ่อเรื่องเครื่องสำอางช่วยหน้าขาวกลายเป็นโรคหน้าดำและพูดบอกเพื่อนอย่างเจ็บใจว่า “หนอย  ยายมดแดงแนะนำให้เราใช้ครีมหน้าขาว  ฉันเกือบเป็นโรคหน้าดำวูบซะแล้ว” แต่จู่ๆอาจารย์ฉลองชัยก็เดินมาที่โต๊ะของเน็กกี้ด้วยสีหน้าไม่พอใจ  “อาจารย์เป็นอะไรมาครับ  ศรีษะถึงโนอย่างงั้น” เน็กกี้ถามด้วยความตกใจเช่นกัน “ก็เพราะครีมกระปุกนี้นะซิ  มันปลิวมาโดนศรีษะผม” อาจารย์ฉลองชัยตอบ “ครีมกระปุกนี้ภรรยาของผมใช้ทาแก้ฝ้า  แต่แทนที่ฝ้าจะยุบ
มันกลับเห่อขึ้นเต็มหน้า  เธออารมณ์เสียเลยขว้างทิ้ง  แต่มันดันไม่ลงตะกร้ากลับมาลงที่ศรีษะผมแทน  อาจารย์นิรันดรช่วยดูให้หน่อยว่าครีมกระปุกนี้มีคุณภาพหรือเปล่าครับ” อาจารย์นิรันดรรับไปพิจารณาแล้วตอบว่า “นี่มันเครื่องสำอางปลอมแถมโฆษณาเกินจริงอีก”    “โธ่ ! ที่รักของฉันไม่ได้เกิดแน่...” อาจารย์ฉลองชัยครวญถึงภรรยา  อาจารย์นิรันดรกล่าวเสริมเรื่องเครื่องสำอางว่า “ครีมทาฝ้าถ้าระบุว่าใช้แล้วหาย  อย่าไปเชื่อนะเพราะฝ้าไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และก่อนใช้เครื่องสำอางต้องดูให้ดี  อย่างเช่นครีมกระปุกนี้  ไม่มีฉลากภาษาไทย,ไม่มีระบุชื่อ,สถานที่ผลิตและวิธีใช้  แบบนี้...ไม่มีคุณภาพชัวร์ครับ”เน็กกี้นั่งฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้วจึงอาสาพาเพื่อนๆไปจัดการยายมดแดงชายใจหญิงที่ขายเครื่องสำอางพวกนี้อยู่ 
เมื่อชมรมฉลาดบริโภคมาพบร้านมดแดงพาสวย  เน็กกี้เข้าไปต่อว่ามดแดงที่ขายสินค้าไม่มีคุณภาพและโฆษณาสรรพคุณเกินจริง  มดแดงปฏิเสธแต่ก็จำนนด้วยข้อมูลที่ถูกต้องจากอีอี้คุงและโน้ต
ผู้ที่ขายเครื่องสำอางปลอมและเครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานผิดกฎหมาย  มีโทษทั้งโดนปรับและโดนจับ
ก่อนเลือกซื้อเครื่องสำอาง  ควรดูฉลากและต้องเป็นฉลากภาษาไทย  ระบุชื่อและเลขผลิตภัณฑ์  ส่วนประกอบที่สำคัญ  วิธีใช้
วันเดือนปีที่ผลิต  ปริมาณสุทธิ  ชื่อและแหล่งผลิต  ผู้นำเข้าและผู้จำหน่าย
ตอนที่ 5  อินเตอร์เน็ต...ทำเข็ด (ซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านอินเตอร์เน็ต)
         ณ  ศูนย์คอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยฉลาดคิด  เน็กกี้กำลังใช้อินเตอร์เน็ตเพี่อหาซื้อสินค้าเสริมความหล่อ  เผอิญเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยซึ่งรู้จักกันดีคือพี่หมายได้เข้ามาขอความช่วยเหลือ  เน็กกี้แนะนำและจัดซื้อยาเลิฟทางอินเตอร์เน็ตให้
แม้เน็กกี้จะรู้สึกว่าสินค้าอาจไม่ได้มาตรฐานแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก  สองวันต่อมาหลังจากที่พี่หมายนำไปใช้ก็ได้เผอิญเดินมาพบกับเน็กกี้อีกและเล่าว่า “หลังจากทานยาเกิดผื่นขึ้นเต็มตัวและเกือบโดนตัดอวัยวะเพศด้วย”เน็กกี้กราบขอโทษพี่หมายแต่พี่หมายไม่ได้กล่าวโทษเน็กกี้   อย่างไรก็ตามเน็กกี้ก็ยังรู้สึกผิดจึงนำเรื่องไปปรึกษาที่ชมรมฉลาดบริโภคให้ช่วยประชาสัมพันธ์เรื่องการซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ต  ขณะที่กำลังเดินไปชมรมเน็กกี้ก็พบกับลูกเกด(เชอรี่)นักศึกษาหญิงอีกคนหนึ่งในมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นอีกคนที่เศร้าใจเรื่องบริษัทผลิตครีมอกเด้งถูกจับ  อีอี้คุงเดินออกจากชมรมมาพบกับคนทั้งสองเข้าจึงสอบถามและแนะนำว่า “การสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านทางอินเตอร์เน็ตเป็นการเสี่ยงได้ของไม่มีคุณภาพและของผิดกฎหมายและหากเกิดอันตรายก็หาผู้รับผิดชอบไม่ได้อีกด้วย  โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยา  ห้าม!ซื้อผ่านทางอินเตอร์เน็ตโดยเด็ดขาด”โน้ตเข้ามาพูดสมทบอีกว่า “เพราะอาจได้ยาปลอม  ยาเสื่อมคุณภาพหรือยาที่ลักลอบเข้าหรือผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต”พร้อมทั้งกล่าวตำหนิเน็กกี้อีกว่า “เน็กกี้ก็เหมือนกัน  รู้ว่าสั่งซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพผ่านทางอินเตอร์เน็ตมันเสี่ยงก็ยังสั่งซื้อให้ที่หมายอีก”
“ผมผิดไปแล้วครับ”เน็กกี้ตอบอย่างหน้าจ๋อย   “หึ  หึ  หึ  สมน้ำหน้า” ลูกเกดหัวเราะเน็กกี้ที่โดนดุ “โธ่เอ้ย ! เธอก็เหมือนกันแหละยายลูกเกดแปะ” เน็กกี้ว่าลูกเกด  “หนอย  เจ้าเน็กกี้หน้าลิง” ลูกเกดตอบโต้  แล้วทั้งสองก็วิ่งไล่กันอย่างชุลมุน
ตอนที่ 5 สัมมนาลวง  (จัดสัมมนาเพื่อขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ)
         อีอี้คุงคุยกับโน้ตเรื่องบริษัทรับทีมงานจัดสัมมนาเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์สุขภาพตัวใหม่ทั้งสองคนเห็นด้วยเพราะคิดว่าเกี่ยวกับชมรมฉลาดคิดของตนพอดี  ทั้งสองเดินมาเจอเน็กกี้จึงออกปากชวนไปด้วยกัน  เน็กกี้ปฏิเสธเพราะอ่านหนังสือพิมพ์เจอข่าวการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สุขภาพก่อนนั่นเอง  โน้ตและอีอี้คุงจึงไปแจกใบเชิญชวนมาสัมมนาเพียงสองคน  ขณะที่กำลังแจก  โน้ตได้อ่านใบเชิญชวนและพบว่ามีการโอ้อวดสรรพคุณของผลิตภัณฑ์สุขภาพเกินจริงจึงปรึกษากับอีอี้คุงแล้วเก็บใบเชิญชวนไว้เป็นหลักฐานพร้อมโทรศัพท์แจ้งสายด่วน อย.1566
และแล้วการเปิดงานสัมมนาก็เริ่มขึ้น  ก่อนเริ่มมีการเต้นระบำของแดนเซอร์ด้วย  หนึ่งในแดนเซอร์ก็คือเน็กกี้นั้นเอง  จากนั้นพิธีกรชายและหญิงก็ดำเนินรายการโดยการแนะนำหญิงคนหนึ่งที่กล่าวอ้างว่าเคยเป็นโรคมะเร็งและหายด้วยการทานผลิตภัณฑ์สุขภาพของบริษัทนี้  อีอี้คุงและโน้ตเข้าไปดูงานแล้วรู้สึกว่าต้องเป็นการหลอกลวงแน่นอน  แล้วจู่ๆเน็กกี้ก็จับไมค์ประกาศว่า “งานสัมมนาครั้งนี้เป็นการหลอกลวงขายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงซึ่งการโฆษณาว่ารักษาโรคมะเร็งได้เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย  ตำรวจจับแน่และผู้ที่ลงทะเบียนไว้สามารถไปรับเงินคืนได้” ผู้คนที่มางานต่างตกใจที่ตำรวจมาจับบริษัทที่เปิดสัมมนาแต่ก็ยังตั้งสติได้จึงไม่เกิดความวุ่นวายมากนัก  งานนี้อีอี้คุงและโน้ตต่างยอมรับว่าเน็กกี้เป็นพระเอกของงาน


สร้างโดย: 
นางสาวธิดา จันทร์กระจ่าง

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 476 คน กำลังออนไลน์