รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ชื่อเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่
ของคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้รายงาน นางกฤษณา ศิลปนรเศรษฐ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านโนนอุดมนภดลอุปถัมภ์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7
ปีที่พิมพ์ 2557
บทคัดย่อ
การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่
ของคำในภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย
3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และศึกษาแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์
ต่อการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนบ้านโนนอุดมนภดลอุปถัมภ์ ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ใน
การศึกษาได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย จำนวน 7 ชุด
ที่มีคุณภาพอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 3.51-3.61 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่าย (P) ตั้งแต่ 0.32-0.68
มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.21-0.67 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 แบบวัดแรงจูงใจใฝ่
สัมฤทธิ์ต่อการเรียน มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.23-0.71 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.86
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคำนวณหาค่า ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติ
t-test (Dependent Sample)
ผลการศึกษาพบว่า 1) แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำภาษาไทย
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.19/86.08
ซึ่งแสดงว่าแบบฝึกเสริมทักษะเรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย ที่ผู้รายงานสร้างขึ้นมี
ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 2) ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่
ของคำในภาษาไทย มีค่าเท่ากับ 0.7439 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ คิดเป็น
ร้อยละ 74.39 3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ
4) นักเรียนมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ต่อการเรียนโดยรวมและเป็นรายข้ออยู่ในระดับมาก
โดยสรุป แบบฝึกเสริมทักษะ เรื่อง ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น สามารถช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ เข้าใจชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย นักเรียนมีความกระตือรือร้นเมื่อได้ทำแบบฝึกทักษะด้วยตนเอง ทำให้นักเรียนอยากเรียน และมีความสุขในการเรียน ฝึกฝนนิสัยรักการอ่านและการเขียน ตลอดจนมีเจตคติที่ดีต่อการเรียนวิชาภาษาไทย ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นตามลำดับต่อไป