การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย นางมณฑา นัยนิตย์
ปีที่วิจัย 2554
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้โดยการร่วมปฏิบัติกิจกรรม ได้ฝึกทักษะจนเกิดความชำนาญ ได้ช่วยเหลือกันเป็นกลุ่ม โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ความสำเร็จของบุคคลคือความสำเร็จของกลุ่ม การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ (1) พัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75
(2) หาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น (3) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75
(4) หาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น (5)
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น (6)
ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสะโน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2554 จำนวน 25 คน
ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive
Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย มี
4 ชนิด คือ (1) แบบฝึกทักษะ เรื่อง
ระบบสมการเชิงเส้น จำนวน 7
เล่ม (2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ จำนวน 7 แผน ใช้เวลา
17 ชั่วโมง (3)
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน
30 ข้อ มีค่าความยาก (p) ตั้งแต่ 0.40 ถึง 0.73 มีค่าอำนาจจำแนก (B) รายข้อตั้งแต่ 0.33 ถึง 0.80 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (
) เท่ากับ 0.97 และ (4) แบบวัดความพึงพอใจในการเรียน แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale)
5 ระดับ จำนวน
15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (
) ตั้งแต่ 0.35 ถึง 0.69 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (
) เท่ากับ 0.91
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ
ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test
(Dependent
Samples)
ผลการวิจัย
ปรากฏดังนี้
1.
แบบฝึกทักษะ เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 78.40/79.47
ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
2. แบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.5674 หรือคิดเป็นร้อยละ 56.74
3.
แผนการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้น
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.23/79.47
ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
4.
ดัชนีประสิทธิผลแผนการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.5674 หรือคิดเป็นร้อยละ 56.74
5.
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
เรื่อง
ระบบสมการเชิงเส้น
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
6. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง ระบบสมการเชิงเส้น กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61