ฮีตที่ ๑๑ บุญออกวัดสาหรือบุญเดือนสิบเอ็ด

บุญออกพรรษา หรือ บุญออกวัดสาเป็นงานบุญที่กระทำในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี จึงเรียกบุญประจำเดือนนี้ว่าบุญเดือนสิบเอ็ด นับเป็นฮีดที่ ๑๑ ของชาวอีสานและเพื่อเปิดโอกาสให้ภิกษุสงฆ์ว่ากล่าวตักเตือนกันได้ และจากวันนี้เป็นต้นไปพระภิกษุสงฆ์จะได้จาริกไปในที่ต่าง ๆ เพื่อเที่ยวสั่งสอน ศีลธรรมและธรรมะแก่ประชาชนหรือแสวงหาความสงบวิเวก ในการปฏิบัติธรรมตามที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องกลับมาค้างแรมที่วัดเหมือนสามเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ก็อนุญาตให้พระภิกษุสงฆ์หาผ้านุ่งห่ม(ไตรจีวร) มาผลัดเปลี่ยนได้วันออกพรรษาตรงกับวันเพ็ญ (ขึ้น 15 ค่ำ) เดือน 11 เป็นวันที่พระภิกษุสงฆ์ออกจากจำพรรษาหรือการอยู่ประจำที่ตลอดฤดูฝน เป็นระยะเวลา 3 เดือนต่อจากวันนี้ไปพระภิกษุสงฆ์ก็สามารถจาริกไปในที่ต่าง ๆ และค้างแรมในที่อื่นได้

วันออกพรรษานี้มีการทำปวารณา ในหมู่พระภิกษุสงฆคือให้พระภิกษุสงฆ์ทำปวารณาแทนการทำอุโบสถ์สังฆกรรม ยอมให้ว่ากล่าวตักเตือนซึ่งกันและกันต่างรูปต่างกล่าวคำปวารณาตามลำดับอาวุโส มีใจความว่า
สงฺฆมฺภนฺเต ปวาเรมิ ทิฏฺเฐน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา วทนฺตุ มํ อายสฺมนฺโตอนุกมฺปํ อุปาทาย ปสฺสนฺโต ปฏิกฺกริสฺ สามิ ฯ   ข้าพเจ้าขอปวารณาต่อพระสงฆ์ด้วยได้ยินก็ดีได้ฟังก็ดี สงสัยก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงอาศัยความกรุณาว่ากล่าว ข้าพเจ้า เมื่อข้าพเจ้าสำนึกได้จักทำคืนเสียแล้วจักสำรวมระวังต่อไป (กล่าว 3 ครั้ง) ในวันออกพรรษาตามประวัติกล่าวว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์หลังจากที่ได้เสด็จไปจำพรรษาและแสดงพระธรรมเทศนาโปรดพระพุทธมารดาการเสด็จลงจากดาวดึงส์ครั้งนั้นได้เสด็จลงมา ณ เมืองสังกัสสะ บรรดาพุทธศาสนิกชนจึงพากันไปตักบาตรแด่พระพุทธเจ้า เรียกว่าตักบาตรเทโว คำเต็มคือ ตักบาตรเทโวโรหนะ คำว่าเทโวโรหนะ แปลว่า การหยั่งลงจากเทวโลก

สำหรับพิธีตักบาตรเทโวนั้นโดยทั่วไปจะทำกันในบริเวณพระอุโบสถมีการอัญเชิญพระพุทธรูป ซึ่งประดิษฐานบนบุษบกมีล้อเลื่อน มีบาตรตั้งอยู่หน้าพระพุทธรูปแล้วใช้คนลากนำหน้าพระภิกษุสงฆ์จะเดินตามพระพุทธรูป บรรดาพุทธศาสนิกชนจะเรียงรายอยู่เป็นแถวสองข้างทางที่พระพุทธรูปและพระสงฆ์เคลื่อนผ่านเพื่อตักบาตรอาหารที่นิยม นำมาตักในวันนี้มี ข้าวสุก ข้าวต้มมัดใต้ และข้าวต้มลูกโยน  ในที่บางแห่งมีปูชนียวัตถุ เช่นพระธาตุเจดีย์ สร้างไว้บนภูเขา หรือสิ่งก่อสร้างที่สูงๆ เช่นที่ วัดสังกัส จังหวัดอุทัยธานี วัดเขาพระงาม จังหวัดลพบุรี และภูเขาทองวัดสระเกศ ที่กรุงเทพ ฯ ก็จะมีการอัญเชิญพระพุทธรูปลงจากภูเขาบรรดาพุทธศาสนิกชนก็มาคอยตักบาตร โดยตั้งแถวสองแถวเรียงรายรออยู่ที่เชิงเขา เพื่อให้ดูใกล้ความจริงว่า พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากที่สูง  การบำเพ็ญกุศลนอกจากนี้ก็มีการถวายผ้าจำนำพรรษา และพิธีทอดกฐิน ซึ่งจะกระทำกันหลังวันออกพรรษาไปได้อีกถึง วันเพ็ญกลางเดือน 12

 

ในจังหวัดอุบลราชธานีในงานบุญออกพรรษายังมีงานบุญที่ทำเป็นประเพณีประจำมีดังนี้

1. ไต้ระทีปหรือไต้น้ำมัน ซึ่งวัดในหมู่บ้านจะจัดสร้าง ฮ้านประทีป (ห้างประทีป)ขึ้นที่หน้าพระอุโบสถ ซึ่งสร้างด้วยเสาสี่ต้น(จะเป็นเสาไม้ไผ่หรือไม้อะไรก็ได้)แต่ละเสาประดับด้วยต้นกล้วยต้นอ้อยระหว่างเสาสี่ต้นนั้นทำเป็นยกพื้นสูงประมาณหนึ่งเมตรครึ่งปูพื้นด้วยไม้ไผ่สานขัดแตะตาห่างๆ และแซมด้วยกาบกล้วย ตอนกลางคืนของวันจึ้น 14 ค่ำ,15 ค่ำ แรม 1 ค่ำเดือน 11 ชาวบ้านจะนำประทีปธูป เทียน มาจุดบูชาพระรัตนตรัยร่วมกันที่ ฮ้านประทีป" เรียกว่าไต้หมากฮุ่งเฮง โดยมีกำหนด ดังนี้

1.จุดในคืนวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า "ไต้น้ำมันน้อย
         2. จุดในคืนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า "ไต้น้ำมันใหญ่"
         3. จุดในคืนวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เรียกว่า "ไต้น้ำมันหางประทีป"
       2. ไหลเรือไฟเป็นประเพณีซึ่งทำเป็นประจำทุกปีที่แม่น้ำมูลซึ่งทางจังหวัดอุบลราชธานีได้จัดงานขึ้น ซึ่งเป็นงานประเพณี ประจำจังหวัด จัดขึ้น ณ บริเวณแม่น้ำมูล ตรงใกล้ตลาดใหญ่ บริเวณเชิงสะพานรัตนโกสินทร์ซึ่งจะมีการตกแต่งเรือไฟอย่างสวยงาม ตกแต่งด้วย ตะเกียงแก้ว โคมไฟ เรือไฟนี้จะร่วมกันทำหมู่บ้านละลำ พอเย็นหลังพระสงฆ์สวดมนต์เย็นจบชาวบ้านจะนำดอกไม้ธูปเทียนมาตกแต่งประดับประดาเรือให้สวยงามเมื่อถึงเวลาค่ำหลังจาก"ไต้ประทีปแล้วก็จะจุดประทีปตะเกียงและเทียนปักที่ตามแคมเรือ แล้วนำเรือปล่อยให้ไหลไปตามสายน้ำ
           จุดประสงค์ของการไหลเรือไฟเพื่อเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่พระพุทธเจ้าประทับรอยพระบาทไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมมทานทีตามที่พระยานาคได้ทูลขอ
       3. ลอยกระทงในวันออกพรรษานี้ ก็มีการลอยกระทงเพื่อบูชาพระแม่คงคาและเพื่อเป็นการขออโหสิกรรมต่อพระแม่คงคาก็จะลอยกระทงพร้อมปล่อยเรือไฟหรือไหลเรือไฟ แต่โบราณการไหลเรือไฟถือเป็นพิธีกรรมทางพุทธศาสนาจะปล่อยเรือจากหน้าวัดสุปัฏนารามให้ไหลลอยลงไปจนสุดเขตหาดวัดใต้ เป็นการบูชาบ้านเมืองและบูชาพญานาค 15 ตระกูล ในระยะผ่านหน้าเมืองจะมีชายหนุ่มคอยเขี่ยขี้ไต้ให้ลุกโชติช่วงตลอดไป เมื่อพ้นเขตหน้าวัดใต้จะปล่อยเรือไฟให้ลอยไปตามแม่น้ำมูล

 

 บุญเดือนสิบเอ็ด
ที่มา http://youtu.be/s-VxfXlThfI
   
สร้างโดย: 
อชิรญาและนรินทร์โชติ

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 176 คน กำลังออนไลน์