วิตามินบี- คอมเพล็กซ์
•
ประโยชน์ต่อผิวหนัง : วิตามินในกลุ่มนี้มีความสำคัญต่อสุขภาพผิวหนังเป็นอย่างมาก
เป็นตัวช่วยในขบวนการผลิตพลังงานภายในเซลล์ วิตามินบี2 จะช่วยในเรื่องการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
วิตามินบี3 ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและทำให้ผิวหนังไม่ซีด
วิตามินบี12 ช่วยในการแบ่งเซลล์ วิตามินบี9 (หรือกรดโฟลิค) ช่วยในเรื่องการแบ่งและเจริญเติบโตของเซลล์
นอกจากนี้กรดโฟลิคยังช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงด้วย
• ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ
: กลุ่มวิตามินบีมีความสำคัญมากในขบวนการสร้างพลังงานของเซลล์
และช่วยทำให้เอนไซม์ต่างๆ ทำงานตามปกติ วิตามินบีช่วยในการเปลี่ยนแปลงน้ำตาลกลูโคส
ใช้เป็นพลังงาน การขาดวิตามินตัวนี้จะมีผลต่อระดับความรู้สึก หัวใจ
การหายใจ วิตามินบี6 ช่วยลดการอักเสบ ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาว
การสร้างอินซูลิน สร้างภูมิต้านทานโรค และช่วยเกี่ยวกับการควบคุมอารมณ์ความรู้สึก
ส่วนวิตามินบี12 ช่วยเกี่ยวกับเรื่องของระบบสมองและประสาท
•
ความต้องการของร่างกายต่อวัน:
บี1 = 1.1-1.2 มิลลิกรัม
บี2
= 1.1-1.3 มิลลิกรัม
บี3 = 14-16 มิลลิกรัม
บี6 = 2 มิลลิกรัม
บี9
(กรดโฟลิค) = 180-200 ไมโครกรัม (400 ไมโครกรัม สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์)
บี12
= 2 ไมโครกรัม
ในคนที่อายุมากกว่า 40 ปี การดูดซึมวิตามินบีหลายตัวจะลดลงโดยเฉพาะวิตามินบี6
และบี12
• แหล่งอาหาร :
ผัก : บร็อคโคลี มันฝรั่ง เห็ด
แครอท มะเขือเทศ กะหล่ำปลี ผักโขม
ผลไม้ : กล้วย แอปเปิล มะเขือ
ผลไม้ในกลุ่มส้ม
สัตว์ : ไข่ ไก่ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า
อื่นๆ
: ข้าว เมล็ดธัญพืช ถั่ว ถั่วลิสง ถั่ววอลนัท ถั่วอัลมอนด์
วิตามินซี
•
ประโยชน์ต่อผิวหนัง : วิตามินซีเป็นตัวสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
รวมทั้งผิวหนังของเรา นอกจากนี้ยังเป็นตัวสำคัญในการสร้างคอลลาเจนด้วย
•
ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญมากตัวหนึ่ง
และยังสามารถลดไขมันที่ไม่ดีในเลือด (LDL) และเพิ่มไขมันที่ดี
(HDL) ด้วย ช่วยลดความดันโลหิตสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกาย
และโรคเกี่ยวกับระบบตาด้วย
• ความต้องการของร่างกายต่อวัน :
ประมาณวันละ 60 มิลลิกรัม แต่ส่วนมากนักวิทยาศาสตร์ทางด้านอาหารจะแนะนำประมาณ
500-1000 มิลลิกรัม ต่อวันเพื่อให้เกิดประโยชน์ในแง่ Anti-aging
ด้วย
• แหล่งอาหาร : ผัก : ผักใบเขียว บร็อคโคลี กะหล่ำปลี
มะเขือเทศ มันฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่ง (แอสพารากัส) ผลไม้ : ผลไม้แทบทุกชนิดมีวิตามินซี
โดยเฉพาะในกลุ่มของส้ม มะละกอ ฝรั่ง แตงโม แตงเทศ
วิตามินอี
วิตามินอี
มีอยู่ 2 กลุ่มคือ โทโคฟีรอล (tocopherol) และโทโคไตรอีนอล (tocotrienols)
ซึ่งตัวหลังนี้เป็นตัวใหม่ซึ่งเพิ่งมีการค้นพบเมื่อไม่นานนี้และเชื่อกันว่าสามารถช่วยเรื่องการชะลอความแก่ชราได้ด้วย
•
ประโยชน์ต่อผิวหนัง : ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น ลดการอักเสบ และช่วยซ่อมแซมผิวหนัง
•
ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : วิตามินอี เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ
เพราะมีส่วนช่วยลดไขมัน ป้องกันการเกิดการแข็งตัวของเลือด ป้องกันโรคมะเร็งและหัวใจ
•
ความต้องการของร่างกายต่อวัน : ประมาณ 40 IU แต่นักวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์มักแนะนำประมาณ
200-400 IU ซึ่งปริมาณขนาดนี้ไม่สามารถรับประทานได้จากอาหารทั่วไปจำเป็นต้องใช้ในรูปอาหารเสริม
•
แหล่งอาหาร : ผัก : ผักใบเขียว บรอคโคลี มันฝรั่ง , ผลไม้ : มะม่วง
และอื่นๆ เช่น จมูกข้าวสาลี เมล็ดธัญพืช ถั่วอัลมอนด์ ถั่วเหลีอง
น้ำมันพืช ปลาแซลมอนน้ำมันปลา
แร่ธาตุพวกทองแดง สังกะสี และซีลีเนียม
•
ประโยชน์ต่อผิวหนัง : แร่ธาตุเหล่านี้จะทำงานกับวิตามินที่ต้านอนุมูลอิสระเพื่อที่จะทำให้
การกำจัดอนุมูลอิสระทำงานดีขึ้น นอกจากนี้ทองแดงยังช่วยในการสร้างคอลลาเจน
สังกะสีช่วยในการซ่อมแซมคอลลาเจนที่สึกหรอ ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์
และช่วยรักษาสิวด้วย
• ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : การที่แร่ธาตุเหล่านี้ทำให้วิตามินที่ต้านอนุมูลอิสระทำงานดีขึ้นก็จะช่วยในการ
ชะลอความแก่ชราและป้องกันโรคเรื้อรังบางชนิดด้วย นอกจากนี้ยังเป็นส่วนประกอบ
ที่สำคัญของเอนไซม์และฮอร์โมนหลายชนิด
• ความต้องการของร่างกายต่อวัน
: ทองแดง = 2 มิลลิกรัม , สังกะสี = 15 มิลลิกรัม , ซีลีเนียม
= 70 ไมโครกรัม , ถ้าร่างกายได้รับแร่ธาตุเหล่านี้ในปริมาณมากเกินไปอาจเกิดพิษได้
•
แหล่งอาหาร : ผัก : บร็อคโคลี เห็ด , สัตว์ : เนื้อไก่ ปลา ไข่
, อื่นๆ : โยเกิร์ต นม จมูกข้าวสาลี เมล็ดธัญพืช เต้าหู้ ถั่ว
Q 10
Q 10 นี้ถือว่าเป็น
co-enzyme ที่สำคัญตัวหนึ่งในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับขบวนการเสื่อม
ของเซลล์ในร่างกายของคนเรา การที่มีระดับ Q10 ต่ำจะพบร่วมกับโรคที่เกี่ยวกับความชรา
โดยปกติแล้วร่างกายเราสามารถสร้าง Q10 ได้เอง แต่เมื่ออายุมากขึ้นหรือเวลามีความเครียด
ร่างกายก็จะสร้าง Q10 ได้น้อยลง
• ประโยชน์ต่อผิวหนัง : ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่เกิดจากรังสี
UV
• ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : ช่วยสร้างอนุมูลอิสระที่เกิดภายในร่างกาย
และเสริมสร้างขบวนการสร้างพลังงานระดับเซลล์ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันหัวใจและป้องกันการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
•
ความต้องการของร่างกายต่อวัน : โดยทั่วไปนักวิทยาศาสตร์ทางอาหารจะแนะนำให้รับประทาน
30-60 มิลลิกรัมต่อวัน
• แหล่งอาหาร : ถั่วลิสง น้ำมันถั่วเหลือง
ปลาแซลมอน ไข่ เนื้อวัว ตับไต หัวใจ จมูกข้าวสาลี
กรดอัลฟาไลโปอิก (Alphalipoicacid)
สารตัวนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายสามารถสร้างเองได้
•
ประโยชน์ต่อผิวหนัง : นอกจากจะช่วยในแง่ของการต้านอนุมูลอิสระแล้ว
สารนี้ยังช่วยในการสร้าง และซ่อมแซมคอลลาเจนของผิวหนังด้วย
•
ประโยชน์ต่อร่างกายอื่นๆ : ช่วยในการต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในเซลล์
ทำให้การทำงานของวิตามินซี และอี มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
และอาจมีส่วนเกี่ยวกับเรื่องของระบบประสาท
• ความต้องการของร่างกายต่อวัน
: ประมาณ 50-100 มิลลิกรัม ผู้ที่เป็นเบาหวานหรือมีปัญหาเรื่องระบบเส้นประสาท
ควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะรับประทานสารตัวนี้