@@ ^_^ powerpoint ^_^ @@
ความหมายของการนำเสนอข้อมูล ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
การนำเสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้รับสาร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ อันจะทำให้บรรลุผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนำเสนอ
บอกความหมายและความสำคัญของการนำเสนอได้
บอกถึงความสามารถและประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 ไ้ด้
บอกแนวทางในการสร้างงานนำเสนอให้มีประสิทธิภาพได้
บอกเทคนิคและวิธีการนำเสนอข้อมูลที่ดีได้
ประโยชน์ของโปรแกรม PowerPoint
1. สามารถสร้างงานนำเสนอได้ แม้ว่าจะไม่เคยสร้างงานนำเสนอมาก่อน เนื่องจากจะมีระบบช่วยเหลือ(Office Assistant) ใน PowerPoint ซึ่งจะคอยแนะนำหลักการในการสร้างงานนำเสนออย่างเป็นขั้นตอน การเลือกสีมาใช้กับสไลด์ และจัดองค์ประกอบทางศิลป์ได้โดยอัตโนมัติ
2. ในส่วนการนำเสนอภาพนิ่ง สามารถที่จะนำองค์ประกอบมัลติมีเดีย เช่น การนำเอฟเฟค เสียง ดนตรีและวีดีโอ มาใช้ประกอบร่วมได้
3. นอกจากสิ่งที่ได้เตรียมมานำเสนอแล้ว ยังสามารถใช้ PowerPoint เตรียมเอกสารประกอบคำบรรยายและในขณะที่มีการนำเสนองาน ก็สามารถใช้เมาส์วาดเส้นบนสไลด์ที่แสดงอยู่ในขณะนั้นเพื่อเน้นประเด็นสำคัญได้
4. สามารถที่จะดัดแปลงงานนำเสนอที่เป็นไฟล์ PowerPoint เป็นสไลด์ 35 มม. เพื่อใช้นำเสนอผ่านเครื่อข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเครือข่ายอินทราเน็ตภายในองค์กรได้
การนำเสนอที่ดีควรทำอย่างเป็นขั้นตอน โดยเริ่มจากการวางโครงร่างของงาน จากนั้นจึงลงรายละเอียดและจัดทำสไลด์เพื่อนำเสนองานเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงควรทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
1.การวางโครงร่าง
ก่อนเริ่มเตรียมงานนำเสนอ ควรมีความชัดเจนในส่ิ่งที่ต้องการนำเสนอ โดยศึกษากลุ่มผู้ฟังว่ามีลักษณะเช่นไร การเริ่มเตรียมงานนำเสนอโดยการวางโครงร่าง เป็นการถ่ายทอดความคิดของผู้นำเสนอเป็นแนวทางทำให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับงานที่จะนำเสนอ ซึ่งจะช่วยให้ไม่พลาดหัวข้อสำคัญที่ต้องนำเสนอ นอกจากนั้นการวางโครงร่างยังเปรียบเสมือนแผนที่ในการดำเนินเรื่อง จะได้มีความมั่นใจว่าการนำเสนอผลงานนั้นได้ผลลัพธ์ตรงตามจุดประสงค์ที่วางไว้
2. การลงรายละเอียดเนื้อหา
หลังจากวางโครงร่างตั้งแต่เริ่มจนจบแล้ว ต่อไปเป็นการลงรายละเอียดในหัวข้อต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นที่กลุ่มผู้ชมเป็นหลักว่าสไลด์ที่จะนำเสนอต้องมีเนื้อหา หรือรูปแบบการนำเสนอแบบใดจึงจะเหมาะสม ซึ่งต้องพิจารณาตั้งแต่องค์ประกอบต่าง ๆ ที่ใช้ อาทิ ภาพ สี และแนวการนำเสนอ เช่น การบรรยายเชิงวิชาการก็ควรให้โทนสีของสไลด์สอดคล้องกับเนื้อหาที่เน้นไปทางสาระและข้อมูล
3. การใส่ข้อความ รูปภาพ กราฟ หรืออื่น ๆ ในสไลด์
เป็นขั้นตอนที่นำเอาสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องการนำเสนอมาใส่ในสไลด์แต่ละแ่ผ่น โดยขั้นตอนนี้อาจจะไม่ต้องปราณีตเกี่ยวกับความสวยงามมากนัก แต่ควรเน้นให้มีเนื้อหามีความครบถ้วนสมบูรณ์ และมีความสอดคล้องกันทั้งข้อความ รูปภาพและกราฟ
4. การปรับแต่งสไลด์ให้มีสีสันสวยงาม
หลังจากที่ได้ใส่ข้อความที่ต้องการนำเสนอะแล้ว ต่อไปจะต้องทำการปรับแต่งตัวอักษร สีที่ใช้กับสไลด์ และรูปแบบขององค์ประกอบต่าง ๆ ที่แสดง เพื่อให้สไลด์ดูสวยงามและน่าติดตาม เช่น การใช้ข้อความอักษรศิลป์ให้เงากับวัตถุ กำหนดภาพสามมิติ เป็นต้น
5. การเพิ่มความน่าสนใจให้กับสไลด์ในขณะนำเสนอ
กรณีใช้คอมพิวเตอร์ในการนำเสนอสไลด์ ก็อาจนำเทคนิคในการเปลี่ยนแผ่นสไลด์มาใช้ เนื่องจากมีมากมายหลายแบบให้เลือกใช้ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับการนำเสนอข้อมูลได้
6. เตรียมการนำเสนองานจริง
หลังจากได้งานนำเสนอที่สมบูรณ์แล้ว ก่อนถึงเวบาที่จะต้องนำเสนอ ควรซ้อมการพูดให้เข้ากับแผ่นสไลด์ที่เตรียม ควรมีการจับเวลาที่ใช้นำเสนอด้วยเพื่อจะได้ทราบเวลาบรรยายจริง และจะได้ปรับลดให้เหมมาะสมยิ่งขึ้น
7. การเตรียมเอกสารประกอบการบรรยายแจกผู้เข้ารับฟัง
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ จัดพิมพ์เอกสารประกอบการบรรยาย แจกให้ผู้เข้าฟังจะทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการจดบันทึกสิ่งที่ได้นำเสนอไป
การนำเสนอข้อมูลให้มีประสิทธิภาพนั้น จะต้องใช้เทคนิคและวิธีการบางประการ ดังต่อไปนี้
1. ใช้วิธีการนำเสนอที่เหมาะสม วิธีการนำเสนอที่ใช้สำหรับการนำเสนอข้อมูลมีให้เลือกหลายวิธีด้วยกันผู้นำเสนอจะต้องรู้จักข้อดีและข้อเสียของแต่ละวิธีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกวิธีการใดวิธีการหนึ่งเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน วิธีการนำเสนอที่ใช้กันโดยทั่วไปมีดังนี้
- การอธิบายเหตุผล
- การเล่าเหตุการณ์
- การแสดงบทบาทสมมุติ
- การแสดงตัวอย่างประกอบ
- การแสดงการสาธิต
- การบรรยายความรู้
- การอภิปราย
- การปาฐกถา
2.การใช้อุปกรณ์ช่วยในการนำเสนอ ผู้นำเสนอจะต้องพยายามดึงดูดความสนใจและรักษาระดับความสนใจของผู้ฟังไว้ตลอดเวลาที่นำเสนอฉะนั้นอุปกรณ์ประเภทสื่อโสตทัศน์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญและยังช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจเนื้อหาได้ดีขึ้นอีกด้วยอุปกรณ์ที่นิยมใช้กัน มีดังนี้
- เอกสารประกอบการนำเสนอ
- แผ่นใสภาพนิ่ง ภาพยนตร์
- แผนที่แผนภูมิ แผนผัง
- ของจำลองของตัวอย่าง ของจริง
- เครื่องช่วยชี้หรือลูกศรใช้ประกอบขณะบรรยาย
3.ให้ผู้ฟังมีส่วนร่วม การพูดเพียงอย่างเดียว อาจทำให้ผู้ฟังรู้สึกเบื่อหน่ายยิ่งใช้เวลานานความสนนใจของผู้ฟังก็ยิ่งลดลงไปเรื่อย ๆควรหาวิธการกระตุ้นให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมในการนำเสนอ เช่นกร่วมแสดงความคิดเห็นแสดงทัศนคติ ร่วมตั้งคำถาม ซักถามหรือตอบคำถามร่วมทดลองปฏิบัติ หรือร่วมกิจกรรมตามที่ผู้นำเสนอกำหนด เป็นต้นทั้งนี้ผู้นำเสนอควรเลือกให้เหมาะสมกับโอกาสและบุคคล
4.รู้จักใช้จิตวิทยาในการนำเสนอ จิตวิทยาในการนำเสนอหมายถึง การนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพโดยศึกษาถึงจิตใจมนุษย์ ศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์เพื่อจะเสนอสิ่งที่ตนรู้สิ่งที่ตนคิดไปยังบุคคลอื่นได้เข้าใจจึงควรศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อปฏิกิริยาในการรับรู้ของบุคคล ในเรื่องต่อไปนี้
- ความสนใจสนใจเรื่องที่ตนเองเีกี่ยวข้องมากที่สุด เรื่องใกล้ตัวเรื่องที่กำลังเป็นที่นิยมหรือสนใจของสังคมในขณะนั้น เป็นต้น
- แรงจูงใจได้แก่ความอยากรู้อยากเห็น ความสนใจและประสบการณ์ที่เคยมีในเรื่องนั้น ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ ผู้นำเสนอต้องคำนึงถึงสิ่งที่ผู้ฟังปรารถนาหรือตั้งเป้าไว้ด้วยโดยมากสิ่งที่ผู้ฟังปรารถนาก็คือ ต้องการความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นขณะเดียวกันก็ต้องการความบันเทิงด้วยผู้นำเสนอจึงควรประยุกต์ทั้งความรู้และความบันเทิงเข้าด้วยกันทั้งนี้จะต้องเป็นข้อมูลที่มีสาระและเชื่อถือได้ด้วย
5. สรุปทบทวนประเด็นสำคัญการสรุปเป็นการช่วยเหลือให้ผู้ฟังเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อผู้นำเสนอได้อธิบายประเด็นหลักหรือประเด็นสำคัญไปแล้วควรมีการสรุปทบทวนทุกครั้ง เช่น รุปข้อมูล สรุปความเห็น สรุปผลการดำเนินงานสรุปประเด็นสำคัญ ๆ เพราะจะช่วยให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจในส่ิงที่นำเสนอนั้นๆ ชัดเจนทุกขั้นตอน
หลักการทำงานของโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 จะสร้างเอกสารเป็นแผ่น ๆ คล้ายกับแผ่นโปร่งใสโดยในแผ่นงานนั้นสามารถพิมพ์ข้อความ แทรกภาพประกอบ แทรกตาราง เติมสีและออกแบบองค์ประกอบแ่ผ่นงานให้สวยงามได้หลากหลายรูปแบบ
แผ่นงานแต่ละแผ่นจะเรียกว่าสไลด์(Slide) โดยแต่ละไฟล์สามารถสร้างสไลด์ได้จำนวนมากเพียงพอที่จะสร้างงานนำเสนอได้เราสามารถจะลบ เพิ่ม แทรก หรือเคลื่อนย้ายสลับหน้ากันไปมาได้
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
เปิดโปรแกรม MicrosoftPowerPoint 2003 ได้อย่างถูกต้อง
บอกส่วนประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 ได้อย่างถูกต้อง
สร้างงานนำเสนอข้อมูลหัวข้อที่สนใจตามรูปแบบต่าง ๆ ได้
เปิดมุมมองการทำงานของงานนำเสนอด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint2003 ได้
ปิดโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 ได้อย่างถูกต้อง
การเข้าสู่โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003์
1. ให้คลิกปุ่ม
2. แล้วคลิกที่ โปรแกรมทั้งหมด (All Programs)
3. และคลิกเลือกหัวข้อ Microsoft Office
4. คลิกเลือก Microsoft Office PowerPoint 2003
ในกรณีที่เคยสร้างงานนำเสนอด้วยโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 มาก่อนแล้ว ให้ดับเบิลคลิกไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .ppt(จาก My Computer) ก็จะเปิดทั้งโปรแกรม MicrosoftPowerePoint 2003และไฟล์นั้นขึ้นมาให้อัตโนมัติ
ส่วนประกอบต่างๆ ของเพาเวอร์พอยต์
1. เมนูคำสั่ง เป็นที่รวบรวมคำสั่งต่าง ๆ ไว้ใช้สั่งงานๆ เครื่องมือ(Tools) ที่ใช้ในการสร้างสไลด์
เมื่อเข้าสู่โปรแกรมเพาเวอร์พอยต์แล้ว จะปรากฏหน้าจอที่มีส่วนประกอบสำคัญดังนี้
2. แถบเครื่องมือ เป็นปุ่มสำหรับการสั่งงาน ที่คลิกได้ทันที ไม่ต้องเลือกหัวข้อคำสั่งจากเมนู
3. แถบแสดงภาพนิ่ง
4. พื้นที่ออกแบบภาพนิ่ง
5. แถบสถานะ แสดงสถานะการทำงานของเพาเวอร์พอยต์
6. บานหน้าต่างงาน เป็นที่รวมของคำสั่งที่เกี่ยวข้องกัน
7. ปุ่มแสดงมุมมอง เป็นส่วนที่แสดงมุมมองต่างๆ
แถบเครื่องมือจัดรูปแบบ(Formatting)
การแสดงหรือซ่อนเึครื่องมือ
แถบเครื่องมือที่มักถูกแสดงเมื่อเปิดโปรแกรม คือแถบเครื่องมือมาตรฐาน (Standard) และ แถบจัดรูปแบบ (Formatting) ถ้าจะแสดงแถบเครื่องมืออื่น ให้คลิกขวาบนแถบเครื่องมือใด ๆ แล้วคลิกชื่อแถบเครื่องมือที่ต้องการ หรือคลิกซ้ำอีกครั้งเพื่อปิดแถบเครื่องมือเพื่อให้มีพื้นที่แสดงสไลด์ได้มากขึ้น
ย้ายตำแหน่งแถบเครื่องมือ
เพิ่มและยกเลิกปุ่มบนแถบเครื่องมือ
ปุ่มคำสั่งที่อยู่บนแถบเครื่องมือนั้นมีอยู่เป็นจำนวนมาก อาจจะแสดงหรือไม่แสดงขึ้นอยู่กับการใช้งานครั้งล่าสุดที่ผู้ใช้กำหนดไว้ ถ้าบางปุ่่มหายไปและต้องการเพิ่มปุ่มนั้นบนแถบเครื่องมือก็ทำได้ ดังภาพ
การยกเลิกคำสั่งที่เพิ่งทำไปหรือทำคำสั่งเดิมซ้ำ
ขณะทำงาน ถ้าเรียกคำสั่งใดไปแล้วเปลี่ยนใจ ต้องการให้กลับเป็นแบบเดิม หรือเกิดความผิดพลาดขึ้น เช่น ลบข้อความโดยไม่ตั้งใจ ก็สามารถย้อนสิ่งที่ทำไปกลับคืนมาได้ โดยใช้ปุ่ม Undo และหากเปลี่ยนใจต้องการให้กลับไปเป็นเหมือนก่อนที่จะ Undo ก็ใช้ปุ่ม Redo แทน ดังรูป
การทำงานกับทาสก์เพน
ทาสก์เพน คือ พื้นที่ที่รวบรวมคำสั่งที่มักใช้บ่อยๆ ซึ่งจะช่วยให้ทำงานได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยจะแสดงก็ต่อเมื่อเรียกเฉพาะบางคำสั่งหรือคลิกปุ่มใดเข้า เช่น คำสั่ง File > New
ปุ่มขวาของเมาส์ใช้ทำอะไร
คำสั่งในโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 มีอยู่มากมาย ซึ่งอาจจะจำไม่ได้ จึงมี "เมนูลัด" ที่จะแสดงให้เห็นเมื่อคลิกเมาส์ปุ่มขวาตรงที่เป็นข้อความ , รูปภาพ หรือสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ในสไลด์ โดยเมนูลัดจะแสดงคำสั่งที่แตกต่างกันไปสำหรับงานแต่ละอย่าง เช่นเมนูลัดของข้อความจะมีคำสั่งที่ต่างจากเมนูลัดของรูปภาพ
ตัวอย่างเมนูลัดเมื่อคลิกขวาที่ข้อความ ตัวอย่างเมนูลัดเมื่อคลิกขวาที่รูปภาพ
การสร้างงานนำเสนอ
ในการใช้แผ่นสไลด์เพื่อนำเสนอ มีสิ่งที่ควรรู้อยู่ 3 อย่าง คือ
การสร้างงานนำเสนอภายในโปรแกรม Microsoft PowerPoint สามารถทำได้หลายวิธีและหลายแบบด้วยกัน ซึ่งแต่ละแบบก็จะให้ผลที่ต่างกัน มีวิธีการสร้างงานพรีเซนเตชันได้ 4 วิธี ดังนี้ี้
1. การงานนำเสนอแผ่นเปล่า(Blank Presentation) เริ่มด้วยสไลด์ว่าง ๆ ตามค่ามาตรฐานที่ไม่มีการออกแบบและใช้สีอะไรเลย ผู้สร้างงานเป็นผู้ออกแบบพื้นหลัง แบบของตัวอักษร และรายละเอียดต่าง ๆ
2. การสร้างด้วยแม่แบบการออกแบบ(Design Template)สร้างสไลด์จากแม่แบบของโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 ที่มีการออกแบบพื้นสไลด์ด้วยลวดลายต่าง ๆ ตลอดจนแบบอักษรและสีที่ใช้กับส่วนต่าง ๆ ในสไลด์ไว้แล้ว หรือจะใช้แม่แบบจากที่เราสร้างไว้ก็ได้
3. การสร้างด้วยตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ(AutoContent Wizard) ใช้แม่แบบที่มีทั้งเนื้อหาในสไลด์อย่างคร่าว ๆ เช่น การอบรม พร้อมทั้งพื้นสไลด์ที่มีลวดลายให้ ช่วยให้เราไม่เสียเวลาเรียบเรียงเนื้อหาใหม่
4. การสร้างด้วยงานนำเสนอที่มีอยู่ (Existing Presentation Photo Album) เป็นการสร้างงานนำเสนอจากไฟล์พรีเซนเตชันเดิมที่เคยสร้างไว้เป็น Photo Album โดยจะนำไฟล์ Photo Album เดิมมาแก้ไขเพิ่มเติม
1. ไม่ควรใช้สไลด์มากเกินไป ควรใช้ประมาณ 8-10 แผ่น
2. ใช้ภาพหรือสัญลักษณ์แทนตัวอักษร เช่น กราฟ หรือ ภาพวาด
3. ใช้ตัวอักษรให้น้อยที่สุด ประมาณ 5 - 7 บรรทัดในแต่ละสไลด์
รายละเอียดการสร้างงานทั้ง 4 แบบ มีดังนี้
การสร้างภาพนิ่งใหม่จากงานนำเสนอแผ่นเปล่า
โดยปกติเมื่อเริ่มเปิดโปรแกรมเข้ามาครั้งแรก จะปรากฎงานนำเสนอว่าง ๆ ขึ้นมาให้เราใส่เนื้อหาได้เลยทันที แต่ถ้าต้องการสร้างงานนำเสนอแผ่นเปล่าซ้ำขึ้นอีกให้ทำได้ดังนี้
1. คลิกเมาส์ที่เมนู Fileเลือก New เพื่อสร้างงานนำเสนอ
2. คลิกเลือก Blank Presentation(งานนำเสนอแผ่นเปล่า)
3. คลิกเลือกเค้าโครง
4. ผลลัพธ์การสร้างสไลด์ด้วย Blank Presentation
การสร้างภาพนิ่งใหม่จากแม่แบบการออกแบบ( Design Template)
การสร้างงานพรีเซนเตชันด้วย Template นี้ จะมีการออกแบบองค์ประกอบทางด้านศิลป์ อาทิ รูปแบบ ตัวอักษร และสีที่ใช้ตกแต่งสไลด์ ซึ่งได้ถูกนำมาสร้างเป็นสไลด์แม่แบบที่เราเรียกว่า Template ให้เหมาะกับงานนำเสนอประเภทต่าง ๆ ให้เราเลือกใช้ โดย Template เหล่านี้ได้ถูกออกแบบมาอย่างดีโดยมืออาชีพ จึงดูสวยงาม ซึ่งได้คำนึุงถึงหลักในการใช้งานนำเสนอข้อมูลเป็นอย่างดี หากเราต้องการเปลี่ยนองค์ประกอบใดใน Template ก็สามารถทำได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด
ขั้นตอนการสร้างสไลด์จากแม่แบบการออกแบบ
1. ให้คลิกจากเมนู File > New
2. คลิกที่ On my computer (บนคอมพิวเตอร์ของฉัน)
3. คลิกแท็บ Presentations ซึ่งเป็นแม่แบบการออกแบบ ซึ่งมีแม่แบบภาพนิ่งไว้ให้เลือกใช้ มีการตรียมหัวเรื่องและลำดับที่จะบรรยาย รวมทั้งมีการตกแต่งไว้อย่างสวยงาม
4. คลิกเลือกชุดสไลด์ที่ต้องการ
5. คลิกปุ่ม ok
6. ใส่หรือแก้ไขข้อความตามต้องการ สามารถนำมาแก้ไขหรือดัดแปลงเพื่อลดขั้นตอนการสร้างสไลด์ใหม่ให้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
การสร้างด้วยตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ(AutoContent Wizard)
ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ (AutoContent Wizard) มีไว้เพื่อช่วยสร้างชุดสไลด์ให้ง่ายขึ้น โดยมีการวางแนวของเนื้อหาที่จำเป็น ลำดับสไลด์ และตกแต่งให้เสร็จ ทั้งนี้ตัวช่วยสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ จะถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับงานนำเสนอและรวบรวมคำตอบเหล่านั้นมาสร้างเป็นชุดสไลด์เบื้องต้นให้ แต่ไม่สามารถนำไปฉายสไลด์ได้ทันที ต้องใส่เนื้อหา หรือข้อมูลเพิ่มเติม
มีขั้นตอนการสร้าง ดังนี้
1. เลือกคำสั่ง File > New
2. คลิก From AutoContent Wizard
3. คลิกปุ่ม next เพื่อทำขั้นตอนต่อไป
4. คลิกเลือกหมวดของสไลด์ เพื่อแสดงประเภทของสไล์ทางด้านขวา
ถ้าจะแสดงทุกเรื่อง คลิกปุ่ม All (ทั้งหมด)
ปุ่ม Corporate (องคฺ์กร) การนำเสนอเกี่ยวกับบริษัท/องค์กร
ปุ่ม General (ทั่วไป) งานนำเสนอทั่ว ๆ ไป เช่น การสอน การระดมสมอง ฯลฯ
ปุ่ม Projects (โครงการ) งานนำเสนอเกี่ยวกับโครงการ รายงานต่าง ๆ
ปุ่ม Sale/Marketing (ฝ่ายขาย/การตลาด) งานนำเสนอด้านากรขายและการตลาด
5. คลิกเลือกเรื่องของงานนำเสนอ แล้วคลิกปุ่ม Next (ถัดไป)
6. คลิกเลือกรูปแบบของสื่อที่ใช้ในการนำเสนอ
On-screen presentation(งานนำเสนอบนหน้าจอ) นำเสนอผ่านทางจอภาพ
Wave presentation (งานนำเสนอบนเว็บ) นำเสนอผ่านทางเว็บ
ฺBlack and white overheads (เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะแบบขาวดำ) นำเสนอโดยใช้แผ่นใสขาวดำ
Color overheads (เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะแบบสี) นำเสนอโดยใช้แผ่นใสและเครื่องพิมพ์สี
35mm slides (ภาพนิ่ง 35 มม.) นำเสนอโดยใช้สไลด์ขนาด 35 มม. แล้วคลิกปุ่ม Next (ถัดไป)
7. ใส่ชื่อหัวเรื่องของงานนำเสนอชิ้นนี้
8. กรอกข้อความที่จะให้แสดงที่ด้านล่างของสไลด์ทุกแผ่น
9. คลิกเรื่องสิ่งที่จะให้แสดงที่ท้ายสไลด์ทุกๆ แผ่น มีวันที่ล่าสุดที่ปรับปรุงและเลขที่หน้า
10. งานที่ได้จะเป็นโครงร่างหัวข้อคร่าว ๆ ที่จะต้องป้อนข้อมูลใหม่เข้าไปแทนที่ เพิ่มเติมหรือลบตามความจำเป็นของเนื้อหา แล้วลองฉายสไลด์ดูว่าหน้าตาชุดสไลด์ที่เพิ่งสร้างขึ้นมานั้นเป็นยอย่างไร
การสร้างด้วยงานนำเสนอที่มีอยู่ (Existing Presentation Photo Album)
ป็นการสร้างงานนำเสนอจากไฟล์พรีเซนเตชันเดิมที่เคยสร้างไว้เป็น Photo Album โดยจะนำไฟล์ Photo Album เดิมมาแก้ไขโดยการออกแบบหรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหาใหม่แทนเนื้อหาที่มีอยู่เดิมเพิ่มเติม
การกำหนดขนาดสไลด์ใหม่
ปกติโปรแกรมจะกำหนดขยนาดสไลด์ให้พอกับที่จะฉายบนจอภาพ แต่อาจปรับขนาดใหม่ได้ดังนี้
1. เลือก File > Page Setup
2. เลือกขนาดของพื้นที่ที่จะพิมพ์ หรือขนาดของสไลด์โดยมีขนาดต่าง ๆ ดังนี้
On-Screen Show(นำเสนอทางหน้าจอ) ขนาดสไลด์เท่ากับพื้นที่บนจอภาพ
Letter (8.5x11 in) (กระดาษ8.5x11 นิ้ว) ขนาดสไลด์หรือกระดาษที่จะใช้พิมพ์มีขนาด 8.5 x 11 นิ้้ว
Ledger Paper (210x297 mm) (กระดาษ A4 210x297 มม. ) ขนาดสไลด์หรือกระดาษที่จะใช้พิมพ์มีขนาด 210x297 มม.
35 mm Slides (ภาพนิ่ง 35 มม.) ขนาดสไลด์จะกว้าง-ยาวตามสัดส่วนของฟิล์มสไลด์ 35 มม. คือ 11.25x7.5 นิ้ว
Overhead (เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ) ขนาดสไลด์หรือพื้นที่ที่จะพิมพ์มีขนาดเท่าแผ่นใสคือ 10x7.5 นิ้ว
ฺBanner (ป้ายประกาศ) ขนาดสไลด์เป็นแถบยาวขนาด 8x1 นิ้ว เพื่อใช้ในเว็บเพจ
Custom (กำหนดเอง) ขนาดสไลด์จะเท่าักัีบที่กำหนดไว้ในช่อง Width(ความกว้าง) หรือ Height (ความสูง)
สร้างเครื่องหมายหน้าหัวข้อ
การสร้างสไลด์ในรูปแบบที่ต้องการแยกเป็นข้อ ๆ เหมาะที่จะใช้สไดล์ Layout แบบ Bulleted List นั่นเอง
คลิกเมนู Insert เลือกคำสั่ง New Slide หรือคลิกปุ่ม Insert New Slide
บน Task Pane ทางด้านขวามือ เลือกรูปแบบสไลด์ ชื่อว่า Title and Text แล้วคลิกปุ่ม Ok
พิมพ์รายการที่ต้องการในออปเจ็ค เมื่อต้องการขึ้นหัวข้อใหม่ให้กดแป้น Enter กรณีที่กดแป้น Enter เกินจากที่ต้องการให้กดแป้น Back space
เมื่อพิมพ์ครบจำนวนหัวข้อที่ต้องการ ให้คลิกนอกออปเจ็คหรือกดแป้น Esc
การเปลี่ยนเครื่องหมายหน้าหัวข้อ
การเลือก Layout ประเภท Bulleted List นั้น อาจจะได้สัญลักษณ์หน้าข้อที่ไม่ถูกใจเท่าไหร่นัก แต่ก็สามารถเปลี่ยนรูปแบบของเครื่องหมายหน้าหัวข้อได้ดังนี้
เลือกออปเจ็คที่ต้องการเปลี่ยนเครื่องหมายหน้าหัวข้อ (Bullet) ทั้งออปเจ็ค
คลิกเมนู Format เลือกคำสั่ง Bullets and Numbeing
เลือกรูปแบบ Bullet ใหม่ที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม OK
กรณีที่ต้องการมากกว่าที่ปรากฎอยู่ให้คลิกปุ่ม Customize
เลือกรูปแบบที่ต้องการแล้วคลิกปุ่ม OK
มุมมองการทำงานใน PowerPoint
การออกแบบและทำงานกับสไลด์พรีเซนเตชั่นบน PowerPoint นั้น เราสามารถเลือกมุมมองที่เหมาะสมกับลักษณะการทำงานกับสไลด์ในขณะนั้นได้ เช่น ต้องการคัดลอกสไลด์ เราก็เปิดใช้มุมมองแบบ Slide Sorter ที่แสดงสไลด์ทั้งหมด เป็นต้น
สำหรับมุมมองต่าง ๆ ใน PowerPoint สามารถเลือกได้จากปุ่มคำสั่งบริเวณด้านล่าง-ซ้ายของโปรแกรมหรือเลือกเมนู View > มุมมองที่ต้องการ
1. มุมมอง Normal View (มุมมองปกติ)
เป็นมุมมองพื้นฐานในการทำงานบนโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 ซึ่งโปรแกรมจะแสดงมุมมองนี้ขึ้นมาก่อนเสมอ เมื่อเปิดขึ้นมา โดยจะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน คือ แบบ Outline(เค้าร่าง) แลtแบบ Slides(ภาพนิ่ง)
มุมมอง Outline
มุมมองนี้จะแสดงเนื้อหาที่ใช้ในการนำเสนอสำหรับให้เราจัดเรียงลำดับหัวข้อ และแก้ไขข้อความ หรือเพิ่มประเด็นที่ต้องการ โดยแบ่งจอภาพการทำงานเป็น 3 ส่วน คือ หน้าต่างหลัก หน้าต่างเค้าร่าง และหน้าต่างบันทึกย่อ
หน้าต่างหลัก เป็นส่วนของสไลด์ที่เราทำงานด้วย ในการตกแต่งสไลด์ พิมพ์ข้อมูลต่าง ๆ ใส่รูปภาพ วาดรูปหรือใส่กราฟ จะทำงานบนพื้นที่นี้เสมอ
หน้าต่าง Outline(เค้าร่าง) : แสดงเนื้อหาในการนำเสนอที่อยู่บนสไลด์แต่ละแผ่น โดยมีการจัดลำดับชั้นของเนื้อหาอย่างเป็นระบบ
หน้าต่างบันทึกย่อ : ผู้ออกแบบสไลด์สามารถเขียนข้อความลงในส่วนนี้ เช่น จุดประสงค์ ประเด็นหลักของสไลด์ หรือข้อมูลเพิ่มเติม เป็นต้น
มุมมอง Slides
เป็นมุมมองที่ใช้ตกแต่งองค์ประกอบต่าง ๆในแต่ละสไลด์ เช่น รูปแบบตัวอักษร และสีที่ใช้ โดยสามารถคลิกเมาส์เลือกสไลด์ที่ต้องการทำงานด้วยได้ย่างรวดเร็ว จากหน้าต่าง Slide ทางด้านข้าง
2. มุมมอง Slide Sorter View (มุมมองตัวเรียงลำดับภาพนิ่ง)
เป็นมุมมองที่แสดงสไลด์ทั้งหมดในงานนำเสนอ โดยจะแสดงสไลด์ทั้งหมดตั้งแต่แผ่นแรกจนถึงแผ่นสุดท้าย ทำให้เราสามารถจัดเรียงลำดับแผ่นสไลด์ที่สร้างเพิ่มหรือลบสไลด์ได้ง่าย นอกจากนั้นยังใช้เพื่อตรวจสอบภาพรวมของงาน ก่อนที่จะนำไปใช้จริงต่อไป
3. มุมมอง Slide Show (มุมมองการนำเสนอภาพนิ่ง)
เป็นมุมมองที่ใช้ในการแสดงผงงานให้กับผู้ชม เหมือนกับการฉายแผ่นสไลด์ โดยเราสามารถเปลี่ยนไปยังนสไลด์ถัดไป หรือเลือกกระโดดไปยังสไลด์ที่ต้องการได้ เราอาจใช้มุมมองนี้เพื่อให้แน่ใจว่างานนำเสนอถูกต้องเรียบร้อยดี
การแทรกแผ่นสไลด์
1. การแทรกสไลด์แผ่นใหม่ เมื่อต้องการเพิ่มสไลด์เพื่อกำหนดเนื้อหาเข้าไปใหม่ แนะนำให้ใช้มุมมอง Slide Sorter View เพราะจะแสดงสไลด์ได้หลายแผ่นพร้อมกันบนจอภาพ ทำให้สามารถเลือกตำแหน่งที่ต้องการแทรกสไลด์แผ่นใหม่ได้
ขั้นตอนการแทรก
- ในมุมมอง Slide Sorter View ให้คลิกเมาส์เลือกตำแหน่งที่ต้องการ
- เลือกคำสั่ง Insert>New Slide เพื่อแทรกสไลด์แผ่นใหม่
- ที่หน้าต่าง Slide Layout บริเวณด้านข้างของโปรแกรม ให้เลือกเค้าร่างที่ต้องการใช้กับสไลด์ใหม่ที่สร้างขึ้น
- จะปรากฎสไลด์แผ่นใหม่แทรกอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
2. การแทรกสไลด์ด้วยการคัดลอกสไลด์ ใช้เมื่อต้องการสร้างสไลด์แผ่นใหม่ที่มีรูปแบบคล้ายกับสไลด์ที่มีอยู่ในไฟล์งานเดียวกัน ควรใช้วิธีการคัดลอกสไลด์ที่มีอยู่แล้วมาใช้เป็นสไลด์ใหม่ ซึ่งนำมาวางองค์ประกอบต่าง ๆ และ แก้ไขตกแต่งบางส่วนเพิ่มเติม
การย้ายสไลด์ไปในตำแหน่งที่ต้องการ
หากเห็นว่าลำดับการนำเสนอสไลด์ไม่ต่อเนื่องกัน ก็สามารถเคลื่อนย้ายสไลด์ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
1. เลือกแสดงมุมมอง Slide Sorter
2. คลิกเลือกสไลด์ที่จะเคลื่อนย้ายตำแหน่ง
3. แดรกส์เมาส์วางสไลด์ลงในตำแหน่งที่ต้องการ
4. ปล่อยเมาส์ก็จะได้สไลด์อยู่ในตำแหน่งที่กำหนด
การลบสไลด์
การลบสไลด์สามารถดำเนินการลบสไลด์ที่ไม่ต้องการออกไป โดยทำได้ทั้ง 4 มุมมอง มีขั้นตอนการลบ ดังนี้
1. เข้าไปที่มุมมอง Slide Sorter คลิกเมาส์เลือกสไลด์ที่ต้องการลบ
2. เลือก Edit>Delete Slide หรือกดปุ่ม <Delete > บนคีีย์บอร์ด
3. สไลด์ที่เลือกจะถูกลบหายไป
การปิดโปรแกรมเพาเวอร์พอยต์ ถ้ามีการพิมพ์ข้อความหรือมีการทำงานใด ๆ ในแผ่นสไลด์ จะมีกรอบคำถามยืนยันว่าต้องการบันทึกข้อมูลที่สร้างขึ้นหรือแก้ไขเพิ่มเติมไว้หรือไม่ ข้อความที่อยู่ในสไลด์จะมีลักษณะเป็นกรอบสี่เหลี่ยม เรียกว่า เท็กซ์บอกซ์(Text Box) โดยปกติในสไลด์แต่ละแผ่นจะกำหนดเท็กซ์บอซก์์มาให้ เช่น สไลด์แบบชื่่อเรื่องและข้อความแบบสองคอลัมน์ ซึ่งเมื่อพิมพ์ข้อความแล้วสามารถปรับแต่งเท็กซ์บอกซ์ให้สวยงามได้ แต่ถ้าเป็นหัวข้อความที่ต้องการเรียกร้องความสนใจจากผู้เข้าชม ควรจะใช้โปรแกรมอักษรศิลป์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใส่ตัวอักษรสวย ๆ ลงในเอกสาร ภายใน WordArt จะมีรูปแบบตัวอักษรลักษณะต่าง ๆให้เราได้เลือกใช้นอกจากนี้สไลด์ก็ควรมีการตกแต่งสีพื้นให้สวยงาม ด้วยการเติมสีลงในส่วนที่เป็นพื้นหลังสไลด์ เพื่อช่วยการเน้นภาพ หรือทำให้ข้อความที่ถูกแสดงนั้น มีลักษณะที่ดูเด่นมีสีสันมากยิ่งขึ้น เราสามารถทำได้โดยการใส่พื้นหลังด้วยเอ็ฟเฟกต์พิเศษต่าง ๆ ที่มีให้แต่งมากมายหลายแบบ
พิมพ์ข้อความโดยใช้กล่องข้อความ (Text Box) ได้
เมื่อเสร็จสิ้นการใช้งานโปรแกรมเพาเวอร์พอยต์ แล้วเมื่อต้องการออกจากโปรแกรมหรือปิดโปรแกรมสามารถทำได้โดยวิธีการดังต่อไปนี้
วิธีที่ 1. Double Click (มุมซ้ายมือบนสุดของจอภาพ)
วิธีที่ 2. Click Mouse ที่ (มุมขวาบนสุดของจอภาพ)
วิธีที่ 3. เลือก แฟ้ม > จบการทำงาน
ถ้าต้องการบันทึกไว้ให้คลิกที่ปุ่ม ใช่ ไม่ต้องการบันทึกคลิกที่ปุ่มไม่ใช่ และปุ่ม ยกเลิก สำหรับยกเลิกคำสั่งที่สั่งไว้ก่อนหน้า ในที่นี้คือการปิดโปรแกรมแล้วกลับมาใช้งานปกติ ถ้าคลิกใช่ จะมีกรอบใ้หใส่ชื่อแฟ้มเอกสารจัดเก็บเป็นแฟ้มข้อมูลลงในฮาร์ดดิสก์หรือแผ่นดิสก์เกสต์
ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
ปรับแต่งข้อความและกล้องข้อความ (Text Box)ได
ใช้อักษรศิลป์ (WordArt) แต่งข้อความให้สวยงามได้
กำหนดพื้นสไลด์ตามรูปแบบต่าง ๆ ได้
สร้างสไลด์จากแม่แบบ (Template) ได้