ตัวละคร
ขุนแผน
ขุนแผน เดิมชื่อพลายแก้ว มีรูปร่างหน้าตางดงามสติปัญญาเฉลียวฉลาด นิสัยเจ้าชู้ มีดาบฟ้าฟื้นเป็นอาวุธประจำตัว พาหนะคู่ใจคือ ม้าสีหมอก พ่อเป็นทหารชื่อ ขุนไกรพลพ่าย แม่ชื่อ นางทองประศรี ได้บวชเณรและเรียนวิชาที่วัดส้มใหญ่ แล้วย้ายไปเรียนต่อที่วัดป่าเลไลย สุดท้ายไปเป็นศิษย์สมภารคง วัดแค จนมีความรู้ทางโหราศาสตร์ ปลุกผี อยู่ยงคงกระพัน คาถามหาละลวยทำให้ผู้หญิงรักตลอดจนวิชาจากตำรับพิชัยสงคราม และยังมีความสามารถเทศ์ได้ไพเราะจับใจอีกด้วย ต่อมาสึกจากเณรแล้วแต่งงานกับนางพิมพิลาไลย ไม่นานก็ถูกเรียกตัวไปเป็นแม่ทัพรบกับเชียงใหม่ครั้นได้ชัยชนะกลับมาก็ได้เป็นขุนแผนแสนสะท้าน แต่ปรากฏว่าภรรยาแต่งงานใหม่แล้ว ขุนแผนต้องโทษถูกจำคุกถึง ๑๕ ปี จึงพ้นโทษ และทำสงครามกับเชียงใหม่อีกครั้ง เมื่อชนะกลับมาได้ตำแหน่งเป็นพระสุริทรฤาไชย เจ้าเมืองกาญจนบุรี
ขุนช้าง
ขุนช้าง มีลักษณะรูปชั่วตัวดำ หัวล้านแต่กำเนิด นิสัยเจ้าเล่ย์เพทุบาย ได้ชื่อว่าขุนช้างเพราะตอนคลอดนั้น มีผู้นำช้างเผือกมามอบให้สมเด็จพระพันวษา พ่อชื่อ ขุนศรีวิชัย แม่ชื่อ นางเทพทองมีฐานะร่ำรวย แม้จะเกิดมาเป็นลูกเศรษฐี แต่ก็อาภัพถูกแม่เกลียดชังเพราะอับอายที่มีลูกหัวล้านจึงมักถูกแม่ด่าว่าอยู่เสมอและไม่ว่าจะเดินไปทางใดก็จะเป็นที่ขบขันล้อเลียนของชาวบ้านทั่วไปเสมอพอเป็นหนุ่มก็ได้นางแก่นแก้ว เป็นภรรยา อยู่ด้วยกันได้ปีกว่านางก็ตาย จึงหันมาหมายปองนางพิมพิลาไลย แต่งงานกับนางสมใจปรารถนา
วันทอง
“ทรวดทรงส่งศรีไม่มีแม้น อรชนอ้อนแอ้นประหนึ่งเหลา
ผมสลวยสวยขำดำเป็นเงา ให้ชื่อว่าเจ้าพิมพิลาไลย”
นางพิมพิลาไลย เป็นหญิงรูปงาม แต่ปากจัด พ่อชื่อ พันศรโยธา แม่ชื่อ นางศรีประจัน ต่อมารได้แต่งงานกับพลายแก้ว ซึ่งภายหลังมีลูกชายด้วยกัน คือ พลายงาม ครั้นพลายแก้วไปทำสงคราม นางก็ป่วยหนักรักษาเท่าไรก็ไม่หาย ขรัวตาจู วัดป่าเลไลย ตรวจดูดวงชะตาและแนะนำให้เปลี่ยนชื่อเป็น นางวันทอง อาการไข้จึงหายต่อมานางถูกแม่บังคับให้แต่งงานใหม่กับขุนช้าง นางต้องถูกประณามว่าเป็นหญิงสองใจ เมื่อมีคดีฟ้องร้องถึงสมเด็จพระพันวษา และพระองค์ให้นางเลือกว่าจะอยู่กับใคร แต่นางตัดสินใจไม่ถูกจึงถูกสั่งให้ประหารชีวิต
นางลาวทอง
นางลาวทอง เป็นลูกของแสนคำแมน นายบ้านจอมทอง แห่งเชียงใหม่ แม่ชื่อนางศรีเงินยวง พ่อยกนางให้เป็นภรรยาของพลายแก้วเพื่อตอบแทนบุญคุณที่กองทัพของพลายแก้วไม่ได้รุกรานผู้คนในหมู่บ้านให้เดือนร้อน พลายแก้วพานางกลับมาที่กรุงศรีอยุธยาด้วย เมื่อได้ตำแหน่งขุนแผนแสนสะท้านแล้วพานางไปที่สุพรรณบุรี ครั้นได้พบกับนางวันทองก็โต้เถียงกันอย่างรุนแรง ขุนแผนโกรธที่ถูกนางวันทองพูดก้าวร้าวล่วงเกิน จึงพานางลาวทองไปอยู่ที่กาญจนบุรี ต่อมานางป่วยหนักขุนแผนจึงออกจากวังมาเยี่ยม ทำให้ขุนช้างมีโอกาสใส่ความขุนแผน นางจึงถูกพรากเข้าไปอยู่ในวังทำหน้าที่ปักสะดึงกรึงไหม
แต่เมื่อขุนแผนขออภัยโทษให้นางเป็นอิสระ สมเด็จพระพันวษาก็ไม่พอใจสั่งจำคุกขุนแผนไว้ นางลาวทองจึงต้องพลัดพรากจากขุนแผนเป็นเวลานานถึง ๑๖ ปีจนกระทั่งขุนแผนพ้นโทษจึงได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก
พลายงาม
พลายงาม มีตำแหน่งทางราชการเป็นจมื่นไวยวรนาถ ซึ่งมักเรียนกันสั้น ๆ ว่า พระไวย หรือหมื่นไวย เป็นลูกของขุนแผนกับนางวันทอง แต่ไปคลอดที่บ้านของขุนช้าง เพราะนางถูกฉุดไปขณะที่ท้องแก่ ยิ่งโตพลายงามก็ยิ่งละม้ายคล้ายคลึงกับขุนแผนมากขึ้น ทำให้ขุนช้างเกลียดมาก วันหนึ่งจึงหลอกพลายงามไปฆ่าในป่า แต่โหงพรายของขุนแผนมาช่วยไว้ นางวันทองจึงให้ไปอยู่กับนางทองประศรีที่กาญจนบุรีพลายงามได้เรียนวิชาจากตำราของพ่อจนเชี่ยวชาญ มีความสามารถเช่นเดียวกับขุนแผนต่อมาได้อาสายกทัพไปรบกับเชียงใหม่ แล้วถือโอกาสขออภัยโทษให้ขุนแผนออกจากคุกได้ เมื่อกลับมาจากสงครามก็ได้ตำแหน่งเป็นจมื่นไวยวรนาถ และมีภรรยาสองคน คือ นางศรีมาลา และนางสร้อยฟ้า
นางศรีประจัน
นางศรีประจัน เป็นแม่ของนางพิมพิลาไลยหรือนางวันทองนั่นเอง นางเป็นคนปากจัด ด่าเก่ง และเอาแต่ใจตนเอง ขุนช้างมาบอกข่าวว่าพลายแก้วตาย และขู่ว่านางวันทองจะต้องถูกจับกุมตัวเข้าวังเป็นม่ายหลวงนอกจากรีบแต่งงานใหม่เสีย แล้วขุนช้างก็เอาเงินทองมีค่ามาล่อใจ นางศรีประจันจึงคิดให้นางวันทองแต่งงานกับขุนช้าง แม้ว่านางวันทองกับคนอื่นๆ จุพยายามคัดค้านแต่นางศรีประจันใสใจ บังคับให้นางวันทองแต่งงานใหม่กับขุนช้างจนได้ การกระทำของนางทำให้ลูกสาวต้องมีสามีถึงสองคน และมีเหตุวุ่นวายแย่งตัวนางวันทองกัน ผลสุดท้ายนางวันทองถูกประหารชีวิต
นางทองประศรี
นางทองประศรี เดิมเป็นชาวบ้านวัดตะไกร พอแต่งงานกับขุนไกรพลพ่ายก็ย้ายไปอยู่กินด้วยกันที่สุพรรณบุรี แล้วให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่ง คือ พลายแก้ว นางเป็นหญิงที่มีน้ำใจเด็ดเดี่ยวทรหดอดทน ในคราวที่ขุนไกรผู้เป็นสามีประสบเคราะห์กรรมถึงถูกประหารชีวิต นางทองประศรีรู้ข่าวแล้วก็รีบพาลูกหนีระหกระเหินเข้าป่ามุ่งหน้าไปหาญาติของขุนไกรที่กาญจนบุรี แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินอย่างขยันขันแข็งค่อยเก็บหอมรอมริม จนมีฐานะดีขึ้น และเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวอย่างเอาใจใส่คอยอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดีอยู่เสมอ
สมเด็จพระพันวษา
สมเด็จพระพันวษา เป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ยุคนี้เป็นยุคที่บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง มีความอุดมสมบูรณ์ ราษฎรทั้งหลายอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขบรรดาประเทศใกล้เคียงก็ยอมอ่อนน้อม เพราะยำเกรงบารมี สมเด็จพระพันวษามีนิสัยโกรธง่าย ดังเช่นเมื่อขุนไกรต้อนควายป่ามาเข้าคอกให้พระองค์ล่า แต่ควายตื่นตกใจหนีเตลิด ขุนไกรจึงใช้หอกไล่แทงควายตายไปมากมาย สมเด็จพระพันวษาก็โกรธสั่งให้ประหารชีวิตขุนไกรทันที แต่พระองค์ก็นับว่าเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีความยุติธรรมต่อพวกทหาร เสนาอำมาตย์ และราษฎรพอสมควร เมื่อมีคดีฟ้องร้องกัน ก็จะให้มีการไต่สวนและพิสูจน์ความจริงให้ประจักษ์ชัดเสียก่อนจึงจะลงโทษ เช่น ในคราวที่นางสร้อยฟ้าทำเสน่ห์ให้จมื่นไวยวรนาถ (พลายงาม) หลงรักแล้วถูกจับได้ แต่ไม่มีพยานยืนยัน สมเด็จพระพันวษาก็ให้ลุยไฟพิสูจน์จนรู้แน่ว่านางสร้อยฟ้าเป็นฝ่ายผิดจึงได้สั่งลงโทษ