• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:054740723e6a4be7ee8b5be87a54bc49' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter-->\n<p align=\"center\">\n<span style=\"color: #0000ff\"><u><span style=\"color: #0000ff\">การขยายอำนาจของฟาโรห์รามเสสที่2</span></u></span> <br />\n<img height=\"256\" width=\"300\" src=\"/files/u40562/ramses2-1.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 228px; height: 202px\" /> <br />\nอ้างอิง <a href=\"http://www.travelegypt.com/peopleinfo/images/ramses2-1.jpg\">http://www.travelegypt.com/peopleinfo/images/ramses2-1.jpg</a><br />\n<a href=\"/node/83855\"><img height=\"150\" width=\"200\" src=\"/files/u40562/01.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 113px; height: 65px\" /></a><a href=\"/node/85428\"><img height=\"150\" width=\"200\" src=\"/files/u40562/d01.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 116px; height: 65px\" /></a><a href=\"/node/85430\"><img height=\"150\" width=\"200\" src=\"/files/u40562/d03.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 112px; height: 65px\" /></a><a href=\"/node/85558\"><img height=\"150\" width=\"200\" src=\"/files/u40562/d04.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 118px; height: 65px\" /></a><br />\n<a href=\"/node/85565\"><img height=\"150\" width=\"200\" src=\"/files/u40562/d02.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 110px; height: 67px\" /></a><a href=\"/node/89133\"><img height=\"150\" width=\"200\" src=\"/files/u40562/d05.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 111px; height: 67px\" /></a><a href=\"/node/89707\"><img height=\"300\" width=\"400\" src=\"/files/u40562/story.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 116px; height: 67px\" /></a><a href=\"/node/89707\"></a><a href=\"/node/90291\"><img height=\"150\" width=\"200\" src=\"/files/u40562/d07.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 106px; height: 67px\" /></a><a href=\"/node/90451?page=0%2C0\"><img height=\"150\" width=\"200\" src=\"/files/u40562/d08.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 108px; height: 67px\" /></a> \n</p>\n<p>\nการขยายอำนาจในสมัยของรามเสสที่2 (Ramses) หลังจากฟาโรห์โฮเรมเฮปสวรรคต ขุนทหารของพระองค์คนหนึ่งได้ทำการยึดอำนาจและขึ้นเป็นฟาโรห์รามเสสที่1 และเป็นฟาโรห์องค์แรกของราชวงศ์ที่19 ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ มีชื่อเสียงที่สุด และฟาโรห์ที่โด่งดังที่สุดของราชวงศ์นี้ก็คือ ฟาโรห์รามเสสที่2 ผู้เป็นโอรสของฟาโรห์เซติที่1 รามเสสที่2 ครองราชย์ในปีที่1278 - 1212 ปี ก่อน ค.ศ. พระองค์ทรงเป็นนักปกครอง ที่ทรงความสามารถและนักรบที่เก่งกาจ ในสมัยของพระองค์อียิปต์ เจริญรุ่งเรืองและ มั่งคั่งจากการค้า ทำให้มีการก่อสร้างเทววิหารและอนุสาวรีย์มากมายเพื่อแสดงถึง ความยิ่งใหญ่ของพระองค์โดยที่โด่งดังมากที่สุดคือมหาวิหารอาบูซิมเบลซึ่งแกะสลักเป็นรูปของพระองค์และพระราชินีเนเฟอร์ตารีมเหสีของ พระองค์ นอกจากนี้ฟาโรห์รามเสสที่2ยังได้ปราบปรามชาวนูเบียทางตอนใต้จนยอมสวามิภักดิ์ และได้ขยายอำนาจเข้าไปในเอเชียโดยปราบปรามชนเผ่าต่างๆจนราบคาบและในการขยายอำนาจครั้งนี้เองทำให้จักรวรรดิอียิปต์ต้องปะทะกับจักรวรรดิฮิตไตท์ซึ่งเป็นมหาอำนาจแห่งตะวันออกกลางในเวลานั้น ชาวฮิตไตท์(Hittite)ตั้งถิ่นฐานบนคาบสมุทรอนาโตเลียปัจจุบัน คือประเทศตุรกี มีความสามารถในการหลอมโลหะและเป็นพวกแรกที่นำเหล็กมาใช้ อันที่จริงแล้วนับแต่ยุคของอัคเคนาตัน ทางอียิปต์กับฮิตไตท์ก็มีการกระทบกระทั่งมาตลอดเนื่องจากฝ่ายฮิตไตท์ได้ กำราบไมตานนีพันธมิตรของอียิปต์และ ต่อมาหลังจากตุตันคาเมนสวรรคตลง พระนางแองคลีเซนปาเตนหรืออนัคซูนามุน ได้ส่งสาส์นไปขอโอรสกษัตริย์ฮิตไตท์มาอภิเษกด้วยแต่กลายเป็นว่า เจ้าชายฮิตไตท์กลับถูกลอบสังหารในอียิปต์สร้างความตึงเครียดให้สูงขึ้น ในสมัยของรามเสสที่2 ทั้งสองฝ่ายพยายามเข้ามามีอิทธิพลในปาเลสไตน์และซีเรียทำให้กองทหารของฮิตไตท์และอียิปต์มีการกระทบกระทั่งกันบ่อยขึ้นในที่สุดเพื่อคงความยิ่งใหญ่ของอียิปต์ ไว้ รามเสสที่2จึงตัดสินใจทำสงครามยึดครองเมืองคาเดซและขับไล่กอง ทหารฮิตไตท์ออกจาก ซีเรียและปาเลสไตน์ ทางฝ่ายฮิตไตท์กษัตริย์มุลวาตาลลิส(Mulwatallis) ซึ่งทราบดีว่าสักวันหนึ่งสงครามต้องเกิดขึ้น จึงเคลื่อนกองทัพมารออยู่แล้ว และในปีที่1286 ก่อน ค.ศ. ฟาโรห์รามเสสที่2 ก็ทรงนำกองทัพซึ่งประกอบด้วยทหารราบ20000 คน และรถศึก 2500 คัน เข้าโจมตีกองทัพของมุลวาตัลลิสซึ่งมีรี้พลใกล้เคียงกัน ในการรบอันดุเดือด ท้ายที่สุดไม่มีฝ่ายใดได้รับชัยชนะอันเด็ดขาดทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียรี้พลและอาวุธ เป็นจำนวนมาก และหลังจากที่มุลวาตัลลิสสวรรคตลง ทั้งสองฝ่ายจึงทำสัญญาสันติภาพระหว่างกัน โดยสนธิสัญญาฉบับนี้ถือว่าเป็นสนธิสัญญาสันติภาพฉบับแรกของโลก หลังจากนั้น กษัตริย์ฮิตไตท์ยังได้ส่งพระธิดามาอภิเษกกับฟาโรห์รามเสสที่2 เพื่อยืนยันในสันติภาพด้วย\n</p>\n<p></p>', created = 1727097653, expire = 1727184053, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:054740723e6a4be7ee8b5be87a54bc49' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

Story King&Queen

การขยายอำนาจของฟาโรห์รามเสสที่2 
 
อ้างอิง http://www.travelegypt.com/peopleinfo/images/ramses2-1.jpg

 

การขยายอำนาจในสมัยของรามเสสที่2 (Ramses) หลังจากฟาโรห์โฮเรมเฮปสวรรคต ขุนทหารของพระองค์คนหนึ่งได้ทำการยึดอำนาจและขึ้นเป็นฟาโรห์รามเสสที่1 และเป็นฟาโรห์องค์แรกของราชวงศ์ที่19 ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ มีชื่อเสียงที่สุด และฟาโรห์ที่โด่งดังที่สุดของราชวงศ์นี้ก็คือ ฟาโรห์รามเสสที่2 ผู้เป็นโอรสของฟาโรห์เซติที่1 รามเสสที่2 ครองราชย์ในปีที่1278 - 1212 ปี ก่อน ค.ศ. พระองค์ทรงเป็นนักปกครอง ที่ทรงความสามารถและนักรบที่เก่งกาจ ในสมัยของพระองค์อียิปต์ เจริญรุ่งเรืองและ มั่งคั่งจากการค้า ทำให้มีการก่อสร้างเทววิหารและอนุสาวรีย์มากมายเพื่อแสดงถึง ความยิ่งใหญ่ของพระองค์โดยที่โด่งดังมากที่สุดคือมหาวิหารอาบูซิมเบลซึ่งแกะสลักเป็นรูปของพระองค์และพระราชินีเนเฟอร์ตารีมเหสีของ พระองค์ นอกจากนี้ฟาโรห์รามเสสที่2ยังได้ปราบปรามชาวนูเบียทางตอนใต้จนยอมสวามิภักดิ์ และได้ขยายอำนาจเข้าไปในเอเชียโดยปราบปรามชนเผ่าต่างๆจนราบคาบและในการขยายอำนาจครั้งนี้เองทำให้จักรวรรดิอียิปต์ต้องปะทะกับจักรวรรดิฮิตไตท์ซึ่งเป็นมหาอำนาจแห่งตะวันออกกลางในเวลานั้น ชาวฮิตไตท์(Hittite)ตั้งถิ่นฐานบนคาบสมุทรอนาโตเลียปัจจุบัน คือประเทศตุรกี มีความสามารถในการหลอมโลหะและเป็นพวกแรกที่นำเหล็กมาใช้ อันที่จริงแล้วนับแต่ยุคของอัคเคนาตัน ทางอียิปต์กับฮิตไตท์ก็มีการกระทบกระทั่งมาตลอดเนื่องจากฝ่ายฮิตไตท์ได้ กำราบไมตานนีพันธมิตรของอียิปต์และ ต่อมาหลังจากตุตันคาเมนสวรรคตลง พระนางแองคลีเซนปาเตนหรืออนัคซูนามุน ได้ส่งสาส์นไปขอโอรสกษัตริย์ฮิตไตท์มาอภิเษกด้วยแต่กลายเป็นว่า เจ้าชายฮิตไตท์กลับถูกลอบสังหารในอียิปต์สร้างความตึงเครียดให้สูงขึ้น ในสมัยของรามเสสที่2 ทั้งสองฝ่ายพยายามเข้ามามีอิทธิพลในปาเลสไตน์และซีเรียทำให้กองทหารของฮิตไตท์และอียิปต์มีการกระทบกระทั่งกันบ่อยขึ้นในที่สุดเพื่อคงความยิ่งใหญ่ของอียิปต์ ไว้ รามเสสที่2จึงตัดสินใจทำสงครามยึดครองเมืองคาเดซและขับไล่กอง ทหารฮิตไตท์ออกจาก ซีเรียและปาเลสไตน์ ทางฝ่ายฮิตไตท์กษัตริย์มุลวาตาลลิส(Mulwatallis) ซึ่งทราบดีว่าสักวันหนึ่งสงครามต้องเกิดขึ้น จึงเคลื่อนกองทัพมารออยู่แล้ว และในปีที่1286 ก่อน ค.ศ. ฟาโรห์รามเสสที่2 ก็ทรงนำกองทัพซึ่งประกอบด้วยทหารราบ20000 คน และรถศึก 2500 คัน เข้าโจมตีกองทัพของมุลวาตัลลิสซึ่งมีรี้พลใกล้เคียงกัน ในการรบอันดุเดือด ท้ายที่สุดไม่มีฝ่ายใดได้รับชัยชนะอันเด็ดขาดทั้งสองฝ่ายต่างสูญเสียรี้พลและอาวุธ เป็นจำนวนมาก และหลังจากที่มุลวาตัลลิสสวรรคตลง ทั้งสองฝ่ายจึงทำสัญญาสันติภาพระหว่างกัน โดยสนธิสัญญาฉบับนี้ถือว่าเป็นสนธิสัญญาสันติภาพฉบับแรกของโลก หลังจากนั้น กษัตริย์ฮิตไตท์ยังได้ส่งพระธิดามาอภิเษกกับฟาโรห์รามเสสที่2 เพื่อยืนยันในสันติภาพด้วย

สร้างโดย: 
นายชาญชัย เปี่ยมชาคร และ นางสาว จิตลดา แก้วสว่าง

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 393 คน กำลังออนไลน์