Story King&Queen

พระนางเนเฟอร์ติติ
  
อ้างอิง http://www.thairath.co.th/media/content/2009/06/06/11188_20_3.jpg 

ในตำนานได้กล่าวไว้ว่า อียิปต์ไม่เคยสร้างหญิงใดงามได้เท่าพระนางเนเฟอร์ติติซึ่งเป็นผู้สมบูรณ์แบบด้วยพระสิริโฉมอันงดงาม สวมมงกุฎสูง และโกนพระเกศาเพื่อป้องกันเหา โรคร้ายและความร้อนของอียิปต์ เรื่องราวชีวิตของพระนางเนเฟอร์ติติ อาจเริ่มต้นจากในยุครุ่งเรือง ณ พระราชวังมัลกาต้าที่งดงามที่สุดในอียิปต์โบราณและเป็นที่ประทับของฟาโรห์ เนเฟอร์ติติเติบโตในพื้นที่แห่งนี้ ท่ามกลางนางสนมประมาณ 500 คน ฮาเร็มอันกว้างใหญ่ของอะเมนโฮเทปที่สอง หนึ่งในฟาโรห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์ ซึ่งพระมเหสีราชินีไทยี่เลือกหญิงสาวจากฮาเร็มแห่งนี้มาเป็นพระชายาให้พระโอรสและผู้ที่ถูกเลือกนั้นคือเนเฟอร์ติติ ส่วนทุทโมซิส องค์รัชทายาท สิ้นพระชนม์ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้อัคนาเต็นพระสวามีของพระนางเนเฟอร์ติติกลายมาเป็นผู้สืบทอดบัลลังค์อียิปต์ จากวันที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ ความเครียดเริ่มเพิ่มมากขึ้นในหมู่นักบวชชั้นสูงซึ่งพวกเขาเปรียบเสมือนผู้ปกป้องเทพที่สำคัญที่สุดของอียิปต์ที่เรียกว่า ลัทธิอามุน และอำนาจของพวกเขายิ่งใหญ่เทียบได้กับฟาโรห์ พวกเขาคือชนชั้นสูงแต่เดิม มีหัวอนุรักษ์ เป็นเพศชาย มีระเบียบวิธีคิดและมีฐานะร่ำรวยมาก ซึ่งในขณะนั้นฟาโรห์และพระชายาเนเฟอร์ติติสาบานว่าจะลิดรอนอำนาจของพวกเขาและดำเนินการต่อสู้ที่ใจกลางฐานอำนาจของลัทธิอามุนในวิหารคาร์นัค
โดยการสร้างอนุสาวรีย์ให้ยืนตระหง่านบดบังวิหารคาร์นัค สำหรับนักบวชอามุนการสร้างสิ่งนี้ถือเป็นการละเมิดกฎที่ร้ายแรงที่สุด นอกจากนั้นเนเฟอร์ติติยังสร้างวิหารแห่งดวงอาทิตย์ถวายแด่เทพอะเต็น นักบวชมองว่าวิหารแห่งดวงอาทิตย์เป็นการลบหลู่ และเป็นภัยต่ออำนาจของเขา ทำให้พวกนักบวชเริ่มคิดแผนเพื่อทำลายแผนโค่นอำนาจของฟาโรห์และราชินี พระองค์ทรงตัดสินใจดำเนินการในสิ่งที่แปลกใหม่ ทั้งคู่ตัดสินใจละทิ้งธีบส์ ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอียิปต์มานานหลายร้อยปี และออกมุ่งหน้าไปในทะเลทราย พระองค์ทรงแสวงหาที่สร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ ที่ปลอดภัยและห่างไกลศัตรู มันคือฐานสำหรับการปฏิวัติ ซึ่งการปฏิวัติครั้งนั้นทำให้พระนางเนเฟอร์ติติกลายเป็นหญิงผู้มีอำนาจสูงสุดในโลกพวกเขาเริ่มต้นวางผังเมืองแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์อียิปต์ เมืองที่ออกแบบมาเพื่อบูชาดวงอาทิตย์ คนนับพันหลั่งไหลตามฟาโรห์และพระชายาเข้ามาในที่แห่งนี้ มันถูกเรียกว่า
 “อะมาร์น่า” และเมืองแห่งนี้ถือว่าเป็นเป็นเมืองที่ถูกวางแผนไว้อย่างดีแห่งแรกของโลก พระนางเนเฟอร์ติติเป็นคนที่มีระยะห่าง เย็นชาและโดดเดี่ยว ใช้คนรอบตัวตามวิธีที่พระนางมองว่าเหมาะสม ความสามารถของเนเฟอร์ติติในการใช้ประโยชน์จากสถานการณ์รอบตัวดูเหมือนจะได้รับการยืนยันหลังจากปีที่คิย่าหายตัวไป การตอบสนองของพระนางต่อวิกฤตินั้นมาในจังหวะเหมาะ ในปีที่ 12 ของการครองราชย์ของอัคนาเต็น มีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นในอะมาร์น่า งานฉลองครั้งยิ่งใหญ่ เรียกว่า เดอร์บาร์ ภาพที่แขกได้เห็นนั้น ไม่เคยปรากฏมาก่อนเนเฟอร์ติติเคียงข้างพระสวามี มิใช่เยี่ยงราชินี หากเป็นผู้ปกครองร่วม
เสมอภาคกัน พระนางกลายเป็นหญิงที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก ในปีที่ 14 พระนางเนเฟอร์ติติก็หายไปจากบันทึก นักอียิปต์วิทยาบางคนเชื่อว่าพระนางสิ้นพระชนม์เพราะโรคระบาด หลายคนคิดว่าพระนางพ่ายแพ้ให้กับศัตรูเพศชาย ที่มีชื่อว่าสเมนคาเร่ซึ่งมีชื่อมาแทนที่พระนางในบันทึก และตัวละครลึกลับผู้นี้ได้กลายมาเป็นผู้ครองบัลลังค์ร่วมกับอัคเคนาเต็น และสืบทอดตำแหน่งฟาโรห์องค์ถัดมา พระองค์สิ้นพระชนม์อย่างไร เราคงทำได้เพียงคาดเดา นักบวชแห่งอามุนปลงพระชนม์หรือไม่เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเนเฟอร์ติติในตอนนั้น มันเป็นปริศนาที่อาจใกล้ถึงเวลาไข

สร้างโดย: 
นายชาญชัย เปี่ยมชาคร และ นางสาว จิตลดา แก้วสว่าง

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 361 คน กำลังออนไลน์