• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b0a9800ed099bd892f7bb037296f50c2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n                                                       \n</p>\n<p>\n                                           <img height=\"98\" width=\"388\" src=\"/files/u39954/cap7.jpg\" border=\"0\" />\n</p>\n<p>\n                                     <img height=\"15\" width=\"448\" src=\"/files/u39954/48431_1.gif\" border=\"0\" />\n</p>\n<p>\n<strong>               เมื่อขบวนเสด็จเดินทางไปถึงกลางป่า  ท้าวทุษยันต์ก็ทรงคะนึงถึงศกุนตลา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    &quot; แม่นางช่างสวยสดงดงาม เรือนกายของนางช่างอบอวล ด้วยกลิ่นหอม กลิ่นกายนางหอม ยิ่งไม่มีสิ่งใดเปรียบปาน  ที่ต้องจากนางมาคนเดียว มันช่างเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน ยิ่งมาอยู่กลางป่าอย่างนี้ ก็ยิ่งว้าเหว่ถ้ามีน้องมาด้วย คงจะได้ช่วยกันชมทาง พูดเล่นให้สนุกสนานสำราญใจ &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>             พระองค์ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า จึงรับสั่งไพร่พลเร่งการเดินทางให้เร็วขึ้น จนเข้าถึงเมืองในเวลาไม่ช้า จึงผ่อนความเร็วลง พักหนึ่งก็ถึงพระราชวัง                 </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>             จะกล่าวถึงอาจารย์กัณวะ อยู่จำศีลฝั่งแม่น้ำมาลินี  ฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ทราบความเป็นไปของศกุนตลาลูกสาวกับท้าวทุษยันต์แล้วเกิดความคิดขึ้นว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        วันนี้ฤกษ์ดีเป็นศรีวัน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        สุริยันเรืองรองผ่องใส </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ควรศกุนตลายาใจ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        จะเข้าไปเฝ้าพระภัสดา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        นึกอาลัยลูกน้อยกลอยสวาท </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ไม่เคยคลาดแคล้วไปไกลเคหา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        สู้ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        คิดไปชลนาก็หลั่งริน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ธิดาไกลใจพ่อจะโศกเศร้า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        จะเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวไปหมดสิ้น </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ครั้นจะหน่วงลูกไว้ดังใจจินต์ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ก็เหมือนสิ้นเมตตาปรานี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ธรรมดานารีต้องมีผัว </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        จะมามัวหวงไว้ไม่ควรที่ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        จำเราจะส่งบุตรี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ไปสุ่นคเรศนิเวศน์วัง </strong>\n</p>\n<p>\n                                                         <img height=\"240\" width=\"320\" src=\"/files/u39954/sun.jpg\" border=\"0\" />\n</p>\n<p>\n                                                ที่มาของรูปภาพ <a href=\"http://img14.imageshack.us/img14/6886/0031662.jpg\">http://img14.imageshack.us/img14/6886/0031662.jpg</a>\n</p>\n<p><!--pagebreak--><!--pagebreak--></p>\n<p>\n                    <strong>คิดดังนั้นแล้วก็เรียกนางโคตมีผู้เป็นภรรยามาสั่งว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                       &quot; นี่แม่โคตมี !  วันนี้ฉันไปดูศิษย์บูชาไฟ เอาท่อนฟืนสุมเข้าไป จนเป็นควันกลุ้มไปหมด ถึงกระนั้นก็ยังหยอดเปรียงลงได้เหมาะตรงกลาง ฉันคิดๆ ดูก็เห็นเป็นลางดีจึงไม่ควรให้ศกุนตลาเฝ้าคอยท้าวทุษยันต์อยู่ในอาศรม เธอควรพาลูกไปเข้าวัง เพื่อจะได้ปรณนิบัติพระภัสดาตามประเพณี  อาวาหมงคล  เดี๋ยวเธอไปช่วยดูการแต่งตัวของลูกสาวให้งดงามสมกับที่เป็นภรรยาของกษัตริย์  ฉันจะให้มีศระพราหมณ์คุมไปส่งถึงวัง ไปเถอะไปอย่าชักช้า การเดินทางจะได้ไม่ลำบาก &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                   นางโคตมีไหว้สามีผู้เป็นอาจารย์ของฤๅษีแล้วรีบเดินทางไปหาลูกสาว เมื่อไปถึงก็เห็นสองพี่เลี้ยงกำลังนั่งจัดดอกไม้อยู่ จึงเอ่ยถามว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; เออนี่แม่สาวๆ ! ศกุนตลาไปอยู่เสียที่ไหนล่ะจ๊ะ ? &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    ปิยวาทตอบว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; เห็นบอกว่าจะไปไหว้พระภควดีในกุฏินั่นแหละคะป้า &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    นางโคตมีกล่าวเห็นด้วย </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; ดีละๆ ศกุนตลามีความเลื่อมใสศรัทธาในพระภควดี ในวันนี้อาจารย์กัณวะท่านบอกว่าฤกษ์ดีจึงจะส่งศกุนตลาเข้าไปอยู่ในวัง &quot;    </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    ปิยวาทได้ยินแล้วตกใจจึงพูดกับอนุสธยาว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; ตายแล้ว ! ทำไมแม่หนูพูดอย่างนี้เล่า มันเป็นเรื่องที่ดีมิใช่หรือ ทำไมต้องทำหน้าตาตื่นอย่างนั้นด้วยมีอะไรรึ ลองเล่าให้ป่าฟังหน่อยซิ &quot;    </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    ปิยวาทกล่าวขึ้น </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                         &quot; เรื่องราวน่ะมีอยู่ อนุสูยาเขารู้ดี อนุสูยาลองเล่าให้ป้าฟังสิ &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    อนุสูยาบอกว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                         &quot; เมื่อหลายวันมานี้ได้เกิดเหตุร้ายที่น่ากลัวขึ้น &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    โคตมีตกใจมากรีบถามข้นทันทีทันใดว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; เอ๊ะ ! มีเหตุอะไรเกิดขึ้นรึ ทำไมไม่เห็นมีใครรู้ล่ะ ? &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                     อนุสูยาเล่าว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; เวลานั้นเป็นเวลาเช้ามืด ยังไม่มีแสงอาทิตย์ ดิฉันกับปิยวาทถือกระจาดไปเก็บดอกไม้ ยังไปไม่ถึงไหนก็ได้ยินเสียงผู้ชายมาร้องเรียกที่ศาลา  เวลานั้นเป็นหน้าที่ของศกุนตลาที่จะต้องออกไปต้อนรับแต่นางนอนอยู่ในห้องเพราะไม่สบายใจ ดิฉันรีบไปต้อนรับแทน แต่เดินไปไม่ทัน   ท่านฤาษีก็เปล่งสิงหนาท &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    นางโคตมีถามว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                         &quot; ฤาษีองค์ไหนรึ  ? &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                     อนุสูยาตอบว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                          &quot; พระทุรวาส &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                     โคตมีได้ยินชื่อถึงกับสะดุ้งพลางอุทานว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                           &quot; อุ๊ยตาย ! เจ้าประคุณร้อนอย่างกับไฟเชียวนะ &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                      อนุสูยากล่าวเสริมว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                            &quot; จริงค่ะ ! พอดิฉันไปใกล้จะถึง ก็ได้ยินท่านฤาษีประกาศแช่ง &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                       คตมีอุทานขึ้น </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                            &quot; กรรมจริงๆ &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                       อนุสูยากล่าวว่า  </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                           &quot; ดิฉันได้ยินแล้วถึงกับขนลุกขนพอง สงสารแม่ศกุนตลา &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        นางโคตมีถามว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                           &quot; ท่านฤๅษีว่าอย่างไร &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<br />\n<strong></strong></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\n</p>\n<p>\n<strong>                        อนุสูยาตอบว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                            ท่านแช่งว่า &quot; แม้เวลานี้มึงใฝ่ฝันถึงผู้ใด ผู้ที่ใจมึงมัวพะวงหลงรักอยู่ ณ บัดนี้ จนไม่เอาใจใส่ใยดีต่อโยคีผู้ทรงพรตจนลืมหมดซึ่งหน้าที่ต้อนรับแขกผู้แปลกมา ขอผู้นั้นจงลืมหน้าถึงแม้เห็นก็อย่าจำได้ เหมือนคนเมาสุราซึ่งพูดอะไรไว้เมื่อยามเมา รุ่งขึ้นเช้าสร่างแล้วก็ลืมหมดฉะนั้นเถิด &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                      นางโคตมีกล่าว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                          &quot; โอ ! เอาแต่สาปแช่ง ช่างไม่รู้จักสงสารคนอื่นบ้างฤๅษีองค์นี้ท่านคนเจ้าอารมณ์ก็แล้วแม่หนูทำอย่างไร ? &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                       อนุสูยาบอกว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                          &quot; ดิฉันรีบไปขอร้องท่าน แต่ท่านโกรธเป็นฟืนไฟเดินดุ่มๆ ไปไม่มองหน้า ดิฉันเดินตามท่านไป ไหว้ท่านขอโทษท่านแทนศกุนตลา      ตอนแรกท่านไม่ยอมฟังเอาเลย แต่พอฉันเข้าไปกอดเท้ากอดขาท่านไว้ ท่านจึงคลายความโกรธลง &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                         &quot; แล้ว เป็นยังไงต่อไป &quot;  นางโคตมีถามต่อ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                         &quot; ดิฉันจึงเรียนท่านไปตรงๆ ว่า ศกุนตลามิได้คิดลบหลู่ดูแคลนหรอกนะเจ้าคะ นางมีโรครักหนักใจทำให้เศร้าสร้อยละห้อยหา             ไม่ทราบว่าท่านฤๅษีมาที่ศาลาถ้ารู้ความจริง นางจะต้องมาไหว้มากราบอย่างแน่นอน เพราะนางนับถือท่านฤๅษีเป็นอย่างยิ่ง &quot;      อนุสูยาเล่าต่อ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                         &quot; เออ ! แม่หนูนี่พูดดีจริงๆ แล้วท่านฤๅษีว่ายังไงล๊ะ ? &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; ท่านบอกว่า เออ ! ถ้าไม่แกล้งก็แล้วไป กูจะให้อภัยในครั้งนี้ แต่วาจากูลั่นออกไม่คืนกลับ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                     แต่เอาเถอะ เมื่อนางไปพบสามี เห็นแหวนที่สามีให้ไว้เมื่อตอนจากกัน ก็จะระลึกได้ เมื่อร่วมรัก ก็จะจดจำได้ และมีความรักใคร่มั่นคงสืบไป  &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; ศกุนตลาได้แหวนของพระราชมาหรือเปล่า ? &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; ได้มาค่ะ นางสวมอยู่ตลอดเวลา &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; ถ้าอย่างนั้นก็คงไม่เป็นไร พอพระราชาเห็นแหวนก็คงจำได้ แล้วศกุนตลารู้เรื่องไหม ? &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; คงไม่รู้ เพระไม่ได้เล่าให้ฟัง ด้วยกลัวว่านางจะกังวลใจ &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        &quot; ดีๆ ไม่รู้ก็ดีเหมือนกัน แต่เมื่อไปถึงกลางป่า ป้าจะพยายามป้องกันมิให้แหวนตกหล่นหายไป แล้วนี่ศกุนตลาอยู่ไหนเล่า </strong>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\n</p>\n<p>\n<strong>                      ขณะนั้น ศกุนตลาออกมาพอดี เห็นนางโคตมีมารดาก็ยกมือไหว้ พอศกุนตลาเดินเข้ามาถึง นางโคตมีก็เล่าเรื่องให้ฟัง  ศกุนตลาเห็นด้วยที่จะเข้าวังปรณนิบัติสามี  สามีภริยาอยู่ไกลกันไม่ดี เดี๋ยวกลายเป็นอื่น ควรจะให้อยู่ด้วยกัน จะได้รักกันให้มากๆ จากนั้นศกุนตลาก็ไปอาบน้ำและแต่งตัว </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ชำระสระสนานสำราญองค์ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ขัดสีโฉมยงผ่องฉวี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               สุคนธ์ทาลูบไล้อินทรีย์ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               หอมกลิ่นมาลีที่ปรุงปน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               จัดแต่งเกศาผกาแซม </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ผัดหน้าแช่มด้วยแป้งป่น </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               อัญชันทาคิ้วนฤมล </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ใครยลก็ย่อมพึงใจ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               นุ่งผ้ายกทองผ่องพรรณ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ซึ่งนางฟ้าจัดสรรเอามาให้ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ห่มผ้าปักทองผ่องอุไร </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               วิไลเหมือนอย่างนางฟ้า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ประดับรัตนาวราภรณ์ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ทองกรธำรงค์มีค่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               งามลม่อมพร้อมพรั่งทั้งกายา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                               ดวงสุดาไปเฝ้าพระทรงพรต </strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                       เสด็จสรรพแล้วก็พากันไปกราบพระฤๅษีกัณวะ  เพื่อลาไปอยู่วังปรณนิบัติพระราชาผู้เป็นสามี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                        พระฤๅษีมองดูศกุนตลาครู่หนึ่ง  ก็กล่าวมธุรสพจน์อวยพรว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ดูก่อนเจ้าศกุนตลา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ผู้ยอดเสน่หามารศรี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ขอเจ้าจงได้อยู่ดี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ทั้งมีความสุขทุกคืนวัน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ขอให้ปิ่นโปรพภพนารถ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              บำรุงเลี้ยงสุดสวาทเกษมสันต์ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              จงมีโอรสเดชอนันต์ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              เป็นจอมจักรพรรดิฦาชัย </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ดูก่อนเทวาทุกราศี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              พระพนัสบดีเป็นใหญ่ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ข้าขอฝากองค์อรไท </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              อย่าให้มีภัยแผ้วพาน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              จงคุ้มครองนางหว่างวิถี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              จนถึงธานีไพศาล </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ขอองค์ลักษมีนงคราญ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ช่วยอภิบาลเอื้อเฟื้อทุกเวลา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                         จากนั้นได้ให้โอวาทแนะนำสั่งสอนว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              อนึ่งพึงจำคำสอน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              บังอรผู้ยอดเสน่หา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              จงเฝ้าปรณนิบัติภัสดา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              อย่าทำให้ข้องขัดใจ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ถึงแม้เธอมีเมียอื่น </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              สักพันหมื่นตัดหึงให้จงได้ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              อย่าปากจัดคัดง้างกับผู้ใด </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ตั้งใจมั่นอยู่ด้วยภักดี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              จงตั้งจิตเมตตาแก่ข้าทาส </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              อย่าตวาดอย่าบ่นจู้จี้ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ใครผิดค่อยสอนค่อยตี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ใครดีบำเหน็จให้ควรกาย </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              อย่าเห็นแกตัวมัวหาสุข </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              ท่านทุกข์เจ้าทุกข์ด้วยกับท่าน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              เมียดีเป็นที่ชื่นบาน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                              เมียคร้านเป็นเสนียดครอบครัว </strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\n</p>\n<p>\n<strong>                    ศกุนตลาน้อมรับโอวาทใส่ใจ  ยกมือขึ้นเหนือหัวกราบลา ฤาษีผู้เป็นทั้งบิดาทั้งอาจารย์ด้วยความอาลัยใจสั่นระรัว จนเนื้อตัวเย็นยะเยือก  พอลุกขึ้นยืน น้ำตาก็ไหลเผาะๆ สะอึกสะอื้นด้วยความอาลัยรัก ไม่อยากจากไกล แต่ในที่สุดก็ยอมแข็งขืนยืนจิตหักอาลัย คิดจะเดินจากไป แต่ก้าวไม่ออก  เพราะใจมันบอกว่าห่วงหาอาทรต่อคนที่เคยอยู่ร่วมกันมามากยิ่งนัก </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             โอ้อกเอ๋ยอกฟกอนาถ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             จำนิราศจากแหล่งเสน่หา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             จำจากพี่รักหักอุรา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             จำจากเคหาที่เคยนอน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             ให้อาไลยกวางน้อยกลอยสวาท </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             ไม่เคยขาดยามกินมาให้ป้ป้อน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             โอ้อาลัยบุบผาอรขร </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             มลิซ้อนสุรภีที่เคยชม </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             เมื่อยามสุขเคยสุขด้วยสองพี่ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                             ช่วยกันเก็บมาลีมาแต่งผม </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                            ที่เหลือผูกเป็นช่อไว้พอดม </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                            พอรื่นรมย์ริมฝั่งมาลินี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                            ยิ่งคิดไปอาลัยไปทุกอย่าง </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                            จนไม่อยากเหินห่างไปจากที่ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                            สวมสอดกอดสองภคินี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                           แล้วตามโคตมีลีลา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                   ศกุนตลาสวมกอดกับสองพี่เลี้ยงด้วยความอาลัยรักอย่างสุดซึ้ง  แล้วจึงผละออกจากกัน นางโบกมือลาอีกครั้งก่อนเดินจากไป การเดินทางเข้าวังในครั้งนี้  นางศกุนตลาไปกับนางโคตมีและพราหมณ์ฤๅษีอีก ๒ คน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                                    <a href=\"/node/84754\"><img height=\"154\" width=\"302\" src=\"/files/u39954/Korean_mizzi_illustration-15555356.jpg\" border=\"0\" /></a></strong>\n</p>\n', created = 1715865891, expire = 1715952291, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b0a9800ed099bd892f7bb037296f50c2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:68d18d19872750994f7b1ec67a18da7f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n                                                       \n</p>\n<p>\n                                           <img height=\"98\" width=\"388\" src=\"/files/u39954/cap7.jpg\" border=\"0\" />\n</p>\n<p>\n                                     <img height=\"15\" width=\"448\" src=\"/files/u39954/48431_1.gif\" border=\"0\" />\n</p>\n<p>\n<strong>               เมื่อขบวนเสด็จเดินทางไปถึงกลางป่า  ท้าวทุษยันต์ก็ทรงคะนึงถึงศกุนตลา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                    &quot; แม่นางช่างสวยสดงดงาม เรือนกายของนางช่างอบอวล ด้วยกลิ่นหอม กลิ่นกายนางหอม ยิ่งไม่มีสิ่งใดเปรียบปาน  ที่ต้องจากนางมาคนเดียว มันช่างเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน ยิ่งมาอยู่กลางป่าอย่างนี้ ก็ยิ่งว้าเหว่ถ้ามีน้องมาด้วย คงจะได้ช่วยกันชมทาง พูดเล่นให้สนุกสนานสำราญใจ &quot; </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>             พระองค์ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า จึงรับสั่งไพร่พลเร่งการเดินทางให้เร็วขึ้น จนเข้าถึงเมืองในเวลาไม่ช้า จึงผ่อนความเร็วลง พักหนึ่งก็ถึงพระราชวัง                 </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>             จะกล่าวถึงอาจารย์กัณวะ อยู่จำศีลฝั่งแม่น้ำมาลินี  ฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ทราบความเป็นไปของศกุนตลาลูกสาวกับท้าวทุษยันต์แล้วเกิดความคิดขึ้นว่า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        วันนี้ฤกษ์ดีเป็นศรีวัน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        สุริยันเรืองรองผ่องใส </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ควรศกุนตลายาใจ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        จะเข้าไปเฝ้าพระภัสดา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        นึกอาลัยลูกน้อยกลอยสวาท </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ไม่เคยคลาดแคล้วไปไกลเคหา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        สู้ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมา </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        คิดไปชลนาก็หลั่งริน </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ธิดาไกลใจพ่อจะโศกเศร้า </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        จะเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวไปหมดสิ้น </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ครั้นจะหน่วงลูกไว้ดังใจจินต์ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ก็เหมือนสิ้นเมตตาปรานี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ธรรมดานารีต้องมีผัว </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        จะมามัวหวงไว้ไม่ควรที่ </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        จำเราจะส่งบุตรี </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>                                        ไปสุ่นคเรศนิเวศน์วัง </strong>\n</p>\n<p>\n                                                         <img height=\"240\" width=\"320\" src=\"/files/u39954/sun.jpg\" border=\"0\" />\n</p>\n<p>\n                                                ที่มาของรูปภาพ <a href=\"http://img14.imageshack.us/img14/6886/0031662.jpg\">http://img14.imageshack.us/img14/6886/0031662.jpg</a>\n</p>\n<p></p>', created = 1715865891, expire = 1715952291, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:68d18d19872750994f7b1ec67a18da7f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ตอนที่ ๗ ศกุนตลาเดินทางเข้าวัง

                                                       

                                          

                                    

               เมื่อขบวนเสด็จเดินทางไปถึงกลางป่า  ท้าวทุษยันต์ก็ทรงคะนึงถึงศกุนตลา

                    " แม่นางช่างสวยสดงดงาม เรือนกายของนางช่างอบอวล ด้วยกลิ่นหอม กลิ่นกายนางหอม ยิ่งไม่มีสิ่งใดเปรียบปาน  ที่ต้องจากนางมาคนเดียว มันช่างเปล่าเปลี่ยวเหลือเกิน ยิ่งมาอยู่กลางป่าอย่างนี้ ก็ยิ่งว้าเหว่ถ้ามีน้องมาด้วย คงจะได้ช่วยกันชมทาง พูดเล่นให้สนุกสนานสำราญใจ "

             พระองค์ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า จึงรับสั่งไพร่พลเร่งการเดินทางให้เร็วขึ้น จนเข้าถึงเมืองในเวลาไม่ช้า จึงผ่อนความเร็วลง พักหนึ่งก็ถึงพระราชวัง                 

             จะกล่าวถึงอาจารย์กัณวะ อยู่จำศีลฝั่งแม่น้ำมาลินี  ฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ทราบความเป็นไปของศกุนตลาลูกสาวกับท้าวทุษยันต์แล้วเกิดความคิดขึ้นว่า

                                        วันนี้ฤกษ์ดีเป็นศรีวัน

                                        สุริยันเรืองรองผ่องใส

                                        ควรศกุนตลายาใจ

                                        จะเข้าไปเฝ้าพระภัสดา

                                        นึกอาลัยลูกน้อยกลอยสวาท

                                        ไม่เคยคลาดแคล้วไปไกลเคหา

                                        สู้ถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงมา

                                        คิดไปชลนาก็หลั่งริน

                                        ธิดาไกลใจพ่อจะโศกเศร้า

                                        จะเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวไปหมดสิ้น

                                        ครั้นจะหน่วงลูกไว้ดังใจจินต์

                                        ก็เหมือนสิ้นเมตตาปรานี

                                        ธรรมดานารีต้องมีผัว

                                        จะมามัวหวงไว้ไม่ควรที่

                                        จำเราจะส่งบุตรี

                                        ไปสุ่นคเรศนิเวศน์วัง

                                                        

                                                ที่มาของรูปภาพ http://img14.imageshack.us/img14/6886/0031662.jpg

สร้างโดย: 
นางสาว รัตนาภรณ์ ทอลอยู่ / นางสาว ลลิตา คำเพ็ง

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 306 คน กำลังออนไลน์