ยุคสามก๊ก
จ๊กก๊ก นำโดยเล่าปี่ ก็ได้จูกัดเหลียง ขงเบ้งเป็นที่ปรึกษาและเสนาบดี ในช่วงเวลาก่อนหลังการสถาปนารัฐสูได้ไม่นาน เล่าปี่ก็ต้องสูญเสียขุนพลคู่ใจคนสำคัญ คือ กวนอวี่หรือกวนอู และจางเฟยหรือเตียหุย ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นเหตุให้กำลังทางทหารอ่อนโทรมลง อีกทั้งเล่าปี่ไม่ฟังคำทัดทานของเหล่าเสนาอำมาตย์ เร่งทำศึกกับง่อก๊ก เพื่อแก้แค้นให้กับกวนอู สุดท้ายพ่ายแพ้ย่อยยับ จากการศึกครั้งนี้ทำให้เล่าปี่สูญเสียไพร่พลไปกว่า 75 หมื่นนายเลยทีเดียว เล่าปี่ล้มป่วยเสียชีวิตที่เมืองหย่งอัน บุตรชายหลิวฉาน (เล่าเสี้ยน) หรืออาเต๊า ขึ้นครองราชย์ต่อมา โดยมีขงเบ้งเป็นผู้สำเร็จราชการแทน
ขงเบ้งเห็นว่ารัฐสูอยู่ในสภาพอ่อนแอและลำบากจากการคุกคามรอบข้าง พร้อมกันนั้นเขตพื้นที่ทางตอนใต้ (ปัจจุบันคือเสฉวนและหยุนหนันของจีน) เกิดความวุ่นวาย จึงต้องเจรจาสงบศึกกับง่อก๊ก เมื่อถึงปีค.ศ. 225 ขงเบ้งยกทัพลงใต้ ทำศึกพิชิตใจเมิ่งฮั่ว หรือ เบ้งเฮ็ก หัวหน้าชนเผ่าพื้นเมือง นำความสงบสุขคืนมาอีกครั้ง หลังจากนั้น ขงเบ้งได้แต่งตั้งชนเผ่าพื้นเมืองบางส่วนเข้ารับราชการและกองทัพ อีกทั้งมีการนำวัวและม้าที่เป็นพาหนะพื้นเมืองเข้ามาใช้ในกองทัพอีกด้วย นับแต่นั้นมา ความสัมพันธ์กับชนเผ่าพื้นเมืองทางตอนใต้ก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ขณะเดียวกันภาคการเกษตรและหัตถกรรมได้รับการฟื้นฟูก้าวหน้า บ้านเมืองเข้มแข็งขึ้น เพื่อเตรียมรับการทำศึกกับวุ่ยก๊กทางตอนเหนือในอีกหลายปีต่อมา ขงเบ้งที่เร่งทำศึกแย่งชิงดินแดนภาคเหนือกับวุ่ยก๊กเป็นเวลาหลายปี สุดท้ายล้มป่วยเสียชีวิตกลางคัน จ๊กก๊กต้องถอยทัพกลับ นับแต่นั้นมาจ๊กก๊กก็จำต้องพลิกสถานะกลายเป็นฝ่ายตั้งรับ สุดท้ายในปีค.ศ. 263 วุ่ยก๊กยกทัพเข้ารวมจ๊กก๊กเป็นผลสำเร็จ
ง่อก๊ก เมื่อครั้งกองกำลังโพกผ้าเหลืองลุกขึ้นก่อการจราจล ซุนเจี้ยนหรือซุนเกี๋ยน ที่เป็นขุนนางมีหน้าที่เข้าปราบปรามในพื้นที่เขตเจียงหนัน เมื่อครั้งอ้วนเสี้ยวและพวกร่วมมือปราบตั๋งโต๊ะ ซุนเจียน (ซุนเกี๋ยน) ก็เข้าร่วมด้วย ต่อมาเมื่อซุนเจียน (ซุนเกี๋ยน) เสียชีวิต ซุนเช่อ หรือซุนเซ็ก บุตรชายเข้าคุมกองทัพต่อ ปี 194 ได้รับความช่วยเหลือจากโจวอวี่หรือจิวยี่ เสริมกำลังทางทหารให้เข้มแข็งขึ้น เริ่มขยายอำนาจออกสู่เจียงตงทางตะวันออกของลุ่มน้ำแยงซี ต่อมาเมื่อโจโฉเข้าควบคุมฮั่นเสี้ยนตี้ (พระเจ้าเหี้ยนเต้) ไว้ได้ ซุนเช่อ (ซุนเซ็ก) ก็หันมาเข้ากับโจโฉ และได้รับการอวยยศเป็นอู๋โหว หลังจากซุนเช่อ (ซุนเซ็ก) สิ้น ซุนฉวนหรือซุนกวน ผู้เป็นน้องชายก็เข้าสืบทอดอำนาจต่อมา ภายหลังการศึกที่ชื่อปี้ เป็นเหตุให้โจโฉต้องถอยร่นกลับไปยังภาคเหนือ ซุนกวนก็เข้าคุมพื้นที่เขตตะวันออกเฉียงใต้ไว้ได้ เกิดเป็นกองกำลังสามเศร้าต่างคุมเชิงกัน
ปัญหาที่ง่อก๊กต้องเผชิญคือ ต้องคอยป้องกันชาวเขาเผ่าเยว่ ที่คอยก่อความไม่สงบ และมีแรงกดดันจากกองกำลังของวุ่ยก๊กทางตอนเหนือ ในปีค.ศ. 234 ภายหลังดำเนินยุทธการปิดล้อม ทำให้ชาวเขาเผ่าเยว่วางอาวุธยอมแพ้ จากนั้นมา ชาวฮั่นและชาวเผ่าเยว่ก็มีการหลอมรวมทางชนชาติเข้าด้วยกัน สำหรับปัญหากองกำลังของวุ่ยก๊กที่กดดันอยู่ทางตอนเหนือ ก็มีการผลัดกันรุกรับ หลังจากขงเบ้งเสียชีวิตและวุ่ยก๊กปราบจ๊กก๊กลงได้แล้ว วุ่ยก๊กก็เพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อง่อก๊กมากขึ้น แต่เนื่องจากความสามารถทางน้ำของกองทัพวุ่ยก๊กมีจำกัด การสู้รบจึงยืดเยื้อยาวนานต่อมาอีกหลายปี
ในช่วงเวลา 52 ปีของการสถาปนาวุ่ยก๊กนี้ ได้มีการบุกเบิกที่ดินทำการเกษตร การเมืองการปกครองก็มั่นคงมีเสถียรภาพ ดินแดนแถบเจียงหนันได้มีการพัฒนาด้านกิจการต่อเรือและการขนส่งทางน้ำอย่างมาก แม่น้ำสายต่าง ๆได้รับการเชื่อมต่อจนกลายเป็นเส้นทางการคมนาคมสายหลักจากตะวันออกสู่ดินแดนทางตอนใต้ ถึงกับมีการเดินเรือขึ้นเหนือถึงเหลียวตง ทิศใต้ล่องถึงหนันไห่หรือเขตทะเลใต้ เมื่อถึงปีค.ศ. 230 ได้มีคณะเดินเรือไปถึงเกาะไต้หวันเป็นครั้งแรกเท่าที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ ราชทูตจากง่อยังเดินทางล่องใต้ลงไปจนถึงแถบทางตอนใต้ของเวียดนามและอาณาจักรฟูนัน (กัมพูชาในปัจจุบัน) เป็นต้น ได้มีการเผยแพร่ของพุทธศาสนาจากลั่วหยางลงสู่ดินแดนทางตอนใต้ พร้อม ๆ กับลัทธิเต๋า
หลังจากซุนกวนเสียชีวิตในปีค.ศ. 252 ง่อก็อ่อนแอลง ในขณะที่วุ่ยที่นำโดยตระกูลซือหม่า (สุมา) นับวันจะมีกองกำลังเข้มแข็งขึ้น หลังจากรวมจ๊กเข้าไว้ในปีค.ศ. 263 และผลัดแผ่นดินสถาปนาราชวงศ์จิ้นในปีค.ศ. 265 ราชวงศ์จิ้นต้องวุ่นวายอยู่กับการวางรากฐานการปกครองให้กับราชวงศ์ใหม่ เป็นเหตุให้ง่อยังสามารถประคองตัวมาได้อีกระยะเวลาหนึ่ง เมื่อถึงปีค.ศ. 269 จิ้นที่ได้ผู้เชี่ยวชาญทางน้ำจากจ๊ก เริ่มฝึกกองกำลังทางน้ำ เมื่อถึงปี ค.ศ. 279 กองทัพจิ้นก็ยกประชิดง่อทางตอนเหนือของลำน้ำแยงซี และสามารถเข้าถึงเมืองหลวงเจี้ยนเย่ได้ในปีค.ศ. 280 ง่อก๊กก็ถึงกาลล่มสลาย
แหล่งอ้างอิง http://www.thaichinese.net/History/Imperial/imperial.html http://www.thaisamkok.com/china-dynasty-11.shtml
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2
- 3