• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:fee051f67e57d36620f63dcf50c21483' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\" lang=\"TH\">กล้วยไม้ดิน</span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img src=\"/files/u40049/1311.jpg\" width=\"300\" height=\"300\" />\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\"><br />\nกล้วยไม้เป็นพืชที่มีรากกึ่งอากาศ ลำต้นที่เห็นโผล่พ้นจากเครื่องปลูกแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ ลำต้นแท้จริง มีข้อ ปล้อง เหมือนพืชทั่ว ๆ ไป ที ่ข้อมีตาซึ่ง สามารถเจริญเป็นหน่อใหม่หรือช่อดอก กล้วยไม้ประเภทนี้ได้แก่ สกุลแวนด้า แมลงปอ อีกประเภทหนึ่งเป็นลำต้นเทียม เรียกว่า ลำลูกกล้วย (pseudobulbs) ทำหน้าที่สะสมอาหาร ตาที่อยู่ตามข้อบน ๆ ของลำลูกกล้วยสามารถแตกเป็นหน่อหรือช่อดอกได้ ลำต้นที่แท้จริงของกล้วยไม้ป ระเภทนี้ คือ เหง้า (rhizome) ซึ่งเจริญในแนวนอนไปตามผิวของเครื่องปลูก ลักษณะของเหง้ามีข้อและปล้องถี่ กล้วยไม้ในกลุ่มนี้ได้แก่ สกุลหวาย ใบกล้วยไม้มีหลายลักษ ณะ ได้แก่ ใบ แบน, ใบกลม และใบร่อง สำหรับดอกกล้วยไม้ประกอบด้วย กลีบดอก 6 กลีบ โดยเป็นกลีบดอกชั้นนอก 3 กลีบ และกลีบดอกชั้นใน 3 กลีบ กลีบชั้นนอก 2 กลีบที่อยู่ด้านข้างหรือด้านล่าง มีลักษณะเหมือนกันอีก 1 กลีบ อยู่ด้านบน อาจมีลักษณะแตกต่างออกไป ส่วนกลีบชั้นในที่อยู่ด้านข้าง 2 กลีบ มีลักษณะ เหมือนกันอีก 1 กลีบ ที่อยู่ด้านล่างมีลักษณะแตกต่างไปเรียกว่าปากหรือกระเป๋า (lip) ซึ่งมีประโยชน์สำหรับล่อเมลงเพื่อช่วยผสมพันธุ์ ดอก กล้วยไม้เป็นดอก สมบูรณ์เพศ มีส่วนของก้านเกสรตัวผู้ ก้านและยอดเกสรตัวเมียรวมเป็นอวัยวะเดียวกันเรียกว่า เส้าเกสร โดยอับเกสรตัวผู้อยู่ที่ส่วนปลายเส้าเกสรและยอด เกสรตัวเมียอยู่ใต้อับเรณู ลักษณะเป็นแอ่งตื้น ๆ ภายในมีเมือกเหนียวเพื่อช่วยในการผสมพันธุ์ สำหรับรังไข่ของดอกกล้วยไม้อยู่ตรงส่ว นของก้านดอก<span lang=\"TH\">ชื่อสามัญ</span>  Ground orchid <o:p></o:p></span><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\" lang=\"TH\"></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\" lang=\"TH\">ชื่อวิทยาศาสตร์</span><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\">     Spathoglottis Blume. <o:p></o:p></span><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\"></span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\"><span lang=\"TH\">ชื่อวงศ์</span>     ORCHIDACEAE <o:p></o:p></span><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\"><br />\n</span><span style=\"font-size: 14pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\" lang=\"TH\">ลักษณะ</span><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\" lang=\"TH\"> </span><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\"><o:p></o:p></span><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\"><br />\n<span lang=\"TH\">สูง </span>30 - 60 <span lang=\"TH\">ซม. ใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน ขนาด </span>3 - 14 x 3 - 5 <span lang=\"TH\">ซม. ปลายใบแหลม โคนใบเป็นกาบหุ้มก้านช่อดอก ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้ม ทั้ง </span>2 <span lang=\"TH\">ด้าน ช่อดอก ออกกลางกลุ่มใบ มีดอกขนาดกลางจำนวนมาก ก้านช่อดอกยาว </span>15 - 20 <span lang=\"TH\">ซม. หนา </span>3 - 4 <span lang=\"TH\">มม. ใบประดับที่ก้านช่อดอกรูปใบหอก ก้านดอกย่อยยาว </span>2 – 2.5 <span lang=\"TH\">ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่แกมรูปใบหอก ขนาด </span>1.2 x 0.7 <span lang=\"TH\">ซม. กลีบดอกรูปใบหอก ขนาด </span>8 x 2 <span lang=\"TH\">มม. แฉกข้างรูปพัด กาง </span><o:p></o:p></span><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\"> </span>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<a href=\"/node/83434/\"><img src=\"/files/u40049/HomeIcon1.jpg\" width=\"300\" height=\"300\" /></a>\n</p>\n<p><span style=\"font-size: 9pt; font-family: \'Tahoma\',\'sans-serif\'; color: #2b3220\" lang=\"TH\"></span></p>\n', created = 1719799987, expire = 1719886387, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:fee051f67e57d36620f63dcf50c21483' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

กล้วยไม้ดิน

กล้วยไม้ดิน

 

 


กล้วยไม้เป็นพืชที่มีรากกึ่งอากาศ ลำต้นที่เห็นโผล่พ้นจากเครื่องปลูกแยกได้เป็น 2 ประเภท คือ ลำต้นแท้จริง มีข้อ ปล้อง เหมือนพืชทั่ว ๆ ไป ที ่ข้อมีตาซึ่ง สามารถเจริญเป็นหน่อใหม่หรือช่อดอก กล้วยไม้ประเภทนี้ได้แก่ สกุลแวนด้า แมลงปอ อีกประเภทหนึ่งเป็นลำต้นเทียม เรียกว่า ลำลูกกล้วย (pseudobulbs) ทำหน้าที่สะสมอาหาร ตาที่อยู่ตามข้อบน ๆ ของลำลูกกล้วยสามารถแตกเป็นหน่อหรือช่อดอกได้ ลำต้นที่แท้จริงของกล้วยไม้ป ระเภทนี้ คือ เหง้า (rhizome) ซึ่งเจริญในแนวนอนไปตามผิวของเครื่องปลูก ลักษณะของเหง้ามีข้อและปล้องถี่ กล้วยไม้ในกลุ่มนี้ได้แก่ สกุลหวาย ใบกล้วยไม้มีหลายลักษ ณะ ได้แก่ ใบ แบน, ใบกลม และใบร่อง สำหรับดอกกล้วยไม้ประกอบด้วย กลีบดอก 6 กลีบ โดยเป็นกลีบดอกชั้นนอก 3 กลีบ และกลีบดอกชั้นใน 3 กลีบ กลีบชั้นนอก 2 กลีบที่อยู่ด้านข้างหรือด้านล่าง มีลักษณะเหมือนกันอีก 1 กลีบ อยู่ด้านบน อาจมีลักษณะแตกต่างออกไป ส่วนกลีบชั้นในที่อยู่ด้านข้าง 2 กลีบ มีลักษณะ เหมือนกันอีก 1 กลีบ ที่อยู่ด้านล่างมีลักษณะแตกต่างไปเรียกว่าปากหรือกระเป๋า (lip) ซึ่งมีประโยชน์สำหรับล่อเมลงเพื่อช่วยผสมพันธุ์ ดอก กล้วยไม้เป็นดอก สมบูรณ์เพศ มีส่วนของก้านเกสรตัวผู้ ก้านและยอดเกสรตัวเมียรวมเป็นอวัยวะเดียวกันเรียกว่า เส้าเกสร โดยอับเกสรตัวผู้อยู่ที่ส่วนปลายเส้าเกสรและยอด เกสรตัวเมียอยู่ใต้อับเรณู ลักษณะเป็นแอ่งตื้น ๆ ภายในมีเมือกเหนียวเพื่อช่วยในการผสมพันธุ์ สำหรับรังไข่ของดอกกล้วยไม้อยู่ตรงส่ว นของก้านดอกชื่อสามัญ  Ground orchid

ชื่อวิทยาศาสตร์     Spathoglottis Blume.

ชื่อวงศ์     ORCHIDACEAE
ลักษณะ
สูง 30 - 60 ซม. ใบรูปรีแกมรูปขอบขนาน ขนาด 3 - 14 x 3 - 5 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบเป็นกาบหุ้มก้านช่อดอก ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้ม ทั้ง 2 ด้าน ช่อดอก ออกกลางกลุ่มใบ มีดอกขนาดกลางจำนวนมาก ก้านช่อดอกยาว 15 - 20 ซม. หนา 3 - 4 มม. ใบประดับที่ก้านช่อดอกรูปใบหอก ก้านดอกย่อยยาว 2 – 2.5 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่แกมรูปใบหอก ขนาด 1.2 x 0.7 ซม. กลีบดอกรูปใบหอก ขนาด 8 x 2 มม. แฉกข้างรูปพัด กาง
 

 

สร้างโดย: 
เสาวลักษณ์

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 518 คน กำลังออนไลน์