การหาลายนิ้วมือด้วยวิธีรมควันไอโอดีน (Iodine Fuming)
การหาลายนิ้วมือด้วยวิธีรมด้ควันไอโอดีน (Iodine Fuming)
การใช้ประโยชน์ของสารไอโอดีนเพื่อตรวจรอยลายแฝง เหมาะกับการตรวจของกลางได้หลายอย่าง รวมทั้งกระดาษ ผนัง และพื้นผิวที่มีความเหนียวเหนอะหนะด้วย
หลักการ คือ เรานำเกล็ดไอโอดีน ซึ่งเป็นสสารแข็งที่มีคุณสมบัติที่จะระเหิดเป็นก๊าสได้เมื่อได้รับความร้อนในระดับหนึ่ง และเราสามารถใช้รูปแบบของการตรวจในห้องทดลองปฎิบัติการได้โดยใช้ตู้ไอโอดีน (Iodine Fuming Cabinet) ส่วนถ้าจะนำไปใช้ตรวจ ณ สถานที่เกิดเหตุก็เหมาะสมที่จะใช้แบบที่บรรจุอยู่ในกระบอกแก้วเล็กๆ ซึ่งมีความสะดวกในการพกพาและตรวจหาบนบริเวณพื้นผิวที่ไม่กว้างขวางเกินไปนัก กระบอกเช่นนี้เรียกว่า Iodine Fuming Gun ความร้อนของตู้ในอุณหภูมิที่ประมาณ 80 - 90 celcius's degree จะสามารถทำให้เกร็ดไอโอดีนในตู้ระเหิดเป็นควันขึ้นได้ ซึ่งถ้าเราไม่ใช้ตะเกียงวิทยาศาสตร์วางไว้ใต้ตู้ตรงภาชนะบรรจุเกล็ดไอโอดีน ก็อาจใช้หลอดไฟฟ้าขนาด 60 -100 แรงเทียนไส่ไว้ที่ด้านล่างในตู้ได้ การใช้ความร้อยช่วย จะทำให้ปรากฎภาพรอยได้รวดเร็วขึ้นสำหรับการใช้กระบอกไอโอดีน (Iodine Fuming Gun) ซึ่งเหมาะกับการพกพาไปในการตรวจหารอยลายแฝง ณ สถานที่เกิดเหตุนั้น เป็นหลอดหรือกระบอกแก้วที่ภายในบรรจุใยแก้ว (Glass Wool) เกล็ดไอโอดีน (Iodine Crystals) และแคลเซียม คลอไรด์ (Calcium Chroride) ภายในหลอดแก้วมีท่อยางโปร่งอยู่ตรงกลางสำหรับใช้เป่าได้ เมื่อนำมาใช้ในการตรวจหารอยแฝง ก็ใช้การเป่าท่อยาง ลมร้อนจากปากจะผ่านแคลเซียม คลอไรด์สู่ไอโอดีน ทำให้เกิดการระเหิดของไอโอดีนขึ้น ไอระเหยหรือควันของไอโอดีนก็จะถูกปล่อยออกมายังปลายท่อยางอีกข้างหนึ่ง ซึ่งเราต้องจ่อไว้ใกล้ที่สุด (แต่ไม่ใช่ชิดหรือสัมผัสถึง กับพื้นผิวของวัตถุที่ต้องการตรวจหารอยลายแฝง ซึ่งถ้าเคยมีการใช้มือหรือเท้าเปลือยสัมผัสมาก่อนแล้ว ก็จะปรากฎรอยลายเส้นให้เห็นขึ้นได้อย่างชัดเจนเช่นเดียวกับการใช้ตู้ไอโอดีนตรวจหา
ในทางปฎิบัติปกติ เมื่อเราใช้เทคนิคนี้ในการตรวจหาตัวอย่างของลายแฝง เราจำเป็นต้องใช้วิธีการหยิบจับด้วยปากคีบหรือสวมถุงมือโดยเสมอ และพยายามไม่สัมผัสเลยไปกว่าบริเวณขอบวัตถุโดยไม่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสซ้ำทับลงไปบนบริเวณที่อาจมีรอยลายแฝงปรากฎอยู่ได้ เมื่อนำไปใส่หนีบจับไว้ในตู้ไอโอดีนแล้วใช้ความร้อนช่วย หรือการใช้ลมปากเป่าท่อยางไอโอดีน ลมร้อนอุ่นๆ เช่นนี้จะเป็นปัจจัยให้เกล็ดไอโอดีนระเหิดเป็นไอและควันสีม่วง ซึ่งถ้ามีไขมันหรือน้ำมัน (ของเหงื่อ) ปรากฎอยู่ มันจะดูดซึมไอควันเหล่านี้ไว้ปรากฎเห็นเป็นรอยเส้นสีน้ำตายหรือออกสีเหลืองๆ ขึ้นตัดกับสีพื้นวัตถุนั้น เมื่อภาพรอยปรากฎชัด จะต้องถ่ายภาพไว้โดยทันที เนื่องจากรอยเส้นเหล่านี้จางหายอย่างรวดเร็วเมื่อกระบวนการนี้สิ้นสุดลง ส่วนวัตถุที่ปรากฎของลายแฝงเหล่านี้ จะต้องทำเครื่องหมายกำกับกำหนดตำแหน่งอย่างถูกต้องเพื่อการนำไปพิสูจน์เอกลักษณ์ต่อไป