โครงสร้าง
โครงสร้างที่ 1 การกระทำครบองค์ประกอบ
1. มีการกระทำ (ม.59) คือ เคลื่อนไหว หรือ ไม่เคลื่อนไหวร่างกายโดยรู้สำนึก2. ครบองค์ประกอบภายนอกของการกระทำความผิดในเรื่องนั้น3. ครบองค์ประกอบภายในของการกระทำความผิดในเรื่องนั้น4. ผลของการกระทำสัมพันธ์กับการกระทำตามหลักเรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างการกระทำและผล 1. ผู้กระทำจะต้องรับผิดในผลบั้นปลาย ถ้าผลนั้นเป็น “ผลโดยตรง” (ทฤษฎีเงื่อนไข) มาจากการกระทำของผู้กระทำ คือ ถ้าไม่ทำ ผลไม่เกิด ผลที่เกิดนั้นถือว่าเป็นผลโดยตรงมาจากการกระทำของผู้กระทำ แต่ถ้าไม่ทำผลก็เกิด ผลที่เกิดไม่ใช่เป็นผลโดยตรงมาจากการกระทำของผู้กระทำ2. ถ้าผลแห่งการกระทำทำให้ผู้กระทำต้องรับโทษหนักขึ้น ผู้กระทำจะต้องรับผิดในผลบั้นปลายก็ต่อเมื่อ ผลนั้นเป็น “ผลโดยตรง” และเป็น “ผลธรรมดา” (ม.63) ”ผลธรรมดา” คือ ผลที่ผู้กระทำคาดเห็นความเป็นไปได้ของผลนั้น ไม่จำต้องถึงขนาดเล็งเห็นผล ระดับการวินิจฉัยคือ “วิญญูชน” หากวิญญูชนไม่สามารถคาดเห็นได้ แม้ผู้กระทำจะคาดเห็นได้ ผู้กระทำก็ไม่ต้องรับผิดในผลบั้นปลายนั้น3. ถ้าผลแห่งการกระทำเกิดขึ้นโดยมีเหตุแทรกแซง (คือ:เหตุที่เกิดขึ้นใหม่ภายหลังการกระทำของผู้กระทำในตอนแรก และเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดผลในบั้นปลายขึ้น) ผู้กระทำจะต้องรับผิดในผลบั้นปลาย ก็ต่อเมื่อเหตุแทรกแซงนั้นเป็นสิ่งที่ “วิญญูชน” คาดหมายได้ แต่ถ้าวิญญูชนคาดหมายไม่ได้ ผู้กระทำก็ไม่ต้องรับผิดในผลบั้นปลาย แต่ต้องรับผิดเพียงเท่าที่ตนได้กระทำไปแล้วก่อนมีเหตุแทรกแซง
โครงสร้างที่ 2 อำนาจกระทำ
1. การกระทำความผิดโดยจำเป็น (ม.67)
โครงสร้างที่ 3 กฎหมายยกเว้นโทษ
กฎหมายยกเว้นโทษ มีที่มาจากการคุ้มครองผู้ได้รับความเสียหาย ซึ่งเกิดจากการการกระทำ อันละเมิดต่อกฎหมายของบุคคลอื่น ตามหลักทั่วไปในเรื่อง สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ โดยได้บัญญัติหลักของการคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ไว้ 2 หลักด้วยกัน คือ1. หลักกฎหมายยกเว้นโทษ2. หลักกฎหมายยกเว้นความผิดหลักกฎหมายยกเว้นโทษนั้น เป็นกรณีที่มีการกระทำอันเป็นความผิดเกิดขึ้นแล้วแต่กฎหมายไม่ประสงค์ที่จะลงโทษผู้กระทำความผิดนั้น เช่น กรณีตาม ป.อ.มาตรา 67 เป็นเรื่องของ การกระทำความผิดด้วยความจำเป็น หากการกระทำนั้นไม่เกินสมควรแก่เหตุผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ ผู้กระทำความผิดด้วยความจำเป็นนั้นถือว่าได้กระทำความผิดแล้ว แต่กฎหมายไม่ประสงค์จะลงโทษ เนื่องจากเป็นการกระทำเพราะความจำเป็นเพื่อให้ตนหรือบุคคลอื่นพ้นจากภยันตรายอันใกล้จะถึงและไม่อาจหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้หลักกฎหมายยกเว้นความผิด เป็นกรณีที่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้วเหมือนกันแต่ กฎหมายให้ถือว่าไม่มีการกระทำความผิด ตัวอย่าง เช่นป.อ.มาตรา 68 การกระทำเพื่อป้องกัน เป็นกรณีที่มีการกระทำผิดขึ้นแต่กฎหมายถือว่าไม่เป็น