สุขภาพกาย ... สุขภาพจิต
ที่มาของภาพ http://ecard.kapook.com/category.php?lang=th&category_id=4&page=2
หัวจดเท้ารักษาเองได้ก่อนไปหาหมอ
1. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพังก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ 10 กลีบ กับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
2. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ 5 ขีด และกินปลาทูอีกวันละ 2 ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กิน
หน่อยก็ช่วยได้ค่ะ
3. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกินกระเทียม, หอม, พริกให้มากเข้าไว้
4. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ 5 ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ 1 กำมือ (สังกะสี)
5. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยว ไม่หวานจัดมากิน
6. โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่, หอมแดง, ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน
7. นอนไม่หลับ ตักน้ำผึ้งกินก่อนนอนสักวันละ 2 ช้อนโต๊ะ ถ้าหาน้ำผึ้ง ไม่ได้ใช้น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะแทน ถ้าอยากให้หลับสบายเพิ่มเติมขี้เหล็กและ
มะรุมเข้าไปหน่อย
8. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย , ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง
9. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ 3 มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ของ ฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)
10. ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ
11. ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น
12. โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกะหล่ำปลีให้มาก
13. เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำ ขิง, ชา ขิงหรือเต้าฮวย
14. วัยทอง วูบวาบ อารมณ์แปรปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ 1 แผ่น ถ้ากินเต้าหู้ แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ 1 กำมือก็ได้
15. หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า
16. กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมเท่ากับเม็ดใหญ่) มะม่วงจิ้ม กะปิและ สับปะรดซึ่งมีธาตุสมานกระดูกอยู่มาก (แมงกานีส)
17. ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ 2 ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้
18. มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ 5 ขีด
19. มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี
แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู้ที่ยังสูบบุหรี่อยู่
20. ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ 1-2 ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็น การล้างพิษในตัวด้วย
"ขอบตาคล้ำ"
อาการขอบตาคล้ำดำหมอง เกี่ยวข้องกับไต ดังนั้นต้องกดบริเวณกลางฝ่าเท้า ไล่มาแนวเดียวกันไปทางนิ้วนาง กดและผ่อนเป็นจังหวะตำแหน่งละ 10 นาที สีดำที่ขอบตาจะลดลงค่ะ
"ลดริ้วรอย"
เพื่อลดริ้วรอยบริเวณใบหน้าสวยๆหล่อๆของสาวห้องแป้ง ต้องนวดสะท้อนไปที่ต่อมใต้สมอง โดยงอนิ้วหัวแม่มือแล้ววางข้อต่อส่วนที่งอกดลงไปตรงกลางท้องนิ้วหัวแม่เท้า กดช้าๆแล้วผ่อน สัก 5-10 นาที แต่ต้องทำทุกวันนะคะ มันจะช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมใต้สมองให้ผลิตฮอร์โมนรักษาความเต่งตึงค่ะ
"สิว"
ถ้ากำลังเป็นสิว ให้แก้โดยกดตรงตำแหน่งที่ส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ บริเวณโคนนิ้วหัวแม่เท้าทั้งสองและฝ่าเท้า วิธีการกด ให้งอนิ้วชี้และกระตุกข้อต่อส่วนที่งอนั้น ค่อยๆกดลงไปตรงโคนนิ้วหัวแม่เท้าด้านขวา ต่อด้วยด้านซ้าย แนะนำให้กดเป็นประจำ ต่อมไทรอยด์จะผลิตอฮร์โมนเต็มที่ค่ะ
"คลายความเครียด"
ให้ทาบนิ้วหัวแม่มือลงบนจุดกลางเท้าในแนวนิ้วหัวแม่เท้า มือประคองเท้าไว้ ออกแรงกดและผ่อนเป็นจังหวะ สัก 15 นาที ภาวะเครียด จะค่อยๆจางไปค่ะ
"ดวงตาเมื่อยล้า"
ต้องใช้ข้อนิ้วกดลงไป บนแนวขวางของฝ่าเท้าตรงบริเวณโคนนิ้วชี้และนิ้วกลาง กดซัก 15 นาที จะรู้สึกได้เลยว่ากล้ามเนื้อสายตาผ่อนคลายขึ้น
"นอนไม่หลับ"
ลองใช้นิ้วหัวแม่มือกดจี้จุดผ่อนคลายบริเวณกลางฝ่าเท้า ระหว่างนิ้วชี้กับนิ้วก้อย ว่ากันว่าจุดนี้ส่งผลต่อปลายประสาทช่องท้อง ช่วยให้ relex หลับง่าย ประมาณ 20 นาที คุณก็จะรู้สึกเริ่มง่วงแล้วค่ะ
"ปวดต้นคอ ปวดไหล่"
ใช้นิ้วหัวแม่มือนวดคลึงบริเวณหลังเท้าตรงโคนนิ้วชี้และนิ้วก้อยประมาณ 15 นาที กล้ามเนื้อบริเวณคอ ไหล่ ของคุณจะคลายตัวค่ะ
"ปวดศรีษะบ่อยๆ"
ต้องกดบริเวณนิ้วหัวแม่เท้าส่วนที่นูนใต้นิ้ว นวดโดยงอนิ้วชี้และนิ้วกลาง แล้วคีบหัวแม่เท้า นวด และรูด รับรองว่าศรีษะจะเบาลงค่ะ อาการปวดก็จะค่อยๆหายไป นวดและรูดหัวนิ้วเท้าอื่นๆด้วยก็ดีนะคะ ทำแบบนี้บ่อยๆ จะป้องกันอาการปวดหัวได้ด้วยค่ะ
"ไมเกรน"
ให้กดปลายนิ้วหัวแม่เท้า โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้จับปลายนิ้วหัวแม่เท้า ปวดช้างไหนนวดข้างนั้นไปเลยค่ะ นวดคลึงไป 10 นาทีแล้วโลกจะสดใสขึ้นเลยค่ะ
ที่มาของภาพ http://sites.google.com/site/thatsuksavittaya/sux-kar-sxn/phaph-kheluxnhiw-laea-kartun-thiy