การถ่ายทำภาพยนตร์ (Production)
http://www.nangdee.com/images/pr/KwajapenNang/24July/filmmachine.jpg
เป็นขั้นตอนที่สองภายหลังที่ได้จัดเตรียมงานและวางแผนก่อนการลงมือการถ่ายทำ การถ่ายภาพยนตร์จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเตรียมงานว่าพร้อมเพียงใด ซึ่งในการเตรียมงานนั้นก็ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น บทภาพยนตร์ นักแสดง ทีมงาน อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายทำ สถานที่ถ่ายทำ รวมไปถึงการวางแผนประชาสัมพันธ์ และการตลาดให้กับภาพยนตร์ที่จะผลิตออกมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งทีมงานที่มีประสิทธิภาพในการทำงานจะมีส่วนช่วยอย่างมากให้งานสามารถเดินหน้าได้อย่างดีเยี่ยมและรวดเร็ว เพราะการถ่ายทำภาพยนตร์เป็นงานหนัก จะต้องมีการใช้แรงกายและสมองในการสร้างสรรค์จินตนาการต่างๆ ลงบนแผ่นฟิล์ม
http://www.nangdee.com/images/pr/KwajapenNang/24July/photographer.jpg
ผู้กำกับการแสดง มีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ เป็นผู้ควบคุมการทำงานตลอดจนการตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าสิ่งใดเหมาะสมหรือไม่กับภาพยนตร์นั้นๆ สำหรับผู้กำกับภาพยนตร์บางเรื่องอาจลงรายละเอียดกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทำภาพยนตร์ นั่นหมายถึงการที่ต้องตัดสินใจในทุกเรื่อง เริ่มตั้งแต่การตัดสินใจ
- เรื่องบทภาพยนตร์
- การคัดเลือกตัวนักแสดง
- การคัดเลือกทีมงานเช่น ผู้ทำเพลงประกอบ ผู้กำกับภาพ ผู้ออกแบบฉาก คอสตูม และอื่นๆ
- เป็นผู้ที่สามารถบอกนักแสดงได้ว่าต้องการให้อารมณ์ของหนังออกมาในลักษณะไหน ตลอดจนรายละเอียดต่างๆ ของการถ่ายทำ สถานที่ถ่ายทำ อุปกรณ์ที่ใช้ในการบันทึก และอีกมาก
• ผู้กำกับภาพ หมายถึง ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายบันทึกภาพและผู้กำกับภาพในเวลาเดียวกัน รวมถึงการต้องรับผิดชอบ วางองค์ประกอบ ดูภาพรวม กำหนดทิศทางของแสง ทำให้ตัวละครโดดเด่นออกมา
นักกำกับภาพที่มีความชำนาญอาจไม่ต้องเป็นผู้ถ่ายภาพเอง เพียงแต่ดูในภาพรวม โดยมีผู้ช่วยกล้องทำหน้าที่ถ่ายภาพแทน ตัวอย่างผู้กำกับภาพที่มีชื่อเสียงเช่น Conlad L.Hall , Rodrigo Prieto และ Christopher Doyle
• นักแสดง ตามความหมายในพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์หมายถึง ผู้แสดง นักดนตรี นักร้อง นักเต้น นักรำ และผู้ซึ่งแสดงท่าทาง ร้อง กล่าว พากย์ แสดงตามบทหรือในลักษณะอื่นใด แต่ถ้าเป็นภาพยตร์นักแสดงคือผู้ที่ถ่ายทอดอารมณ์และแสดงบทบาทเป็นตัวละครที่ได้กำหนดไว้ในเรื่อง
นักแสดงนับได้ว่ามีส่วนสำคัญต่อหนังเรื่องนั้นๆ อย่างมาก เพราะถ้าได้นักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และเป็นนักแสดงคุณภาพที่ผู้ชมเคยรู้จักผลงานอยู่แล้ว ก็จะทำให้การทำการตลาดของภาพยนตร์นั้นง่ายขึ้น แต่ส่วนอื่นๆ ที่ผู้กำกับต้องตัดสินใจว่าควรหรือไม่ควรเลือกนักแสดงคนใด หรือบุคคลิกแบบใดนั้น ต้องประกอบกับส่วนอื่นๆ ด้วย เช่นลักษณะทางกายภาพเป็นแบบใด เช่น เตี้ย สูง ดำ ขาว ,เชื้อชาติ หน้าตา หรือ การพูดภาษาที่หนังเรื่องนั้นต้องการ แต่สำหรับนักแสดงอาชีพแล้วบางครั้งลักษณะทางกายภาพก็สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อภาพยนตร์เรื่องนั้นได้ ยกตัวอย่างเช่น ทอม แฮงค์ ที่ต้องเพิ่มน้ำหนักให้อ้วน และลดน้ำหนักให้ผอม เพื่อแสดงเรื่อง Cast Away หรือ เรอเน่ เซลวีเกอร์ ที่ต้องเพิ่มน้ำหนักให้อ้วนเพื่อแสดงในเรื่อง Bridget Jone's Diary
• ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจ คือผู้ทำหน้าที่ด้านการติดต่อและประสานงานกองถ่าย รวมทั้งนัดหมายนักแสดง ทีมงาน ตามปกติจะมีผู้ร่วมงานด้วยหลายคน
• ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ ทำหน้าที่ควบคุมเกี่ยวกับการจัดและตกแต่งฉากให้เหมาะสมกับเรื่องราวในภาพยนตร์ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์ย้อนยุคต่างๆ องค์ประกอบของฉากที่ใช้ก็ควรจะเป็นของที่ใช้อยู่ในยุคสมัยนั้นๆ เพื่อความสมจริงของภาพยนตร์
จะเห็นได้ว่าหนังแต่ละเรื่อง ผู้กำกับมีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะสามารถนำพาให้หนังเรื่องนั้น สื่อให้ถึงคนดูได้มากน้อยแค่ไหน และการตัดสินใจของผู้กำกับก็เป็นสิ่งสำคัญมากเช่นเดียวกัน เริ่มตั้งแต่ บทภาพยนตร์ การคัดเลือกนักแสดง ไปจนถึงรายละเอียดของการถ่ายทำทั้งหมด ทำให้ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงหลายคนที่มีชื่อเสียงและมีแฟนภาพยนตร์ที่เหนียวแน่นนั้น ก็รอคอยติดตามผลงานใหม่ ๆ ของเขาเสมอ เพราะมั่นใจในผลงานที่ผ่านๆ มาว่าคงไม่ทำให้ผิดหวัง เห็นมั้ยล่ะคะว่านอกจากนักแสดงที่มีชื่อเสียงแล้วแสดงได้ถึงอารมณ์แล้ว บุคคลากรอย่างผู้กำกับก็มีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้ภาพยนตร์เรื่องนั้นออกมาดี ประกอบกับบทบาทของนักแสดง และความร่วมมือกันระหว่างทีมงานทุกคนก็จะนำพาให้ภาพยนตร์เรื่องนั้นประสบความสำเร็จได้