::: ปฏิกิริยาในดอกไม้ไฟ :::
.
................h คือค่าคงที่ของแพลงค์
................c คือความเร็วของแสง
................Λ คือความยาวคลื่นของรังสีที่ปลดปล่อยออกมาเป็นสีต่างๆ
................สีแดง จาก สตรอนเชียม (Sr) และ ลิเธียม (Li)
................สีส้ม จาก แคลเซียม (Ca)
................สีเหลือง จาก โซเดียม (Na)
................สีเขียว จาก แบเรียม (Ba)
................สีฟ้า จาก ทองแดง (Cu)
................สีม่วง จาก สตรอนเชียมผสมกับทองแดง
.
.
.
( ที่มารูป ::: http://img220.imageshack.us/img220/2235/fireworksxc9.jpg )
.
.................ในการเลือกใช้ธาตุชนิดต่างๆ เป็นตัวกำเนิดสีในดอกไม้ไฟนิยมใช้เกลือคลอไรด์ของธาตุชนิดนั้นๆ เช่น แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2) และแบเรียมคลอไรด์ (BaCl2) เนื่องจากอะตอมของคลอรีนมีส่วนช่วยในการเพิ่มความเข้มให้กับสีที่ได้จากอะตอมของโลหะ
.................นอกจากการเลือกใช้สารเคมีในการสร้างสีสันให้กับดอกไม้ไฟแล้ว การออกแบบส่วนประกอบของดอกไม้ไฟถือเป็นสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่จะทำให้ดอกไม้ไฟที่จุดขึ้นสู่ท้องฟ้ามีรูปแบบตามที่ต้องการ ไม่เช่นนั้น การให้ความร้อนกับสารเคมีที่กล่าวไปข้างต้นก็คงไม่ต่างอะไรไปจากการจุดระเบิดที่มีสีเท่านั้น
.
ส่วนประกอบของดอกไม้ไฟประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก คือ ภาชนะบรรจุ, เม็ดดาว, เชื้อปะทุระเบิด และ ชนวน
.
.
( ที่มารูป ::: http://disayaphong.files.wordpress.com/2008/11/firework_component3.png?w...)
.
ภาชนะบรรจุจะแบ่งออกเป็นสองส่วนย่อย คือ ส่วนของฐาน (lift charge) ที่ทำหน้าที่นำดอกไม้ไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าก่อนการจุดระเบิด และส่วนของตัวดอกไม้ไฟที่มีชนวนหน่วงเวลา (time fuse) ที่ทำหน้าที่ควบคุมการระเบิดที่ระดับความสูงตามต้องการ
.
.
( ที่มารูป ::: http://disayaphong.files.wordpress.com/2008/11/firework_ignite.png?w=358... )
.
( ที่มารูป ::: http://learners.in.th/file/piyamart-a/08_024934_67.jpg )
.
เมื่อชนวนบริเวณฐานถูกจุดขึ้น
.
...............(ขั้น ตอนที่ 1) ตัวของดอกไม้ไฟจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในขณะเดียวกันชนวนหน่วงเวลาจะถูก จุดขึ้นระหว่างนั้น
.......................................ความยาวของชนวนหน่วงเวลา จะเป็นตัวกำหนดระดับความสูงของการระเบิด
...............(ขั้น ตอนที่ 2) เมื่อชนวนหน่วงเวลาถูกเผาไหม้จนหมดจะทำให้เกิดการระเบิดของเชื้อปะทุ ระเบิด (burst charge) ที่บรรจุอยู่ภายในตัว
.......................................ดอกไม้ ไฟ ส่งผลให้เม็ดดาว (stars) ที่ถูกเรียงตามรูปแบบที่ต้องการเกิดการระเบิดขึ้นอีกต่อหนึ่ง
...............(ขั้น ตอนที่ 3)ภายในเม็ดดาว หรือ stars จะประกอบไปด้วยเชื้อเพลิงและสารเคมีชนิดต่างๆ ที่รอทำปฏิกิริยาภายหลังการระเบิด
.....................................เมื่อเชื้อเพลิงภายในเม็ดดาวลุกติดไฟจะมี การถ่ายเทอิเล็กตรอนไปยังตัวออกซิไดซ์ (oxidizer)
.....................................ซึ่งเป็นสารประกอบเปอร์คลอเรท และเกิดแก๊สออกซิเจน เป็นผลิตภัณฑ์ดังสมการ (1)
.
.
ออกซิเจนที่เกิดขึ้นจะทำหน้าที่ในการออกซิไดซ์ซัลเฟอร์และคาร์บอนในเม็ดดาวเพื่อให้เกิดแก๊สซัลเฟอร์ไดออกไซด์และคาร์บอนไดออกไซด์อุณหภูมิสูงออกมา ดังสมการที่ (2)
.
สมการที่ (3) ความร้อนที่เกิดขึ้นจากแก๊สทั้งสองชนิดนี้จะทำให้สารเคมีที่หน้าหน้าที่เป็นตัวเกิดสีปลดปล่อยแสงออกมาเกิดเป็นดอกไม้ไฟที่มีสีสันและรูปแบบตามต้องการนั่นเอง
.
แม้ว่าการจุดดอกไม้ไฟในแต่ละครั้งจะเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาชั่วพริบตา แต่กลไกและปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นภายในนั้นต้องผ่านการคิดค้นและพัฒนามาเป็นระยะเวลาอันยาวนานจนทำให้ดอกไม้ไฟบางลูกมีราคาถึงหลักล้านเลยทีเดียว
.
.
.
( ที่มารูป ::: http://www.tat.or.th/uploaddept/31/img2010691015583.jpg )
.
.
แหล่งอ้างอิง
http://www.muangthai.com/mmnews/index.php?mod=article&cat=AtrsandCulture...
http://disayaphong.wordpress.com/category/ii-chemical-reactions/
http://b2love.exteen.com/20071206/entry
.
.