• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:0d8810927f7682552e57ea9799f4d577' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\" class=\"MsoNormal\" style=\"margin: 0cm 0cm 10pt\">\n<span lang=\"TH\" style=\"line-height: 115%; font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 22pt\"><span style=\"background-color: #ff00ff; color: #ffffff\">โบราณสถาน</span></span>\n</p>\n<p><span lang=\"TH\" style=\"line-height: 115%; font-family: \'Angsana New\',\'serif\'; font-size: 22pt\"><span style=\"color: #000000\"><o:p></o:p></span></span></p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"35\" width=\"450\" src=\"/files/u31517/47648_1.gif\" border=\"0\" />\n</div>\n<p></p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n           <span style=\"color: #339966\">ประเทศจีนเป็นประเทศ ๑ ใน ๔ ประเทศที่มีอารยธรรมโบราณ ข้อมูลล่าสุดจากนักโบราณคดีแสดงให้เห็นถึงตัวหนังสือเชิงภาพดึกดำบรรพ์ที่ใช้ในภาษาจีนโบราณนั้นมีอายุย้อนไปถึง ๗,๐๐๐ ปี โดยมีแหล่งต้นอารยธรรมเกิดขึ้นตามลุ่มน้ำ Yangtze กับลุ่มแม่น้ำเหลือง นอกจากนั้นการค้นพบเมล็ดข้างกับเครื่องมือโบราณหลายชนิด ที่นักโบราณคดีระบุว่ามีอายุย้อนไปถึง ๗,๐๐๐ ปี เช่นเดียวกัน</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">อารยธรรม ๗,๐๐๐ ปีของจีน พอจะเทียบเคียงได้กับอารยธรรมของอียิปต์โบราณ บาบิโลน และอินเดีย ในบางพื้นที่ มีอารยธรรมก่อนยุคขุนนาง สถานที่ที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์และซากปรักหักพังทางวัฒนธรรม มีให้พบเห็นได้ทุกหนทุกแห่งในประเทศ ซึ่งตามบัญชีของทางการอย่างเดียว บันทึกไว้มากกว่า ๕,๐๐๐ แห่ง</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">ที่มีชื่อเสียงมากคือ <span style=\"background-color: #ff00ff; color: #ffffff\">กำแพงเมืองจีน</span> (Great Wall) ซึ่งมีความยาว ๖,๓๕๐ กิโลเมตร วางตัวขวางภาคเหนือของจีนจาก Shanhaiguan ที่ทะเล Bohai ทางตะวันออกถึงช่อง Jiayu ในมณฑล Gansu ทางตะวันตก หากทุกๆ ส่วนของกำแพงที่สร้างในราชวงศ์ต่างๆ ทั้งหมดกว่า ๒,๐๐๐ ปี ระหว่าง ศตวรรษที่ ๗ B.C.(Before Christ ถึงศตวรรษที่ ๑๖ A.D. (Anno Domini= ตั้งแต่วันประสูติ ของพระเยซู) ถูกนำมาเชื่อมต่อกันแล้ว ความยาวของกำแพงเมืองจีนน่าจะยาวกว่า ๕๐,๐๐๐ กม. ยาวมากพอที่จะวางรอบโลกได้ที่เส้นศูนย์สูตร จึงไม่เป็นที่น่าประหลาดใจ หากมนุษย์อวกาศอเมริกันที่ได้เหยียบดวงจันทร์จะบอกว่า สามารถมองเห็นเส้นลายกำแพงเมืองจีนบนพื้นโลกอย่างเด่นชัดด้วยตาเปล่า เมื่อเขาเหล่านั้นมองจากดวงจันทร์มายังโลก</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">กำแพงเมืองจีนเป็นของชนชาติจีน เช่นเดียวกับปิรามิคเป็นของชนชาตียิปต์ นับว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศผู้เป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ มีคำกล่าวว่า &quot;ผู้ที่ไม่เคยปีกำแพงเมืองจีนไม่ใช่วีรบุรุษ&quot; นักท่องเที่ยวนานาชาติที่ไปเยือนอียิปต์แต่ไม่เคยชมปิรามิดอย่างน้อย ๑ แห่ง อาจถูกกล่าวได้ว่าไม่ใช่การเยือนอียิปต์ที่แท้จริง เช่นเดียวก็อาจกล่าวได้ว่า ผู้ที่ไปเยือนจีนแล้วไม่ได้ปีกำแพงเมืองจีน ก็ไม่ใช่ผู้เยือนจีนที่แท้จริง</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\"><span style=\"background-color: #ff00ff; color: #ffffff\">พระราชวังโบราณ</span> เป็นชื่อแปลงตรงตัวจากภาษาจีนที่ออกเสียงว่า กู้กง แต่อาจจะเรียกเป็นภาษาอังกฤษอย่างอื่นได้อีกเช่น Palace Museum (พิพิธภัณฑ์พระราชวัง) หรือ Forbidden City (พระราชวังต้องห้าม) ที่นี่เป็นที่รวมห้องและประสาทตางๆ มากมายที่ผู้ปกครองในอดีตของประเทศเป็นผู้ใช้อยู่อาศัยและว่าราชการ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">พระราชวังโบราณมีขอบเขตเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า กำแพงมีความสูง ๑๐ เมตร กว้างจากตะวันออกไปตะวันตก ๗๖๐ เมตร และยาวจากเหนือถึงใต้ ๙๖๐ เมตร รวมพื้นที่ในกำแพงมากกว่า ๗๒๐,๐๐๐ ตารางเมตร มีห้องต่างๆ รวม ๙๙๙.๕ ห้อง นับว่าเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">เป็นระยะเวลากว่า ๕๐๐ ปี ที่มีจักรพรรดิราชวงศ์ Ming และ Qing ประทับอยู่ในพระราชวังต้องห้ามนี้รวม ๒๔ พระองค์</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">ภายในพระราชวังโบราณประกอบไปด้วยพระตำหนักที่ประทับและพระที่นั่งว่าราชการมากมาย ในวันที่อากาศแจ่มใส การมองจากที่สูงจะเห็นอาคารที่ซับซ้อนเปล่งแสงเป็นสีเหลืองเจิดจ้า เป็นสีของกระเบื้องเคลือบเงาที่ใช้มุงหลังคาของอาคารเหล่านั้น แต่ละมุมของกำแพงเป็นหอคอยที่มีหลังคาซ้อนหลายฃั้นกำแพงพระราชวังมีน้ำโดยรอบเป็นคูเมือง</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">ประตูเข้าสู่พระราชวังเรียกว่าประตู Wumen อยู่ห่างไปทางเหนือเล็กน้อยจากประตู Tiananmen กลุ่มพระตำหนักและพระที่นั่งทางใต้ของพระราชวังเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิว่าราชการ ประชุมข้าราชการ และต้อนรับคณะทูตจากนานาประเทศ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">ส่วนภายในของพระราชวังประกอบด้วยอาคารพระตำหนักที่มีลานกว้างต่อเนื่องถึงกัน เป็นที่ประทับของพระจักรพรรดินี และเหล่าสนมของพระจักรพรรดิ ส่วนในสุดเป็นส่วนที่มีทางเดินวกวน กับพลับพลาเล็กๆ และเน้นหินรูปร่างประหลาด</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">ทุกวันนี้ แต่ละห้องในแต่ละตำหนักหรือพระที่นั่ง ถูกใช้ตั้งแสดงเครื่องอุปโภคต่างๆ ของพระจักรพรรดิและราชวงศ์ บางห้องตั้งแสดงสมบัติของหลายราชวงศ์ อาคารโบราณและสมบัติจำนวนมากที่ตั้งแสดงเหล่านี้ จึงกล่าวได้ว่าพระราชวังต้องห้ามเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #339966\">อาคารชุดที่โอ่อ่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงสีแดง อายุหลายร้อยปีแห่งนี้เคยเป็นที่วางแผนลับทางการเมือง และการรบราฆ่าฟันสู่บัลลังก์ ภาพยนต์ที่ชนะเลิศรางวัลออสการ์ เรื่อง The Last Emperor ถูกถ่ายทำที่นี่บนพื้นฐานของชีวิตจริงของผู้อาศัยในพระราชวังต้องห้ามนี้<br />\n</span>\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img height=\"344\" width=\"450\" src=\"/files/u31517/gwpic.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 318px; height: 243px\" />      <img height=\"245\" width=\"400\" src=\"/files/u31517/image005.jpg\" border=\"0\" style=\"width: 303px; height: 256px\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"background-color: #0000ff; color: #ffffff\"></span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<span style=\"background-color: #0000ff; color: #ffffff\"><span style=\"background-color: #ff00ff; color: #ffffff\">กำแพงเมืองจีนและพระราชวังโบราณ</span></span>\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/265/41265/images/gwpic.jpg\"><u><span style=\"color: #0000ff\">http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/265/41265/images/gwpic.jpg</span></u></a> \n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"http://www.arts.chula.ac.th/~china/images/image005.jpg\"><u><span style=\"color: #0000ff\">http://www.arts.chula.ac.th/~china/images/image005.jpg</span></u></a>\n</div>\n', created = 1727284524, expire = 1727370924, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:0d8810927f7682552e57ea9799f4d577' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

โบราณสถาน

รูปภาพของ sss27722

 

โบราณสถาน

 

           ประเทศจีนเป็นประเทศ ๑ ใน ๔ ประเทศที่มีอารยธรรมโบราณ ข้อมูลล่าสุดจากนักโบราณคดีแสดงให้เห็นถึงตัวหนังสือเชิงภาพดึกดำบรรพ์ที่ใช้ในภาษาจีนโบราณนั้นมีอายุย้อนไปถึง ๗,๐๐๐ ปี โดยมีแหล่งต้นอารยธรรมเกิดขึ้นตามลุ่มน้ำ Yangtze กับลุ่มแม่น้ำเหลือง นอกจากนั้นการค้นพบเมล็ดข้างกับเครื่องมือโบราณหลายชนิด ที่นักโบราณคดีระบุว่ามีอายุย้อนไปถึง ๗,๐๐๐ ปี เช่นเดียวกัน

อารยธรรม ๗,๐๐๐ ปีของจีน พอจะเทียบเคียงได้กับอารยธรรมของอียิปต์โบราณ บาบิโลน และอินเดีย ในบางพื้นที่ มีอารยธรรมก่อนยุคขุนนาง สถานที่ที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์และซากปรักหักพังทางวัฒนธรรม มีให้พบเห็นได้ทุกหนทุกแห่งในประเทศ ซึ่งตามบัญชีของทางการอย่างเดียว บันทึกไว้มากกว่า ๕,๐๐๐ แห่ง

ที่มีชื่อเสียงมากคือ กำแพงเมืองจีน (Great Wall) ซึ่งมีความยาว ๖,๓๕๐ กิโลเมตร วางตัวขวางภาคเหนือของจีนจาก Shanhaiguan ที่ทะเล Bohai ทางตะวันออกถึงช่อง Jiayu ในมณฑล Gansu ทางตะวันตก หากทุกๆ ส่วนของกำแพงที่สร้างในราชวงศ์ต่างๆ ทั้งหมดกว่า ๒,๐๐๐ ปี ระหว่าง ศตวรรษที่ ๗ B.C.(Before Christ ถึงศตวรรษที่ ๑๖ A.D. (Anno Domini= ตั้งแต่วันประสูติ ของพระเยซู) ถูกนำมาเชื่อมต่อกันแล้ว ความยาวของกำแพงเมืองจีนน่าจะยาวกว่า ๕๐,๐๐๐ กม. ยาวมากพอที่จะวางรอบโลกได้ที่เส้นศูนย์สูตร จึงไม่เป็นที่น่าประหลาดใจ หากมนุษย์อวกาศอเมริกันที่ได้เหยียบดวงจันทร์จะบอกว่า สามารถมองเห็นเส้นลายกำแพงเมืองจีนบนพื้นโลกอย่างเด่นชัดด้วยตาเปล่า เมื่อเขาเหล่านั้นมองจากดวงจันทร์มายังโลก

กำแพงเมืองจีนเป็นของชนชาติจีน เช่นเดียวกับปิรามิคเป็นของชนชาตียิปต์ นับว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศผู้เป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ มีคำกล่าวว่า "ผู้ที่ไม่เคยปีกำแพงเมืองจีนไม่ใช่วีรบุรุษ" นักท่องเที่ยวนานาชาติที่ไปเยือนอียิปต์แต่ไม่เคยชมปิรามิดอย่างน้อย ๑ แห่ง อาจถูกกล่าวได้ว่าไม่ใช่การเยือนอียิปต์ที่แท้จริง เช่นเดียวก็อาจกล่าวได้ว่า ผู้ที่ไปเยือนจีนแล้วไม่ได้ปีกำแพงเมืองจีน ก็ไม่ใช่ผู้เยือนจีนที่แท้จริง

พระราชวังโบราณ เป็นชื่อแปลงตรงตัวจากภาษาจีนที่ออกเสียงว่า กู้กง แต่อาจจะเรียกเป็นภาษาอังกฤษอย่างอื่นได้อีกเช่น Palace Museum (พิพิธภัณฑ์พระราชวัง) หรือ Forbidden City (พระราชวังต้องห้าม) ที่นี่เป็นที่รวมห้องและประสาทตางๆ มากมายที่ผู้ปกครองในอดีตของประเทศเป็นผู้ใช้อยู่อาศัยและว่าราชการ

พระราชวังโบราณมีขอบเขตเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า กำแพงมีความสูง ๑๐ เมตร กว้างจากตะวันออกไปตะวันตก ๗๖๐ เมตร และยาวจากเหนือถึงใต้ ๙๖๐ เมตร รวมพื้นที่ในกำแพงมากกว่า ๗๒๐,๐๐๐ ตารางเมตร มีห้องต่างๆ รวม ๙๙๙.๕ ห้อง นับว่าเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เป็นระยะเวลากว่า ๕๐๐ ปี ที่มีจักรพรรดิราชวงศ์ Ming และ Qing ประทับอยู่ในพระราชวังต้องห้ามนี้รวม ๒๔ พระองค์

ภายในพระราชวังโบราณประกอบไปด้วยพระตำหนักที่ประทับและพระที่นั่งว่าราชการมากมาย ในวันที่อากาศแจ่มใส การมองจากที่สูงจะเห็นอาคารที่ซับซ้อนเปล่งแสงเป็นสีเหลืองเจิดจ้า เป็นสีของกระเบื้องเคลือบเงาที่ใช้มุงหลังคาของอาคารเหล่านั้น แต่ละมุมของกำแพงเป็นหอคอยที่มีหลังคาซ้อนหลายฃั้นกำแพงพระราชวังมีน้ำโดยรอบเป็นคูเมือง

ประตูเข้าสู่พระราชวังเรียกว่าประตู Wumen อยู่ห่างไปทางเหนือเล็กน้อยจากประตู Tiananmen กลุ่มพระตำหนักและพระที่นั่งทางใต้ของพระราชวังเป็นสถานที่ที่จักรพรรดิว่าราชการ ประชุมข้าราชการ และต้อนรับคณะทูตจากนานาประเทศ

ส่วนภายในของพระราชวังประกอบด้วยอาคารพระตำหนักที่มีลานกว้างต่อเนื่องถึงกัน เป็นที่ประทับของพระจักรพรรดินี และเหล่าสนมของพระจักรพรรดิ ส่วนในสุดเป็นส่วนที่มีทางเดินวกวน กับพลับพลาเล็กๆ และเน้นหินรูปร่างประหลาด

ทุกวันนี้ แต่ละห้องในแต่ละตำหนักหรือพระที่นั่ง ถูกใช้ตั้งแสดงเครื่องอุปโภคต่างๆ ของพระจักรพรรดิและราชวงศ์ บางห้องตั้งแสดงสมบัติของหลายราชวงศ์ อาคารโบราณและสมบัติจำนวนมากที่ตั้งแสดงเหล่านี้ จึงกล่าวได้ว่าพระราชวังต้องห้ามเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ

อาคารชุดที่โอ่อ่าที่ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงสีแดง อายุหลายร้อยปีแห่งนี้เคยเป็นที่วางแผนลับทางการเมือง และการรบราฆ่าฟันสู่บัลลังก์ ภาพยนต์ที่ชนะเลิศรางวัลออสการ์ เรื่อง The Last Emperor ถูกถ่ายทำที่นี่บนพื้นฐานของชีวิตจริงของผู้อาศัยในพระราชวังต้องห้ามนี้

      
กำแพงเมืองจีนและพระราชวังโบราณ

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 311 คน กำลังออนไลน์