สำลักหรือมีสิ่งของไปอุดหลอดลม
การสำลักอาหารหรือวัสดุจะเกิดการอุดตันทางเดินหายใจ เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กและผู้สูงอายุ พบว่า ในจำนวนนี้การเสียชีวิต 3,000 กว่ารายนี้ ประมาณร้อยละ 2 เกิดจากการสำลักอุดตันทางเดินหายใจ หรือประมาณ 80 รายต่อปี มีรายงานสิ่งของที่มักสำลักและอุดตันทางเดินหายใจที่พบบ่อย ได้แก่ ถั่ว เมล็ดผลไม้เช่น เมล็ดน้อยหน่า มะขาม ละมุด ลูกอม ไส้กรอก ลูกชิ้น ชิ้นส่วนของเล่น และเม็ดพลาสติกกลมชนิดต่าง ๆ ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี (ร้อยละ 85) เคยมีรายงานการเสียชีวิตจากข้าวหลามที่จับตัวกันเหนียวเป็นก้อน แล้วสำลักเข้าสู่ทางเดินหายใจเช่นกัน
การศึกษาจากต่างประเทศ พบสิ่งต้นเหตุคล้ายคลึงกัน ร้อยละ 69 เป็นถั่วและเมล็ดผลไม้ ร้อยละ 5 เป็นชิ้นส่วนของเล่นและเม็ดพลาสติก และพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตที่สำคัญ คือ การอุดตันจากชิ้นส่วนของเล่นของเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี และไส้กรอกของเด็กอายุ 4 ปี
ย้อนหลังกลับไปเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2548 เด็กชายวัย 2 ขวบ ทานขนมเยลลี่ ที่อยู่ในถ้วยพลาสติกทรงกรวย แล้วติดคอเสียชีวิต ขนมเยลลี่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เสี่ยงต่อการติดขัดทางเดินหายใจของเด็กได้ จากรูปร่างสีสันที่ชวนรับประทาน มีขนาดที่พอเหมาะับการอุดตันทางเดินหายใจจากลักษณะเป็นกรวยเล็กข้างหนึ่ง ใหญ่ข้างหนึ่ง คล้ายการปิดจุกขวด ความลื่นและความเหนียวของเยลลี่ที่เด็กชอบดูดกลืนทั้งชิ้น เมื่อเกิดการอุดตันจึงยากต่อการปฐมพยาบาลช่วยเหลือให้ชิ้นส่วนอาหารนี้หลุดออกมาได้ อีกทั้งการรับประทานร่วมกับการเล่นและหัวเราะจึงก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย ฉลากจึงควรกำหนดกลุ่มอายุเด็ก เช่น ห้ามในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี และมีคำเตือนด้วย
วัสดุและผลิตภัณฑ์ชิ้นเล็ก ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 3.17 เซนติเมตร ความยาวน้อยกว่า 5.71 เซนติเมตร ไม่ควรวางใกล้เด็กอายุน้อยกว่า 3 ปี เพราะจะหยิบฉวยเข้าปากได้ง่าย และหลุดเข้าไปอุดกั้นทางเดินหายใจ อีกทั้ง การเล่นลูกบอลทรงกลมต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 4.4 เซนติเมตร ที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าการกลืนลงไปในคอได้
ป้องกันอย่างไร ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำซากเช่นนี้อีก
ในต่างประเทศมีการแนะนำให้พ่อแม่มีผลิตภัณฑ์ที่ใช้วัดขนาดสิ่งของที่จะใช้กับเด็ก ถ้าสิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ใดมีขนาดเล็กกว่า 3.17 เซนติเมตร X 5.71 เซนติเมตร จัดเป็นของอันตราย และต้องแยกให้ห่างจากเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ดังนั้น กระดุม เมล็ดพลาสติก ลูกแก้ว เมล็ดผลไม้ ต้องเก็บขึ้นหรือทิ้ง อย่าให้อยู่ใกล้มือเด็กเป็นอันขาด
การสอนเด็กให้กินช้าๆ ค่อยๆเคี้ยว ไม่วิ่งเล่น หัวเราะขณะรับประทานเป็นสิ่งที่ต้องทำ ถ้าจะให้เด็กเล็กกว่า 5 ปีทานเยลลี่ ไส้กรอก ลูกชิ้นให้ตัดเป็นชิ้นเล็กก่อน ผู้ผลิตต้องมีจิตสำนึกความปลอดภัย และคำนึงถึงว่าเด็กยังไม่มีความพร้อมเท่าผู้ใหญ่ ควรคำเตือนในกรณีที่เป็นอันตรายในเฉพาะเด็กเล็กบางสถานการณ์ หรือดัดแปลงรูปร่างผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับเด็กเล็ก จะทำให้เกิดภาวะผลิตภัณฑ์ปลอดภัยในท้องตลาดที่พ่อแม่ไม่ต้องกังวลในการควบคุมดูแลด้วยตนเอง
การช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เด็กที่มีการอุดตันทางเดินหายใจมีเวลาที่จะช่วยมิให้สมองตายเพียง 4 นาที ถ้าเป็นการอุดตันแบบไม่มีทางที่อากาศจะเข้าไปได้ ดังนั้น จะไม่มีหน่วยฉุกเฉินใดช่วยได้ทันเวลา ผู้ดูแลเด็กจึงต้องมีความสามารถในการปฏิบัติการขจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากหลอดลม ท่าที่ใช้ในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี คือ ท่าเคาะหลัง 5 ครั้ง สลับกับการกดหน้าอก 5 ครั้ง ท่าที่ใช้สำหรับเด็กอายุมากกว่า 1 ปี คือ ท่ากดท้องโดยผู้ช่วยเหลือยืนทางด้านหลัง
ทักษะความสามารถการปฐมพยาบาลและปฏิบัติการกู้ชีพเบื้องต้นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่จะต้องสร้างระบบกระจายความรู้สู่ครัวเรือนให้ได้
ผลิตภัณฑ์อันตรายยังมีอีกมากมายในท้องตลาด โปรดอย่าโทษเด็กและยกความผิดทั้งหมดให้กับพ่อแม่ หน่วยงานความปลอดภัย มาตรฐานผลิตภัณฑ์ การคุ้มครองผู้บริโภค การศึกษา การสาธารณสุข และผู้ผลิต ฯลฯ มีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วย เพราะการสร้างเสริมสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยและลดการบาดเจ็บในเด็ก ต้องการความร่วมมือร่วมใจจากสังคมอย่างจริงจัง
การปฐมพยาบาล
สำลักหรือมีสิ่งของไปอุดหลอดลม
1.ทารก --ตบอย่างรวดเร็วกลางหลัง 4 ครั้ง ในท่าที่ศรีษะอยู่ต่ำกว่าปอด
2.เด็กเล็ก ---ตบกลางหลังหนัก ๆ 4 ครั้ง ในท่าที่ศรีษะอยู่ต่ำกว่าปอด
3.เด็กโตและผู้ใหญ่ --ตบหนัก ๆ และเร็ว ๆ กลางหลัง 4 ครั้งในท่าที่ศรีษะอยู่ต่ำกว่าปอด
ที่มาhttp://rescuepakkred.is.in.th/?md=content&ma=show&id=6