แคนนอน...เกาะกระแสออนไลน์
![รูปภาพของ skk5859 รูปภาพของ skk5859](http://old.thaigoodview.com/files/profilepic/picture-26420.jpg)
แคนนอน เดินหน้ารุกตลาดอุปกรณ์ไอทีสำนักงาน ชูกลยุทธ์"CANON, It Works! Say it forward" มุ่งช่วยองค์กรประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มศักยภาพการแข่งขันพร้อมเกาะกระแสสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลเน็ตเวิร์กกิ้ง
นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่าการทำตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์ไอทีในสำนักงานปีนี้บริษัทเดินหน้าสานต่อแคมเปญ CANON, It Works! ซึ่งได้ดำเนินต่อเนื่อง สำหรับปีนี้การโปรโมตแคมเปญ It Works! จะโปรโมตภายใต้คอนเซ็ปต์ "CANON, It Works! Say it forward" ด้วยงบการตลาดรวม 30 ล้านบาท ภายหลังจากก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จจากการดำเนินกลยุทธ์ "CANON, It Works! ในปี 2551 และ 2552 โดยมียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 220% สำหรับในกลุ่มองค์กรธุรกิจ
โดยแคมเปญ"CANON, It Works! ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Say it forward" มุ่งเน้นในการขยายเครือข่ายผู้ใช้สินค้าแคนนอนให้มีจำนวนมากขึ้น และแพร่หลายไปสู่กลุ่มธุรกิจประเภทต่างๆอย่างทั่วถึงผ่านการบอกต่อกันจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ ทั้งในองค์กรขนาดใหญ่และเจ้าของกิจการระดับองค์กรขนาดกลางและเล็ก หรือเอสเอ็มอี ซึ่งต่างยอมรับในประสิทธิภาพการใช้งานของผลิตภัณฑ์แคนนอนว่าเหมาะสมกับการลงทุนระยะยาวทั้งในแง่ของการประหยัดค่าใช้จ่าย การเพิ่มความสามารถการผลิต และส่งเสริมศักยภาพการแข่งขัน
ขณะเดียวกันในปีนี้ผู้ประกอบการทั้งองค์กรขนาดใหญ่ เจ้าของธุรกิจเอสเอ็มอี รวมถึงสถาบันการศึกษาต่างๆ ก็ยังสามารถเลือกลงทุนกับผลิตภัณฑ์แคนนอนตามความเหมาะสมของขนาดของธุรกิจและเงินทุน ภายใต้แคมเปญ "Canon Business Make Over" ซึ่งได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อให้บริการคำแนะนำและจัดแพ็กเกจพิเศษสำหรับทุกกลุ่มธุรกิจ ให้เหมาะกับการใช้งานจริงในธุรกิจขนาดต่างๆ
นอกจากนี้บริษัทยังมุ่งการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคยิ่งขึ้น โดยใช้ช่องทาง โซเชียล มีเดียให้เป็นประโยชน์ผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นสื่อทางเลือกยุคใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากไม่แพ้สื่อโฆษณาหลัก ซึ่งจุดแข็งของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่สำคัญ คือมีต้นทุนในการโฆษณาต่อคนต่ำกว่าหลายเท่า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการสื่อสารได้แม่นยำกว่า
นายวรินทร์ กล่าวต่อไปว่าข้อมูลตลาดไตรมาสที่ 3 ของปี 2552 บริษัทยังเป็นครองความเป็นผู้นำตลาดของพรินเตอร์แบบอิงก์เจ็ตเอาไว้ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมทั้งซิงเกิลฟังก์ชัน และมัลติฟังก์ชันพรินเตอร์ ประมาณ 43% จากเดิมปี 2551 มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 37% และคาดว่าจะยังเติบโตต่อเนื่องทุกปี
สำหรับกลุ่มเลเซอร์พรินเตอร์แคนนอนได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16% จากเดิมมีส่วนแบ่งปี 2551 เพียง 9% ทั้งนี้ได้วางเป้าหมายการเติบโตปีนี้ไว้ 20% โดยในไตรมาสแรกนี้แคนนอนวางแผนจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในกลุ่ม It Works ถึง 10 รุ่นด้วยกัน ดังนั้นการเติบโตของยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆดังกล่าวจึงมีนัยสำคัญที่จะผลักดันให้แคนนอนก้าวไปสู่ผู้นำในตลาดอุปกรณ์ไอทีในสำนักงานสำหรับธุรกิจทุกขนาดภายในปี 2554
ที่มา http://www.thannews.th.com