• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:a5af93ff696f6fda8aa17f28dafef833' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<strong>จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ</strong><br />\nเรามักเข้าใจกันว่า อากาศในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศนั้นสะอาด และปลอดภัย แต่คุณทราบไหมว่า นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า สิ่งแวดล้อมในห้องปรับอากาศ หรือห้องต่างๆที่ปิดทึบนั้น อาจมีมลภาวะมากกว่าสิ่งแวดล้อมภายนอกหลายเท่า โดยเฉพาะในห้องหรืออาคารที่การบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศไม่ดีพอ จะทำให้เกิดการแพร่กระจายของแบคทีเรียและทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ การบำรุงรักษาเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้คุณภาพอากาศในอาคารดีขึ้น การทำความสะอาดแผ่นกรองของเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้อากาศที่ไหลจากภายนอกสู่ภายในสะอาดขึ้น ในอาคารที่ติดเครื่องปรับอากาศจะทำให้อากาศในห้องแห้งกว่าปกติ ทำให้ผิวหนังแห้ง จมูกและทางเดินหายใจแห้ง ทำให้ไวต่อการแพ้ไอระเหยของสารเคมีในอากาศ ไวรัส และสิ่งกระตุ้นต่างๆ อาการหวัด แพ้ และหอบหืด เนื่องจากอากาศหนาว ส่วนใหญ่เกิดจากความชื้นในอากาศต่ำ แต่ถ้าระดับความชื้นมากเกินไป ก็จะทำให้คุณภาพอากาศใน อาคารเกิดปัญหาทำให้เกิดเชื้อรา และมีผลต่อสุขภาพได้ การปลูกต้นไม้ในอาคาร จะมีส่วนช่วยให้ความชื้นในห้องดีขึ้น เพราะต้นไม้จะคายน้ำออกทางใบ เมื่อความชื้นในห้องต่ำ ต้นไม้จะคายความชื้นออกมาและเมื่อความชื้นในห้องสูง ต้นไม้ก็จะลดการคายน้ำลงหรือช่วยดูดซับไอน้ำในห้องได้ด้วย\n</p>\n<p>\n \n</p>\n<p><div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"323\" src=\"/files/u20341/1213132.jpg\" height=\"431\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"http://www.tarad.com/ncgreenhouse/img-lib/spd_20071022122416_b.JPG\">http://www.tarad.com/ncgreenhouse/img-lib/spd_20071022122416_b.JPG</a>\n</div>\n</p>\n<p>\nจั๋ง (Lady Palm) <br />\nจั๋งเป็นไม้ประดับในอาคาร อีกชนิดหนึ่งที่สวยงาม ทนทาน และดีที่สุดในการช่วยปรับปรุงคุณภาพของอากาศในอาคาร และมีคุณสมบัติในการดูดไอระเหยของสารเคมีต่างๆ ได้ดีเท่าต้นหมากเหลืองที่เคยเสนอไปแล้ว\n</p>\n<p>\nจั๋งมีคุณสมบัติเฉพาะเหมือนหมากเหลือง คือ ดูดหรือสะสมเกลือ และแร่ธาตุต่างๆ ไปไว้ที่ปลายใบ ทำให้ปลายใบอาจแห้งหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ถ้าจะให้สวยงามต้องหมั่นใช้กรรไกรขลิบปลายใบออก ต้นจั๋งนี้ชอบความชื้นเหมือนต้นไม้ตระกูลหมากทั่วไป และจากลักษณะที่โตช้าทำให้เป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย\n</p>\n<p>\nชื่อสามัญ Lady palm\n</p>\n<p>\nชื่อวิทยาศาสตร ์ Rhapis exclesa\n</p>\n<p>\nตระกูล PLAMAE\n</p>\n<p>\nถิ่นกำเนิด ไทย จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย\n</p>\n<p>\nลักษณะทั่วไป <br />\nจั๋งเป็นปาล์มที่มีขนาดเล็ก ลำต้นมีขนาดเท่าหัวแม่มือหรือใหญ่กว่าเล็กน้อย โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ไม่เกิน2 นิ้ว ลำต้นเป็นกอคล้ายไผ่ มีความแข็งแรงมาก กอหนึ่งจะสูงประมาณ 3-5 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม เป็นมันรูปใบพัด และมีใบย่อยแตกออกจากกันเป็นแฉกลึก ใบ 1 ใบจะมีใบย่อยประมาณ 5-10 ใบ ก้านใบเล็ก มีสีเขียวและแข็งยาวประมาณ 12 นิ้ว\n</p>\n<p>\nการดูแลรักษา <br />\nแสง ชอบแสงแดดมาก <br />\nน้ำ ต้องการน้ำพอประมาณ <br />\nดิน เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย <br />\nปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปีละ 2 ครั้ง\n</p>\n<p>\nการขยายพันธ ุ์ โดยการเพาะเมล็ดและแยกหนอ (การเพาะเมล็ดจะได้รูปทรงที่สวยงามกว่า) <br />\nโรคและแมลง ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี\n</p>\n<p>\n </p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak-->\n<p>\n \n</p>\n<p>\n<strong>ทำไมแป้นพิมพ์ ไม่เรียง A B C</strong>\n</p>\n<p><strong></strong></p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"500\" src=\"/files/u20341/1447_0.jpg\" height=\"306\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://krujid.com/m4/lesson2/input/keyboard.jpg\">http://krujid.com/m4/lesson2/input/keyboard.jpg</a> \n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\nรู้หรือป่าว !! ทำไม ตัวอักษรในแป้นพิมพ์ทั้งของเครื่องพิมพ์ดีดและคอมพิวเตอร์ ถึงไม่เรียงกันตามลำดับอักษรเช่น A B C\n</p>\n<p>\nสำหรับการเรียงอักษรบนแป้นพิมพ์ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเรียง ที่เรียกว่า QWERTY (คิวเวอร์ตี้) ที่เรียกกันอย่างนี้เพราะเป็นการนำอักษร 6 ตัวแรก(เมื่อนับจากซ้ายมาขวา) ของแป้นพิมพ์ที่เป็นตัวอักษรแถวบนมาต่อกัน และถ้าหากจะถามว่าทำไมถึงต้องเรียงแบบนี้ เราคงต้องย้อนกลับไปในอดีตกันซะหน่อย\n</p>\n<p>\nการเรียงลำดับ อักษรของแป้นพิมพ์ในปัจจุบันนั้น มีที่มาจากข้อจำกัดที่เกิดกับเครื่องพิมพ์ดีดในยุคแรกๆ ที่ยังจัดแป้นพิมพ์แบบเรียงตามลำดับตัวอักษรคือ เมื่อคนที่พิมพ์ดีดได้คล่องและเร็วมาพิมพ์จะทำให้ก้านพิมพ์ดีดขัดกันอยู่ เสมอ ต่อมา คริสโตเฟอร์ ลาแธม โชลส์ วิศวกรเครื่องกลชาวสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องพิมพ์ดีดสมัยใหม่รายแรกและได้รับสิทธิบัตรในปี 1868 จึงทำการเรียงลำดับตัวอักษรเสียใหม่ด้วยการแยกตัวอักษรที่มักใช้มาผสมเป็นคำ ร่วมกันบ่อยๆ ออกไปอยู่กันคนละฝั่งของแป้นพิมพ์ เพื่อทำให้นักพิมพ์ดีดพิมพ์ได้ช้าลงกว่าเดิม จะได้ไม่เกิดปัญหาก้านพิมพ์ขัดกันอีก\n</p>\n<p>\nอย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกผู้คนยังคงไม่นิยมเครื่องพิมพ์ดีดของเขามากนัก ทำให้โชลส์ตัดสินใจขายสิทธิบัตรดังกล่าวให้กับทางบริษัท เรมิงตันอาร์มคอมพานี ในปี 1973 ซึ่งปรากฏว่าหลังจากที่ทางเรมิงตันผลิตเครื่องพิมพ์ดีดออกมาจำหน่าย ความนิยมในตัวเครื่องพิมพ์ดีดกลับเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก\n</p>\n<p>\nใน เวลาต่อมา ปรากฏว่ามีผู้พยายามจัดเรียงตัวอักษรบนแป้นพิมพ์เป็นแบบต่างๆ ซึ่งแบบที่ได้รับความนิยมมากหน่อยก็อย่างเช่น แบบ DVORAK ซึ่งเคยมีการบอกกล่าวกันว่าการเรียงในรูปแบบนี้จะทำให้พิมพ์เร็วขึ้น จนทางห้างร้านบริษัทหลายแห่งเริ่มนิยมกันอยู่พักหนึ่ง แต่ว่าในปี 1956 ทาง General Services Administration ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่มีหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแก่หน่วยงานอื่นๆของรัฐ ได้ทำการศึกษาการจัดแป้นพิมพ์ทั้ง 2 แบบ และก็พบว่า การจัดแบบ QWERTY นั้น ทำให้พิมพ์ได้เร็วเท่ากับหรือมากกว่าแบบ DVORAK ทำให้ความนิยมของการจัดแป้นพิมพ์แบบ DVORAK ลดลงไป\n</p>\n<p>\nทั้ง นี้ หลายคนอาจจะคิดว่า ปัจจุบันเราก็ไม่ได้นิยมใช้พิมพ์ดีดแบบเมื่อก่อนแล้ว ดังนั้นปัญหาเรื่องก้านพิมพ์ขัดกันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาต่อไป แล้วทำไมเราจึงไม่เปลี่ยนกลับไปใช้แป้นพิมพ์แบบเรียงตามตัวอักษรเหมือนก่อน ซึ่งคำตอบสำหรับคำถามนี้หลายคนคงพอเดากันได้ว่าเป็นเพราะ เราคุ้นเคยและเคยชินกับแบบ QWERTY จนไม่อยากจะกลับไปเสียเวลาเริ่มนับหนึ่งกับแบบเดิมเสียแล้ว\n</p>\n<p>\nปล. แป้นพิมพ์ภาษาไทย ก็ให้เหตุผลเดียวกัน\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p><!--pagebreak--><!--pagebreak--></p>\n<p>\n<br />\n<strong>พืชที่ใช้แต่งสีอาหาร หรือให้สีย้อม</strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" width=\"300\" src=\"/files/u20341/111416.jpg\" height=\"300\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://www.ayushveda.com/magazine/wp-content/uploads/2008/10/falvour.jpg\">http://www.ayushveda.com/magazine/wp-content/uploads/2008/10/falvour.jpg</a>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\nชนพื้นบ้านรู้จักนำส่วนต่างๆ ของพืชหลายชนิดที่ให้สีมาใช้แต่งสีอาหาร อันเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ไม่เป็นพิษภัยต่อร่างกาย หรือนำพืชที่ให้สีย้อมมาย้อมผ้า แห อวน หรือหนัง โดยเฉพาะผ้าพื้นเมืองจำพวกผ้าไหม ผ้าฝ้าย ซึ่งให้สีสันเป็นธรรมชาติดีกว่าสีวิทยาศาสตร์หรือสีสังเคราะห์กลุ่มพืชที่ให้สีดังกล่าว เช่น\n</p>\n<p>\n<br />\nเหง้าขมิ้นชัน (Curcuma longa) ใช้แต่งสีเหลืองในอาหาร <br />\nเมล็ดคำแสด (Bixa orellana) ใช้แต่งสีแสดในอาหาร <br />\nแก่นไม้ฝาง (Caesalpinia sappan) ใช้แต่งสีแดงในอาหาร และใช้ย้อมผ้า ส่วนรากให้สีเหลืองใช้ย้อมผ้า <br />\nเมล็ดคำฝอย (Carthamus tinctorius) ใช้แต่งสีแดงในอาหาร <br />\nเนื้อผลฟักทอง (Cucurbita moschata) ใช้แต่งสีเหลืองในอาหาร <br />\nเนื้อจากผลตาลโตนด (Borassus flabellifer) ใช้แต่งสีเหลืองทำขนมตาล <br />\nผลสุกผักปลัง หรือ ผักปั๋ง (Basella alba) ใช้แต่งสีแดงเข้มในอาหาร <br />\nเมล็ดข้าวเหนียวดำ (Oryza sativa var. glutinosa) ใช้แต่งสีแดงเข้มในอาหาร <br />\nกลีบดอกอัญชัน (Clitoria ternata) ใช้แต่งสีน้ำเงิน สีฟ้า สีฟ้าอมม่วงในอาหาร <br />\nดอกดอกดิน (Aeginetia indica)I ใช้แต่งสีน้ำเงินเข้ม ทำขนมดอกดิน <br />\nเนื้อไม้สีเสียดเหนือ (Acacia catechu) ให้สีน้ำตาล ใช้ย้อมผ้า แห อวน หนัง <br />\nใบอ่อนสัก (Tectona grandis) ให้สีแดงใช้ย้อมผ้า ย้อมกระดาษ <br />\nเปลือกและผลสมอพิเภก (Terminaliabellirica) ให้สีขี้ม้า ใช้ย้อมผ้า <br />\nเนื้อไม้แกแล (Maclura cochinchinensis) ให้สีเหลืองปนน้ำตาล ใช้ย้อมผ้า <br />\nเปลือกโกงกาง (Rhizophora spp.) ให้สีน้ำตาลใช้ย้อมแห อวน หนัง <br />\nยางรง (Garcinia hanburyi) ให้สีเหลืองใช้ย้อมผ้าและผสมสี <br />\nเปลือกสะเดา (Azadirachta indica var.amensis) ให้สีแดง ใช้ย้อมผ้า <br />\nรากมะหาด (Artocarpus lakoocha) ให้สีเหลือง ใช้ย้อมผ้า <br />\nเปลือก ราก เนื้อไม้ และใบยอป่า (Morindapubescens) ให้สีแดง ใช้ย้อมผ้า <br />\nเนื้อไม้ประดู่ป่า (Pterocarpus macrocarpus) ให้สีแดงคล้ำ และเปลือกให้สีน้ำตาล ใช้ย้อมผ้า <br />\nเปลือกติ้วขน (Cratoxylum formosum ssp.pruniflorum) ให้สีน้ำตาลเข้ม ใช้ย้อมผ้า <br />\nผลมะเกลือ (Diospyrus mollis) ให้สีดำใช้ย้อมผ้า <br />\nเปลือกสนทะเล (Casuarina equisetifolia) ให้สีน้ำตาลแกมแดง ใช้ย้อมผ้า <br />\nเปลือกคาง (Albizia odoratissima) ให้สีน้ำตาลใช้ย้อมผ้า หนัง <br />\nดอกทองกวาว (Butea monosperma) ให้สีเหลืองอมส้ม ใช้ย้อมผ้า <br />\nต้นคราม (Indigofera tinctoria) สมัยก่อนนิยมใช้ทำสีครามย้อมผ้า <br />\nต้นฮ่อม (Baphicacanthus cusia) ให้สีน้ำเงินเข้ม นิยมใช้ย้อมเสื้อม่อฮ่อมทางภาคเหนือ <br />\nผลมะเกิ้ม หรือมะกอกเลื่อม (Canariumsubulatum) ให้สีดำ ใช้ทำหมึกเขียนพื้นบ้าน\n</p>\n<p>\n \n</p>\n<p><!--pagebreak--><!--pagebreak--></p>\n<p>\n<strong>ขนมถังแตก</strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong><br />\n&quot;ขนมถังแตก&quot; เป็นขนมแผ่นแป้งห่อไส้ คล้าย ๆ เครปที่หนู ๆ ชอบรับประทานกันนั่นแหละค่ะแต่มีไส้เป็นมะพร้าวขูดฝอย โรยด้วยน้ำตาลทราย เกลือ และเมล็ดงา ถือเป็นขนมโบราณที่หาซื้อกินได้ยากขึ้นทุกวัน ต้องไปเดินตามงานวัดที่ยังจัดอยู่บ้างนั่นแหละค่ะถึงจะเจอ คุณครูก็ชอบทานนะคะ แผ่นเดียว ชิ้นเดียวอิ่มไปนาน\n</p>\n<p>\n \n</p>\n<p>\n           ว่ากันว่าที่เรียกว่า ขนมถังแตก ก็เพราะเป็นขนมขวัญใจคนยากค่ะ เพราะชิ้นเดียวอิ่มจุท้องได้นานถึงมื้อหน้าเลยทีเดียว เหมาะสำหรับคนเบี้ยน้อยหอยน้อย รวมไปถึงคนที่กำลัง “ถังแตก” นั่นเอง เลยเป็นที่มาของชื่อขนมชนิดนี้ อิ่มง่าย อร่อยง่ายแถมอิ่มนานอีกต่างหาก&quot;\n</p>\n<p>\n \n</p>\n<p>\nที่มา คุณครูลิลลี่\n</p>\n<p>\n<a href=\"http://minihome.truelife.com/home/blog/read/646755/83535\">http://minihome.truelife.com/home/blog/read/646755/83535</a>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p align=\"center\">\n<br />\n<strong><img border=\"0\" width=\"450\" src=\"/files/u20341/pancake.jpg\" height=\"242\" /></strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<a href=\"http://www.annefriday.com/index.php/?ACT=25&amp;fid=8&amp;aid=4585_mngeGJkoD5lq261VMtv7&amp;board_id=1\">http://www.annefriday.com/index.php/?ACT=25&amp;fid=8&amp;aid=4585_mngeGJkoD5lq261VMtv7&amp;board_id=1</a>\n</p>\n<p align=\"center\">\n \n</p>\n<p align=\"center\">\n&nbsp;\n</p>\n<p><!--pagebreak--><!--pagebreak--></p><p><strong>การปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ</strong> คือ การปลูกพืชแบบผสมผสาน โดยมีผักหวานป่าเป็นพืชหลัก มีการปลูกพืชหลายระดับเพื่อจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และไม่ก่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ทางลบกับการเจริญเติบโตของผักหวานป่า โดยเริ่มจากปลูกไม้ผลหรือไม้ยืนต้น เช่น แคบ้าน กล้วย มะม่วง และสะเดา เป็นต้น เพื่อใช้เป็นไม้พี่เลี้ยงให้ร่มเงาที่ถาวร เนื่องจากตามธรรมชาติผักหวานป่าเจริญเติบโตได้ดีภายใต้ร่มเงาของไม้อื่น ตามด้วยการปลูกไม้ระดับกลางคือผักหวานป่าซึ่งเป็นพืชหลัก และการปลูกพืชระดับล่างเป็นพืชอายุสั้นที่ให้ผลผลิตได้เร็ว เช่น พืชผัก เป็นต้น\n</p>\n<p>\nการเลือกพืชมาปลูกร่วมกับผักหวานป่า ต้องให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของผักหวานป่าด้วย โดยเฉพาะพืชที่นำมาปลูกเพื่อให้ร่มเงา ควรเป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ เจริญเติบโตได้ดี และมีผลผลิตที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ ถ้าเป็นพืชตระกูลถั่วจะเป็นการดีมาก มีการกำหนดระยะปลูกให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นผักหวานป่าได้รับแสงแดดมากหรือน้อยเกินไป ส่วนพืชอายุสั้นอาจเป็นพืชผักกินใบหรือผลก็ได้ เช่น มะเขือ พริก กะเพรา ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ปลูก หรือความต้องการของตลาด\n</p>\n<p>\nตัวอย่างระบบการปลูกผักหวานป่า ในพื้นที่ 1 ไร่ เช่น ถ้าต้องการปลูกผักหวานป่าร่วมกับกล้วยน้ำว้า และมะเขือเปราะ เริ่มจากปลูกกล้วยเพื่อเป็นพืชให้ร่มเงา ระยะปลูก 3x3 เมตร ปลูกได้ 196 ต้น จากนั้นนำต้นกล้ามะเขือเปราะปลูกระหว่างแถวของต้นกล้วย โดยปลูกเป็นแถวคู่ ระยะปลูก 1x1 เมตร ปลูกได้ 1,040 ต้น เมื่อต้นมะเขือเปราะโตจนมีร่มเงา จึงปลูกผักหวานป่าระหว่างกึ่งกลางแถวคู่ของต้นมะเขือ ใช้ระยะปลูกระหว่างต้น 1 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 520 ต้น โดยในช่วงแรกผักหวานป่าจะอาศัยร่มเงาของต้นมะเขือ จนกว่าต้นกล้วยจะสามารถให้ร่มเงาได้\n</p>\n<p>\nต้นทุนระบบการปลูกผักหวานป่ามีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของต้นพันธุ์ที่นำมาใช้ คือ ต้นพันธุ์จากการตอนกิ่งมีราคาสูงกว่าจากการเพาะเมล็ด ราคาต้นพันธุ์จากกิ่งตอนประมาณ 100 บาท/ต้น ส่วนเพาะเมล็ดราคาประมาณ 15-20 บาท/ต้น นอกจากนั้นจะเป็นต้นทุนของระบบน้ำ แรงงาน และปุ๋ย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกจากมูลสัตว์เป็นหลัก\n</p>\n<p>\nการปลูกผักหวานป่า 1 ระบบนี้ ทำให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ คือ ปีแรกผลตอบแทนจากการปลูกมะเขือเปราะ ปีที่สองจากการปลูกกล้วยน้ำว้า และเมื่อเข้าสู่ปีที่สามจะได้รับผลตอบแทนจากกล้วยน้ำว้าและผักหวานป่า\n</p>\n<p>\nการปลูกผักหวานป่าเชิงระบบ จึงเป็นระบบการปลูกพืชที่ทำให้เกษตรกรมีรายได้ตลอดทั้งปี และทุก ๆ ปี ในระหว่างรอผลผลิตจากต้นผักหวานป่า นอกจากนั้นยังเป็นการใช้ประโยชน์ของพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด\n</p>\n<p>\nสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่สถานีวิจัย ลำตะคอง สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เลขที่ 333 หมู่ 12 ถนนมิตรภาพ ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 30130 โทร. 0-4439-0107, 0-4439-0150, 08-1999-4770 โทรสาร 0-4439-0150 E-mail:lamtakhong@tistr.or.th, <a href=\"mailto:momtree_k@tistr.or.th\">momtree_k@tistr.or.th</a>\n</p>\n<p>\n \n</p>\n<p><!--pagebreak--><!--pagebreak--></p>\n<p>\n<strong>ลูกชิดกับลูกจาก มาจากไหน</strong><br />\nลูกชิดกับลูกจากมาจากต้นไม้คนละต้น แต่เป็นพืชตระกูลปาล์มเหมือนกัน\n</p>\n<p>\nลูกชิดมาจากต้นตาว หรือต๋าว เป็นปาล์มชนิด Arenga pinnata (Wurmb.) Merr. ในวงศ์ Palmae ปักษ์ใต้เรียกว่า ต้นชก หรือฉก ต้นตาวชอบขึ้นตามเชิงเขาบวิเวณดินร่วน อากาศชุ่มชื้นลักษณะลำต้นตรงดิ่ง ขนาดโตกว่าต้นตาล ใบมีลักษณะเช่นเดียวกับมะพร้าว แต่โตและแข็งแรงกว่า ใบใช้มุงหลังคา กั้นฝาบ้านก้านใบนำมาเหลารวบทำไม้กวาด เส้นใยที่ลำต้นใช้ทำแปรงยอดอ่อนที่ขั้วหัวใช้กินแบบผักสด หรือดองเปรี้ยวเก็บไว้แกงส้มแกงกะทิ ผลตาวออกเป็นทะลาย เนื้อในเมล็ดเรียกว่า ลูกชิดกินได้สด ๆ หรืออาจนำไปเชื่อมน้ำตาลเพื่อให้ได้รสอร่อยขึ้น\n</p>\n<p>\nส่วนต้นจากเป็นปาล์มชนิด Nypa fruticans Wurmb. ในวงศ์ Nypaceae ผลเป็นทะลาย เนื้อในเมล็ดเรียกว่า ลูกจาก กินได้ทั้งแบบสด ๆ หรือเชื่อมเช่นกัน แต่เนื้อลูกจากมีสีขาวขุ่นกว่าบางคนว่าลูกจากรสดีกว่าลูกชิด แต่ \'ซองคำถาม\' ชอบลูกชิดเพราะเนื้อนิ่มกว่า\n</p>\n<p>\n“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n<strong>อีโมติคอน อักษรแสดงอารมณ์</strong><br />\nเชื่อว่าคนที่ชอบเล่นอินเทอร์เน็ตทั้งหลาย คงไม่มีใครไม่เคยไม่ใช้หรือไม่รู้จักอีโมติคอนอย่าง (T_T) ซึ่งเป็นการประยุกต์เอาตัวอักษรมาเป็นหน้าตา ที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของคนเขียน ซึ่งตัวอย่างเก่าแก่ที่สุดที่ใช้ตัวอักษรแทนหน้าคน ปรากฏบนโฆษณาในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กเฮรัลด์ทรีบูน (New York Herald Tribune) ฉบับวันที่ 10 มี.ค. 2496 หน้า 20 คอลัมน์ 4 ถึง 6 ประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เรื่องลิลี (Lili) นำแสดงโดย เลสลี แครอน (Leslie Caron)\n</p>\n<p>\nการแสดงอีโมติคอนดังกล่าวเป็นการแสดงแบบแนวทแยง ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ตัวอักษรในลักษณะนี้ ซึ่งต่อมาเราเรียกแบบนี้ว่าเป็น อีโมติคอนแบบตะวันตก ต่อมาราวๆ เดือน ก.ย. 2525 สกอต อี. ฟาลแมน ศาสตราจารย์ด้านการวิจัยวิทยาการทางคอมพิวเตอร์ แห่งมหาวิทยาลัย คาร์เนกี เมลลอน ได้นำเครื่องหมายโคลอน ยัติภังค์ และวงเล็บมาประกอบเข้าด้วยกัน\n</p>\n<p>\n<br />\nเพื่อให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์มีเครื่องมือในการบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกในข้อความอีเมลของพวกเขา จึงเป็นครั้งแรกที่ผู้คนสามารถสื่อสารอารมณ์ขันหรือความรู้สึกดีๆ ด้วยการยิ้ม หรือแสดงความรู้สึกแย่ๆ ด้วยการทำหน้าบึ้ง และนี้ก็คือจุดเริ่มต้นเล็กๆ ของเหล่าอีโมติคอน ซึ่งบางครั้งตัวอักษรก็ไม่สามารถอธิบายความหมายแท้จริงในจิตใจของผู้เขียนได้ เช่น :-/ :- ;-) :-D<br />\nต่อมามีผู้คิดค้นอีโมติคอนแบบใหม่ๆ ออกมาที่ดูง่ายและชัดเจนมากกว่าเดิม และชนชาติช่างคิดค้นก็ไม่พ้นชาวญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งอีโมติคอนของชาวญี่ปุ่นนั้นจะใช้วงเล็บเป็นโครงหน้า และอักษรที่อยู่ด้านบน 2 ตัว เป็นตา และคั่นกลางด้วยอักษรที่อยู่ด้านล่างของบรรทัดเป็นปาก ได้รับความนิยมในหมู่คนใช้อีเมลและนักแชตทั้งหลายมาก ด้วยความน่ารักและดูง่ายกว่าแบบตะวันตก เช่น<br />\n(^_^) หมายถึงยิ้ม (~_~) เต็มใจ (`_^) ขยิบตา (&gt;_&lt;) โกรธ (^o^) หัวเราะ (^o^)/ หัวเราะแบบยกไม้ยกมือ (-_-) หลับแล้ว (-_-;) or (^_^\') แฮะๆๆ (_) เหล่ตา (@_@) ใส่แว่น (๔_๔) เซอร์ไพรส์ (O_O) ช็อก และอีกหลายๆ แบบ ที่บางคนก็คิดค้นกันขึ้นมาเองก็มี<br />\nจนกระทั่งโปรแกรมแชตอย่าง MSN Yahoo และ ICQ ได้เริ่มสร้างภาพอีโมติคอนสำเร็จรูปลงในโปรแกรมแชตและอีเมล ลูกเล่นเหล่านี้จึงเริ่มหายไปตามเวลา แต่เราจะรู้สึกดีเสมอเวลาที่เราได้เห็นอักษรเหล่านี้ส่งทางอีเมลหรือตอนเล่นแชตก็ตาม เวลาส่งอีเมลหาเพื่อนลองเปลี่ยนจากการใช้อีโมติคอนสำเร็จรูป มาเป็นแบบตัวอักษรธรรมดาดูบ้าง ก็จะทำให้เนื้อหาของอีเมลนั้นดูมีอารมณ์ขึ้นอีกเป็นกองเลยครับ\n</p>\n<p>\n<br />\nไม่เชื่อลองอ่านประโยคนี้ “สบายดีไหม” “สบายดีไหม (^_^)” หรือ “วันหลังไม่ต้องมาพูดกันอีก” แต่ความจริงแล้วคนเขียนประโยคนี้ไม่ได้โกรธอะไรจริงจังก็อาจจะตีความหมายผิดไป แต่ถ้าเราใส่เป็น “วันหลังไม่ต้องมาพูดกันอีก (&gt;_&lt;)” อารมณ์ก็เปลี่ยนไปทันตาเห็น แล้วคุณจะไม่ลองกลับไปเล่นอะไรแบบพื้นๆ แบบที่เราเคยเล่นกันมาหน่อยหรือครับ\n</p>\n<p>\n<br />\n \n</p>\n<p>\nขอบคุณที่มาจาก สนุกดอทคอม\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1718630433, expire = 1718716833, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:a5af93ff696f6fda8aa17f28dafef833' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:6259b0bc59eb1c53f8a8f0abd65e2283' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<strong>จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ</strong><br />\nเรามักเข้าใจกันว่า อากาศในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศนั้นสะอาด และปลอดภัย แต่คุณทราบไหมว่า นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า สิ่งแวดล้อมในห้องปรับอากาศ หรือห้องต่างๆที่ปิดทึบนั้น อาจมีมลภาวะมากกว่าสิ่งแวดล้อมภายนอกหลายเท่า โดยเฉพาะในห้องหรืออาคารที่การบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศไม่ดีพอ จะทำให้เกิดการแพร่กระจายของแบคทีเรียและทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ การบำรุงรักษาเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้คุณภาพอากาศในอาคารดีขึ้น การทำความสะอาดแผ่นกรองของเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้อากาศที่ไหลจากภายนอกสู่ภายในสะอาดขึ้น ในอาคารที่ติดเครื่องปรับอากาศจะทำให้อากาศในห้องแห้งกว่าปกติ ทำให้ผิวหนังแห้ง จมูกและทางเดินหายใจแห้ง ทำให้ไวต่อการแพ้ไอระเหยของสารเคมีในอากาศ ไวรัส และสิ่งกระตุ้นต่างๆ อาการหวัด แพ้ และหอบหืด เนื่องจากอากาศหนาว ส่วนใหญ่เกิดจากความชื้นในอากาศต่ำ แต่ถ้าระดับความชื้นมากเกินไป ก็จะทำให้คุณภาพอากาศใน อาคารเกิดปัญหาทำให้เกิดเชื้อรา และมีผลต่อสุขภาพได้ การปลูกต้นไม้ในอาคาร จะมีส่วนช่วยให้ความชื้นในห้องดีขึ้น เพราะต้นไม้จะคายน้ำออกทางใบ เมื่อความชื้นในห้องต่ำ ต้นไม้จะคายความชื้นออกมาและเมื่อความชื้นในห้องสูง ต้นไม้ก็จะลดการคายน้ำลงหรือช่วยดูดซับไอน้ำในห้องได้ด้วย\n</p>\n<p>\n \n</p>\n<p><div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" width=\"323\" src=\"/files/u20341/1213132.jpg\" height=\"431\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\n<a href=\"http://www.tarad.com/ncgreenhouse/img-lib/spd_20071022122416_b.JPG\">http://www.tarad.com/ncgreenhouse/img-lib/spd_20071022122416_b.JPG</a>\n</div>\n</p>\n<p>\nจั๋ง (Lady Palm) <br />\nจั๋งเป็นไม้ประดับในอาคาร อีกชนิดหนึ่งที่สวยงาม ทนทาน และดีที่สุดในการช่วยปรับปรุงคุณภาพของอากาศในอาคาร และมีคุณสมบัติในการดูดไอระเหยของสารเคมีต่างๆ ได้ดีเท่าต้นหมากเหลืองที่เคยเสนอไปแล้ว\n</p>\n<p>\nจั๋งมีคุณสมบัติเฉพาะเหมือนหมากเหลือง คือ ดูดหรือสะสมเกลือ และแร่ธาตุต่างๆ ไปไว้ที่ปลายใบ ทำให้ปลายใบอาจแห้งหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ถ้าจะให้สวยงามต้องหมั่นใช้กรรไกรขลิบปลายใบออก ต้นจั๋งนี้ชอบความชื้นเหมือนต้นไม้ตระกูลหมากทั่วไป และจากลักษณะที่โตช้าทำให้เป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย\n</p>\n<p>\nชื่อสามัญ Lady palm\n</p>\n<p>\nชื่อวิทยาศาสตร ์ Rhapis exclesa\n</p>\n<p>\nตระกูล PLAMAE\n</p>\n<p>\nถิ่นกำเนิด ไทย จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย\n</p>\n<p>\nลักษณะทั่วไป <br />\nจั๋งเป็นปาล์มที่มีขนาดเล็ก ลำต้นมีขนาดเท่าหัวแม่มือหรือใหญ่กว่าเล็กน้อย โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ไม่เกิน2 นิ้ว ลำต้นเป็นกอคล้ายไผ่ มีความแข็งแรงมาก กอหนึ่งจะสูงประมาณ 3-5 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม เป็นมันรูปใบพัด และมีใบย่อยแตกออกจากกันเป็นแฉกลึก ใบ 1 ใบจะมีใบย่อยประมาณ 5-10 ใบ ก้านใบเล็ก มีสีเขียวและแข็งยาวประมาณ 12 นิ้ว\n</p>\n<p>\nการดูแลรักษา <br />\nแสง ชอบแสงแดดมาก <br />\nน้ำ ต้องการน้ำพอประมาณ <br />\nดิน เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย <br />\nปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปีละ 2 ครั้ง\n</p>\n<p>\nการขยายพันธ ุ์ โดยการเพาะเมล็ดและแยกหนอ (การเพาะเมล็ดจะได้รูปทรงที่สวยงามกว่า) <br />\nโรคและแมลง ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี\n</p>\n<p>\n </p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:6259b0bc59eb1c53f8a8f0abd65e2283' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:ba56669c4bc037f8abb77698e9b15b3f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nดูมีสาระดีนะ\n</p>\n<p>\nต้นไม้ช่วยโลก\n</p>\n<p>\n555+\n</p>\n<p>\nให้ 10\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:ba56669c4bc037f8abb77698e9b15b3f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:bdc0159ddcefb21549c38f7f861cc133' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n10 ไปเลยพวก\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nนี่แหละ เกียรตินิยม ห้อง12\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:bdc0159ddcefb21549c38f7f861cc133' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:8634c998a7a8d196d1eb2b3ffdcfbc17' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>ดีครับ ให้ 10 เลยครับ</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:8634c998a7a8d196d1eb2b3ffdcfbc17' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:a5060a0f03f6f4da4ec9d5d88d74aa62' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n10\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nสวยงามๆ\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:a5060a0f03f6f4da4ec9d5d88d74aa62' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:f104a857d8c2d31e3cc70df5649d4451' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">เนื้อหามีประโยชน์ใช้สอยครับ</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">มีสาระ</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #008000\">เอาไป 10 เต็มครับ</span></strong>\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:f104a857d8c2d31e3cc70df5649d4451' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:8f8364afe8403059c7900ba51cc26ae8' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<span style=\"color: #99cc00\">ให้ 10 คะแนนครับ</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #99cc00\">น่าสนใจ</span> \n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #c0c0c0\">S i R i U s Z . b a D z . V i r G i n .</span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #c0c0c0\"> ______________________________ . L o v e ~ ♡ </span>\n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #c0c0c0\">L a s t M o M e n t . </span>\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:8f8364afe8403059c7900ba51cc26ae8' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:df7ab50001d055a28af2aa87511a6a27' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>ปลูกต้นไม้ ลดโลกร้อน ให้10ครับ</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:df7ab50001d055a28af2aa87511a6a27' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:c64b0b877315de7e3292560db8858f23' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n10\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nงามๆ\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:c64b0b877315de7e3292560db8858f23' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:ca7f35f19bc896593c201ccd8e69f6d2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><strong>ดีมากคับ</strong></p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:ca7f35f19bc896593c201ccd8e69f6d2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b288f1d66cec93c2fb26a93eb3370c5c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้\n</p>\n<p>\nเอาไป10 คะแนน\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b288f1d66cec93c2fb26a93eb3370c5c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:bdcf8298a359f8b22e874a56592e232d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาดี เป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้\n</p>\n<p>\n10 คะแนนเลย\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:bdcf8298a359f8b22e874a56592e232d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:0591a120962e588a72129db8b2fec798' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nมีประโยชน์ค่ะ\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nให้ 10\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:0591a120962e588a72129db8b2fec798' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:63d0d9e53eaa06de828a4e20e03d94ef' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nมีสาระดีครับ\n</p>\n<p>\nเป็นความรู้แปลกใหม่\n</p>\n<p>\nผมให้\n</p>\n<p>\n9.9\n</p>\n<p>\nครับ\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:63d0d9e53eaa06de828a4e20e03d94ef' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:bf209f980819e9c1c36ffa80d16ca25f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาดีมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการใช้ในชีวิตประจำวัน\n</p>\n<p>\nทำงานเรียนร้อย  ให้  10  คะแนนเลยจร้า\n</p>\n', created = 1718630434, expire = 1718716834, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:bf209f980819e9c1c36ffa80d16ca25f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

งานชิ้นที่ 3 เรื่อง การงานอาชีพและเทคโนโลยี

รูปภาพของ pnp33661

จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ
เรามักเข้าใจกันว่า อากาศในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศนั้นสะอาด และปลอดภัย แต่คุณทราบไหมว่า นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า สิ่งแวดล้อมในห้องปรับอากาศ หรือห้องต่างๆที่ปิดทึบนั้น อาจมีมลภาวะมากกว่าสิ่งแวดล้อมภายนอกหลายเท่า โดยเฉพาะในห้องหรืออาคารที่การบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศไม่ดีพอ จะทำให้เกิดการแพร่กระจายของแบคทีเรียและทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ การบำรุงรักษาเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้คุณภาพอากาศในอาคารดีขึ้น การทำความสะอาดแผ่นกรองของเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้อากาศที่ไหลจากภายนอกสู่ภายในสะอาดขึ้น ในอาคารที่ติดเครื่องปรับอากาศจะทำให้อากาศในห้องแห้งกว่าปกติ ทำให้ผิวหนังแห้ง จมูกและทางเดินหายใจแห้ง ทำให้ไวต่อการแพ้ไอระเหยของสารเคมีในอากาศ ไวรัส และสิ่งกระตุ้นต่างๆ อาการหวัด แพ้ และหอบหืด เนื่องจากอากาศหนาว ส่วนใหญ่เกิดจากความชื้นในอากาศต่ำ แต่ถ้าระดับความชื้นมากเกินไป ก็จะทำให้คุณภาพอากาศใน อาคารเกิดปัญหาทำให้เกิดเชื้อรา และมีผลต่อสุขภาพได้ การปลูกต้นไม้ในอาคาร จะมีส่วนช่วยให้ความชื้นในห้องดีขึ้น เพราะต้นไม้จะคายน้ำออกทางใบ เมื่อความชื้นในห้องต่ำ ต้นไม้จะคายความชื้นออกมาและเมื่อความชื้นในห้องสูง ต้นไม้ก็จะลดการคายน้ำลงหรือช่วยดูดซับไอน้ำในห้องได้ด้วย

 

จั๋ง (Lady Palm)
จั๋งเป็นไม้ประดับในอาคาร อีกชนิดหนึ่งที่สวยงาม ทนทาน และดีที่สุดในการช่วยปรับปรุงคุณภาพของอากาศในอาคาร และมีคุณสมบัติในการดูดไอระเหยของสารเคมีต่างๆ ได้ดีเท่าต้นหมากเหลืองที่เคยเสนอไปแล้ว

จั๋งมีคุณสมบัติเฉพาะเหมือนหมากเหลือง คือ ดูดหรือสะสมเกลือ และแร่ธาตุต่างๆ ไปไว้ที่ปลายใบ ทำให้ปลายใบอาจแห้งหรือเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ถ้าจะให้สวยงามต้องหมั่นใช้กรรไกรขลิบปลายใบออก ต้นจั๋งนี้ชอบความชื้นเหมือนต้นไม้ตระกูลหมากทั่วไป และจากลักษณะที่โตช้าทำให้เป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ไม่ต้องเปลี่ยนกระถางบ่อย

ชื่อสามัญ Lady palm

ชื่อวิทยาศาสตร ์ Rhapis exclesa

ตระกูล PLAMAE

ถิ่นกำเนิด ไทย จีน ญี่ปุ่น มาเลเซีย

ลักษณะทั่วไป
จั๋งเป็นปาล์มที่มีขนาดเล็ก ลำต้นมีขนาดเท่าหัวแม่มือหรือใหญ่กว่าเล็กน้อย โดยทั่วไปมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ไม่เกิน2 นิ้ว ลำต้นเป็นกอคล้ายไผ่ มีความแข็งแรงมาก กอหนึ่งจะสูงประมาณ 3-5 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม เป็นมันรูปใบพัด และมีใบย่อยแตกออกจากกันเป็นแฉกลึก ใบ 1 ใบจะมีใบย่อยประมาณ 5-10 ใบ ก้านใบเล็ก มีสีเขียวและแข็งยาวประมาณ 12 นิ้ว

การดูแลรักษา
แสง ชอบแสงแดดมาก
น้ำ ต้องการน้ำพอประมาณ
ดิน เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย
ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก ปีละ 2 ครั้ง

การขยายพันธ ุ์ โดยการเพาะเมล็ดและแยกหนอ (การเพาะเมล็ดจะได้รูปทรงที่สวยงามกว่า)
โรคและแมลง ทนทานต่อโรคและแมลงได้ดี

 

รูปภาพของ pnp33673

มีสาระดี

 ให้ 10 จร้า

 

บายๆ ^-^

รูปภาพของ pnp33665

ดูมีสาระดีนะ

ต้นไม้ช่วยโลก

555+

ให้ 10

รูปภาพของ pnp31530

10 ไปเลยพวก

 

นี่แหละ เกียรตินิยม ห้อง12

รูปภาพของ pnp33671

แนนให้ 10 จ้า

ดีมาก มีสาระ

อิอิอิ

รูปภาพของ pnp33662

ดีครับ ให้ 10 เลยครับ

รูปภาพของ pnp31471

เนื้อหาดีมาก

มีประโยชน์

ให้ 10 คะแนนเต็ม 

รูปภาพของ pnp33667

น่าสนใจดี

สวยงาม 10 คะแนน

รูปภาพของ pnp32300

10

 

สวยงามๆ

รูปภาพของ pnp31446

ทำงานถูกต้อง เป็นประโยชน์

 

ส่งตามเวลาอีกนะ

 

เนื้อหาน่าสนใจ  10 สิค่ะ แบบนี้อ่ะ

รูปภาพของ pnp31237

เนื้อหามีประโยชน์ใช้สอยครับ

มีสาระ

เอาไป 10 เต็มครับ

รูปภาพของ pnp33607

ให้ 10 คะแนนครับ

น่าสนใจ 

S i R i U s Z . b a D z . V i r G i n .

 ______________________________ . L o v e ~ ♡

L a s t M o M e n t .

รูปภาพของ pnp33660

ปลูกต้นไม้ ลดโลกร้อน ให้10ครับ

รูปภาพของ pnp31503

เนื้อหาดีมาก

มีประโยชน์

ให้ 10 คะแนนเต็ม 

รูปภาพของ pnp31144

10

 

งามๆ

รูปภาพของ pnp31501

ดีมากคับ

เนื้อหาดี

 

ครบ

 

10เอ๊งนะ

รูปภาพของ pnp31269

เนื้อหาดีมีสาระจ้า

เป็นความรู้ประดับหัว

มีประโยชน์จ๊ะ

 

น้ำหวานให้10จ๊ะ

รูปภาพของ pnp31264

เนื้อหาดีมีสาระจ้า

เป็นความรู้ประดับหัวค่ะ

 

ให้10

รูปภาพของ pnp31315

เนื้อหาดี

มีสาระจ้า

 

ให้10จ้า

รูปภาพของ pnp33664

สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

เอาไป10 คะแนน

รูปภาพของ pnp31511

เนื้อหาดี เป็นเรื่องที่คนทั่วไปไม่ค่อยรู้

10 คะแนนเลย

 

รูปภาพของ Rinniiz

เนื้อหาดี

 

น่ารู้

 นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

 

10คั๊บ

รูปภาพของ pnp31585

เหมาะดี

เอาไปเลย 10 คะแนน

รูปภาพของ pnp31311

มีประโยชน์ค่ะ

 

ให้ 10

รูปภาพของ pnp33655

มีสาระดีครับ

เป็นความรู้แปลกใหม่

ผมให้

9.9

ครับ

รูปภาพของ pnp33672

เนื้อหาดีมีประโยชน์เป็นอย่างมากในการใช้ในชีวิตประจำวัน

ทำงานเรียนร้อย  ให้  10  คะแนนเลยจร้า

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 535 คน กำลังออนไลน์