• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:c7494c31410e832842d8c315720b9caf' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n <strong><span style=\"color: #993366\"> ซีเกทชี้ ตลาดฮาร์ตไดร์ฟ  APAC</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong> ซีเกทคาดตลาดรวมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟปี 2010 เติบโตกว่า 15% หรือคิดเป็นยอดจัดส่งทั้งตลาดกว่า 650-670 ล้านยูนิต โดยเอเชียแปซิฟิก (APAC) เติบโตสูงสุด พร้อมวาง 3 กลยุทธ์รักษาความเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้<br />\n</strong>       <br />\n       นาย บีเอส เท รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิกและประเทศญี่ปุ่น บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี กล่าวว่า <span style=\"color: #990000\"><span style=\"color: #000000\">ซีเกทคาดว่าตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์โลกโดยรวมปี 2010 น่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 15% หรือคิดเป็นยอดรวมการจัดส่งของทั้งตลาดมากกว่า 650-670 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาที่มียอดจัดส่ง 590 ล้านยูนิตประมาณ 60-80 ล้านยูนิต</span><br />\n       </span><br />\n       ผู้บริหารซีเกท กล่าวว่า <span style=\"color: #990000\">ในปีที่ผ่านมาหลายอุตสาหรรมได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทุนหาย กำไรหด แต่อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นอุตสาหกรรมเดียวที่ยังมีการเติบโตอยู่ เนื่องจากการเกิดของแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ตลอดจนความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปส่งผลให้ความต้องการจัดเก็บข้อมูลมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยซีเกทพบว่าแต่ละวันมีการส่งข้อมูลกันมากถึง 6.5 พันล้านข้อความ ซึ่งมากกว่าประชากรบนโลกปัจจุบัน อัตราการเติบโตเว็บไซต์ต่อปีมากถึง 40% โดยในปี 2010 ปีเดียวคาดว่าจะมีการจัดเก็บข้อมูลมากกว่า 40 เอ็กซาไบต์ (Exabyte)<br />\n       </span><br />\n       <strong><span style=\"color: #990000\"><span style=\"color: #000000\">“ในอนาคตข้างหน้าปริมาณความต้องการจัดเก็บข้อมูลจะไม่ลดลงโดยคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าข้อมูลในองค์กรจะเติบโตขึ้น 650%&quot;</span><br />\n       </span></strong><br />\n       ทั้งนี้เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกันทั้งโลกและรายได้ครึ่งหนึ่งของซีเกท ก็มาจากภูมิภาคนี้ โดยตลาดในภูมิภาคนี้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ผลิตโน้ตบุ๊กรายใหญ่ 6-7 รายที่มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันกว่า 53% มีการรับจ้างผลิต OEM ก็อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยปัจจุบันซีเกท เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟโลกมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 37 % และคาดว่าในปีนี้จะมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา<br />\n       <br />\n       <span style=\"font-size: small\"><span style=\"color: #990000\"><strong>“ตลาดรีเทลเป็นตลาดที่น่าสนใจในปีนี้”</strong></span><br />\n       </span><br />\n       ในส่วนกลยุทธ์ที่ซีเกทจะนำมาใช้ในการสร้างตลาดเอเชียแปซิฟิกคือ 1.ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 2.ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลักใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจในตัวสินค้าของซีเกทมากที่สุด และ3.มองหาตลาดใหม่ๆ รวมทั้งตลาดที่มีอยู่แล้วแต่ยังไม่เคยทำมาก่อน อย่างด้านการแพทย์<br />\n       <br />\n       นอกจากตลาดฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟที่จะยังคงเติบโตในปีนี้แล้วซีเกทเชื่อว่า <strong><span style=\"color: #990000\">โซลิดสเตทไดร์ฟ (เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลที่จะมาแทนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ) จะเป็นอีกหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มาแรงในปีนี้เช่นกัน</span></strong><br />\n       <br />\n       <strong>ซีเกทเปิดตัวโซลิดสเตทไดรฟ์ เมื่อไม่นานมานี้ ปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดหลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่มุ่งตลาดที่ต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลในองค์กร ซีเกทเชื่อว่ามูลค่าตลาดรวมโซลิดสเตทไดรฟ์แต่ละปีมากกว่า 1พันล้านดอลล่าร์ แต่ในส่วนของซีเกทยังไม่สามารถประเมินรายได้ได้<br />\n       </strong><br />\n<strong> </strong>\n</p>\n<p>\n<strong>  <span style=\"color: #0000ff\">แหล่งข้อมูล</span></strong>\n</p>\n<p>\n<strong>    <a href=\"http://www.manager.co.th/CyberBiz/\">http://www.manager.co.th/CyberBiz/</a></strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong></strong>\n</p>\n<p>\n<strong><span style=\"color: #993366\">แฉเบื้องลึก เอไอเอส โดนบล็อกโรมมิ่ง 3G</span></strong>\n</p>\n<p>\n                                     ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังบริหารประเทศอยู่ในห้วงเวลานี้  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส คงไม่ถูกบล็อกสัญญาณโรมมิ่ง (การขอใช้โครงข่ายร่วม) DATA  (ข้อมูล) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้วางระบบและให้บริการมือถือระบบ TOT 3G อย่างแน่นอน <br />\nแต่วันนี้การเมืองเปลี่ยนขั้วทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง และ ยิ่งวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 13.00 น. มีการกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดี เงินทักษิณ  7.6  หมื่นล้านบาท ของ องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากคณะกรรมการ บมจ.ทีโอที ปล่อยสัญญาณโรมมิ่ง อาจจะถูกตั้งคำถาม?\n</p>\n<p>\n       &quot;ทีโอที คงไม่ไว้ใจอะไรบางอย่างถ้าซัพพอร์ตเรา (เอไอเอส) จะเร่งรัดเกินไป เพราะวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้มีชื่อ เอไอเอส  เกี่ยวข้อง 3-4 ประเด็น คือ  กรณีแปลงค่าสัมปทานเป็นค่าภาษีสรรพสามิต   (โดยมีการตราพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 พ.ศ.2546 ) ปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรเติมเงิน  (เหลือเพียง 20%  จากเดิมที่ต้องจ่ายแบบอัตราก้าวหน้า25-30%) และ การโรมมิ่งกับดีพีซี (บริษัท ดิจิตอล โฟนฯ) แต่ถ้าให้ผมเดาการเมืองมีส่วน แต่สาธุขอให้เดาผิดเถอะ&quot; นั้นคือคำให้สัมภาษณ์ของ นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าเจ้าหน้าที่คณะผู้บริหาร เอไอเอส เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n*** เบื้องลึก MVNO เดินเกมบล็อก พลันที่ เอไอเอส ประกาศนโยบาย Ecosystem ระบบนิเวศแห่งโลกสื่อสาร  เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับประกาศจะโรมมิ่งดาต้า กับ ทีโอที 3G เพื่อเปิดทดลองใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พอคล้อยหลังแค่เพียง 10 วัน ปรากฏว่า คณะกรรมการ ทีโอที มีมติอย่างเป็นทางการขอหารือ กทช. ก่อนว่า คำขอโรมมิ่งดาต้านั้นสามารถทำได้หรือไม่<br />\n จุดนี้เองจึงเป็นที่มาของคำ &quot;ขู่&quot; จะปิดสัญญาณโรมมิ่งเสียง (Voice) ในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่ง เอไอเอส ยินยอมให้ ไทยโมบาย 1900 เชื่อมสัญญาณ จำนวน 500,000 เลขหมาย ตั้งแต่ปี 2547 เป็นสัญญาต่างตอบแทนที่ไทยโมบาย สามารถให้บริการเสียง (โรมมิ่งวอยซ์) กับโครงข่าย เอไอเอส ทั่วประเทศได้ เอไอเอส ระบุว่า เมื่อ ทีโอที มีโครงข่าย TOT 3G แล้วในขณะนี้ เอไอเอส จึงยื่นขอให้บริการข้อมูลจากโครงข่าย TOT 3G บ้าง ซึ่ง เอไอเอส มองว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถดำเนินการได้<br />\n &quot;ทำไมทีเราให้ ไทยโมบาย 1900 โรมมิ่งไม่เห็นต้องยื่นขอต่อ กทช.แต่พอเราจะขอโรมมิ่งบ้างกลับยื่นข้อเสนอให้ กทช.พิจารณา และ เราไม่จำเป็นต้องให้เรา 500,000 เลขหมายก็ได้ให้เพียง 50,000 หรือ 10,000 เลขหมายก็ได้&quot; นายวิเชียร กล่าว<br />\n สำหรับเบื้องหลังของการบล็อกสัญญาณ เอไอเอส ในครั้งนี้ แหล่งข่าวในวงการธุรกิจสื่อสาร เปิดเผยกับ &quot;ฐานเศรษฐกิจ&quot; เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนการประชุมคณะกรรมการ บมจ.ทีโอที ปรากฏว่าบรรดา MVNO (Mobile Virtual Network Operator : ผู้ให้บริการโทรศัพท์ที่ไม่ได้วางโครงข่ายเอง แต่ไปเหมาจากเจ้าของโครงข่ายมาให้บริการอีกทอดหนึ่ง) จำนวน 4 ใน 5 ราย (บริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด,บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน),บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน),บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด และ บริษัท เอ็ม คอนเซ้าท์ เอเซีย จำกัด) ได้รวมตัวยื่นหนังสือถึง ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานกรรมการ โดยผ่านทาง นายวิเชียร นาคศรีนวล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโทรศัพท์เคลื่อนที่ <br />\nเนื่องจากว่าผู้ประกอบการรายเล็กแสดงความกังวลเนื่องจาก CAPACITY (ศักยภาพในการรองรับ) สามารถรองรับได้เพียง 500,000 เลขหมายเท่านั้น และ  ทีโอที จะเสียเปรียบในเรื่องของฐานลูกค้าเมื่อใดที่ เอไอเอส ได้รับใบอนุญาต 3G ก็พร้อมโอนลูกค้าเข้ามาอยู่ในระบบใหม่ แต่ถ้าให้จำกัดเฉพาะ MVNO จำนวนฐานลูกค้ายังเป็นของ ทีโอที เพราะในเบื้องต้นจัดสรรเลขหมายให้กับ MVNO จำนวนรายละ 20,000 เลขหมายแต่ถ้าจำหน่ายหมดสามารถมาขอเพิ่มเติมได้ <br />\n     &quot;เพราะใบอนุญาต 3G ไม่คลอด เอไอเอส ต้องขอโรมมิ่งสัญญาณวิธีนี้ก็มีลักษณะเหมือน MVNO เพราะทำการตลาดและขาย ส่วน ทรู ตอนนี้ก็จะขอใบอนุญาตจาก กทช. เพื่อทำ MVNO เช่นเดียวกัน&quot;    \n</p>\n<p>\n      ***กทช.ซื้อเวลา แม้ผู้บริหาร เอไอเอส จับเข่าคุยกับผู้บริหาร บมจ.ทีโอที เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ไร้ข้อสรุป เมื่อ บมจ.ทีโอที ปักธงที่จะให้ กทช. พิจารณาเรื่องนี้ต่อไป และ เอไอเอส ก็ประกาศอย่างเป็นทางการยังไม่ตัดสัญญาณโรมมิ่งวอยซ์ ลูกค้า TOT 3G จำนวน 20,000 เลขหมาย เพื่อรอคำชี้ขาดจาก กทช.  <br />\n อย่างไรก็ตามการประชุมของคณะกรรมการ กทช.เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ได้ เนื่องจากว่ากรณีเชื่อมโยงโครงข่ายดาต้าระหว่างโครงข่าย 2G ของ เอไอเอส  ไปยังโครงข่าย 3G TOT เนื่องจากบอร์ดต้องการความชัดเจนจาก เอไอเอส และ ทีโอที ใน 2 เรื่อง ได้แก่ คำนิยามของคำว่าโรมมิ่ง จำกัดความถึงระดับไหน รวมทั้งการทำสัญญาโรมมิ่งระหว่าง 2 บริษัทเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขสัญญาสัมปทานหรือไม่ และการดำเนินการโรมมิ่งดังกล่าวเข้าข่าย MVNO หรือ หรือ เอไอเอส รับหน้าที่เป็นเพียงผู้ทำการตลาดให้เท่านั้น และ จะมีการประชุมนัดพิเศษในวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553 <br />\n ถึงตอนนี้พิสูจน์ได้ชัดเจนเลยว่าเมื่อขั้วการเมืองเปลี่ยนสิ่งที่  เอไอเอส เคยได้ผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ กลับกลายเป็นว่าทุกคำที่เขี้ยวกระแทกกระดูกแทบกรามหัก!!!ล้อมกรอบเสียงสะท้อน MVNO\n</p>\n<p>\n      ****นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไออีซี ซึ่งให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ภายใต้ชื่อ &quot;IEC 3G&quot; กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นมารยาททางธุรกิจ เพราะ บมจ.ทีโอที มี MVNO จำนวน 5 ราย ทำให้ต้องปฏิเสธโรมมิ่ง <br />\n     \n</p>\n<p>\n      **** นายสุรินทร์ ฤทธีภมร ผู้ก่อตั้งบริษัท 365 Communication กล่าวว่า เรื่องการโรมมิ่งสัญญาณระหว่าง ทีโอที กับ บมจ.ทีโอที นั้นตนไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นเพราะเป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะตัดสินใจ ส่วน 365 นั้นเตรียมแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ <br />\n     \n</p>\n<p>\n     ****นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มคอนเซ้าท์ เอเชีย จำกัด ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ภายใต้ชื่อ &quot;MOJO&quot; กล่าวในทำนองเดียวกันว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายเราในฐานะเป็นผู้ทำการตลาดไม่ต้องการเข้าไปก้าวก่าย และ เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะหาข้อสรุปได้ \n</p>\n<p style=\"text-align: right\">\n<strong>จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,503  7-10  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553</strong>\n</p>\n<p>\n       \n</p>\n<p>\n<span style=\"color: #0000ff\"> <strong>แหล่งข้อมูล</strong></span>\n</p>\n<p>\n    <a href=\"http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_\">http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_</a>\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n', created = 1718641024, expire = 1718727424, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:c7494c31410e832842d8c315720b9caf' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

ข่าวไอที

รูปภาพของ skk05829

  ซีเกทชี้ ตลาดฮาร์ตไดร์ฟ  APAC

 ซีเกทคาดตลาดรวมฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟปี 2010 เติบโตกว่า 15% หรือคิดเป็นยอดจัดส่งทั้งตลาดกว่า 650-670 ล้านยูนิต โดยเอเชียแปซิฟิก (APAC) เติบโตสูงสุด พร้อมวาง 3 กลยุทธ์รักษาความเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้
       
       นาย บีเอส เท รองประธานและกรรมการผู้จัดการ ภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิกและประเทศญี่ปุ่น บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี กล่าวว่า ซีเกทคาดว่าตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์โลกโดยรวมปี 2010 น่าจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 15% หรือคิดเป็นยอดรวมการจัดส่งของทั้งตลาดมากกว่า 650-670 ล้านยูนิต ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาที่มียอดจัดส่ง 590 ล้านยูนิตประมาณ 60-80 ล้านยูนิต
       

       ผู้บริหารซีเกท กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาหลายอุตสาหรรมได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจทุนหาย กำไรหด แต่อุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เป็นอุตสาหกรรมเดียวที่ยังมีการเติบโตอยู่ เนื่องจากการเกิดของแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ ตลอดจนความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปส่งผลให้ความต้องการจัดเก็บข้อมูลมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน โดยซีเกทพบว่าแต่ละวันมีการส่งข้อมูลกันมากถึง 6.5 พันล้านข้อความ ซึ่งมากกว่าประชากรบนโลกปัจจุบัน อัตราการเติบโตเว็บไซต์ต่อปีมากถึง 40% โดยในปี 2010 ปีเดียวคาดว่าจะมีการจัดเก็บข้อมูลมากกว่า 40 เอ็กซาไบต์ (Exabyte)
       

       “ในอนาคตข้างหน้าปริมาณความต้องการจัดเก็บข้อมูลจะไม่ลดลงโดยคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าข้อมูลในองค์กรจะเติบโตขึ้น 650%"
       

       ทั้งนี้เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกันทั้งโลกและรายได้ครึ่งหนึ่งของซีเกท ก็มาจากภูมิภาคนี้ โดยตลาดในภูมิภาคนี้ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ผลิตโน้ตบุ๊กรายใหญ่ 6-7 รายที่มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันกว่า 53% มีการรับจ้างผลิต OEM ก็อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกโดยปัจจุบันซีเกท เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟโลกมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 37 % และคาดว่าในปีนี้จะมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา
       
       “ตลาดรีเทลเป็นตลาดที่น่าสนใจในปีนี้”
       

       ในส่วนกลยุทธ์ที่ซีเกทจะนำมาใช้ในการสร้างตลาดเอเชียแปซิฟิกคือ 1.ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ สร้างความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 2.ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลักใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจในตัวสินค้าของซีเกทมากที่สุด และ3.มองหาตลาดใหม่ๆ รวมทั้งตลาดที่มีอยู่แล้วแต่ยังไม่เคยทำมาก่อน อย่างด้านการแพทย์
       
       นอกจากตลาดฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟที่จะยังคงเติบโตในปีนี้แล้วซีเกทเชื่อว่า โซลิดสเตทไดร์ฟ (เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลที่จะมาแทนฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ) จะเป็นอีกหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มาแรงในปีนี้เช่นกัน
       
       ซีเกทเปิดตัวโซลิดสเตทไดรฟ์ เมื่อไม่นานมานี้ ปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดหลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่มุ่งตลาดที่ต้องการผลิตภัณฑ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลในองค์กร ซีเกทเชื่อว่ามูลค่าตลาดรวมโซลิดสเตทไดรฟ์แต่ละปีมากกว่า 1พันล้านดอลล่าร์ แต่ในส่วนของซีเกทยังไม่สามารถประเมินรายได้ได้
       

 

  แหล่งข้อมูล

    http://www.manager.co.th/CyberBiz/

แฉเบื้องลึก เอไอเอส โดนบล็อกโรมมิ่ง 3G

                                     ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยังบริหารประเทศอยู่ในห้วงเวลานี้  บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส คงไม่ถูกบล็อกสัญญาณโรมมิ่ง (การขอใช้โครงข่ายร่วม) DATA  (ข้อมูล) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จาก บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้วางระบบและให้บริการมือถือระบบ TOT 3G อย่างแน่นอน
แต่วันนี้การเมืองเปลี่ยนขั้วทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลง และ ยิ่งวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 13.00 น. มีการกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดี เงินทักษิณ  7.6  หมื่นล้านบาท ของ องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หากคณะกรรมการ บมจ.ทีโอที ปล่อยสัญญาณโรมมิ่ง อาจจะถูกตั้งคำถาม?

       "ทีโอที คงไม่ไว้ใจอะไรบางอย่างถ้าซัพพอร์ตเรา (เอไอเอส) จะเร่งรัดเกินไป เพราะวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้มีชื่อ เอไอเอส  เกี่ยวข้อง 3-4 ประเด็น คือ  กรณีแปลงค่าสัมปทานเป็นค่าภาษีสรรพสามิต   (โดยมีการตราพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 พ.ศ.2546 ) ปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรเติมเงิน  (เหลือเพียง 20%  จากเดิมที่ต้องจ่ายแบบอัตราก้าวหน้า25-30%) และ การโรมมิ่งกับดีพีซี (บริษัท ดิจิตอล โฟนฯ) แต่ถ้าให้ผมเดาการเมืองมีส่วน แต่สาธุขอให้เดาผิดเถอะ" นั้นคือคำให้สัมภาษณ์ของ นายวิเชียร เมฆตระการ หัวหน้าเจ้าหน้าที่คณะผู้บริหาร เอไอเอส เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

 

*** เบื้องลึก MVNO เดินเกมบล็อก พลันที่ เอไอเอส ประกาศนโยบาย Ecosystem ระบบนิเวศแห่งโลกสื่อสาร  เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับประกาศจะโรมมิ่งดาต้า กับ ทีโอที 3G เพื่อเปิดทดลองใช้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พอคล้อยหลังแค่เพียง 10 วัน ปรากฏว่า คณะกรรมการ ทีโอที มีมติอย่างเป็นทางการขอหารือ กทช. ก่อนว่า คำขอโรมมิ่งดาต้านั้นสามารถทำได้หรือไม่
 จุดนี้เองจึงเป็นที่มาของคำ "ขู่" จะปิดสัญญาณโรมมิ่งเสียง (Voice) ในพื้นที่ต่างจังหวัดซึ่ง เอไอเอส ยินยอมให้ ไทยโมบาย 1900 เชื่อมสัญญาณ จำนวน 500,000 เลขหมาย ตั้งแต่ปี 2547 เป็นสัญญาต่างตอบแทนที่ไทยโมบาย สามารถให้บริการเสียง (โรมมิ่งวอยซ์) กับโครงข่าย เอไอเอส ทั่วประเทศได้ เอไอเอส ระบุว่า เมื่อ ทีโอที มีโครงข่าย TOT 3G แล้วในขณะนี้ เอไอเอส จึงยื่นขอให้บริการข้อมูลจากโครงข่าย TOT 3G บ้าง ซึ่ง เอไอเอส มองว่าเป็นเรื่องปกติที่สามารถดำเนินการได้
 "ทำไมทีเราให้ ไทยโมบาย 1900 โรมมิ่งไม่เห็นต้องยื่นขอต่อ กทช.แต่พอเราจะขอโรมมิ่งบ้างกลับยื่นข้อเสนอให้ กทช.พิจารณา และ เราไม่จำเป็นต้องให้เรา 500,000 เลขหมายก็ได้ให้เพียง 50,000 หรือ 10,000 เลขหมายก็ได้" นายวิเชียร กล่าว
 สำหรับเบื้องหลังของการบล็อกสัญญาณ เอไอเอส ในครั้งนี้ แหล่งข่าวในวงการธุรกิจสื่อสาร เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ก่อนการประชุมคณะกรรมการ บมจ.ทีโอที ปรากฏว่าบรรดา MVNO (Mobile Virtual Network Operator : ผู้ให้บริการโทรศัพท์ที่ไม่ได้วางโครงข่ายเอง แต่ไปเหมาจากเจ้าของโครงข่ายมาให้บริการอีกทอดหนึ่ง) จำนวน 4 ใน 5 ราย (บริษัท ไออีซี เทคโนโลยี จำกัด,บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน),บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน),บริษัท 365 คอมมูนิเคชั่น จำกัด และ บริษัท เอ็ม คอนเซ้าท์ เอเซีย จำกัด) ได้รวมตัวยื่นหนังสือถึง ศ.ดร.ธีรวุฒิ บุณยโสภณ ประธานกรรมการ โดยผ่านทาง นายวิเชียร นาคศรีนวล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานโทรศัพท์เคลื่อนที่
เนื่องจากว่าผู้ประกอบการรายเล็กแสดงความกังวลเนื่องจาก CAPACITY (ศักยภาพในการรองรับ) สามารถรองรับได้เพียง 500,000 เลขหมายเท่านั้น และ  ทีโอที จะเสียเปรียบในเรื่องของฐานลูกค้าเมื่อใดที่ เอไอเอส ได้รับใบอนุญาต 3G ก็พร้อมโอนลูกค้าเข้ามาอยู่ในระบบใหม่ แต่ถ้าให้จำกัดเฉพาะ MVNO จำนวนฐานลูกค้ายังเป็นของ ทีโอที เพราะในเบื้องต้นจัดสรรเลขหมายให้กับ MVNO จำนวนรายละ 20,000 เลขหมายแต่ถ้าจำหน่ายหมดสามารถมาขอเพิ่มเติมได้
     "เพราะใบอนุญาต 3G ไม่คลอด เอไอเอส ต้องขอโรมมิ่งสัญญาณวิธีนี้ก็มีลักษณะเหมือน MVNO เพราะทำการตลาดและขาย ส่วน ทรู ตอนนี้ก็จะขอใบอนุญาตจาก กทช. เพื่อทำ MVNO เช่นเดียวกัน"    

      ***กทช.ซื้อเวลา แม้ผู้บริหาร เอไอเอส จับเข่าคุยกับผู้บริหาร บมจ.ทีโอที เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ไร้ข้อสรุป เมื่อ บมจ.ทีโอที ปักธงที่จะให้ กทช. พิจารณาเรื่องนี้ต่อไป และ เอไอเอส ก็ประกาศอย่างเป็นทางการยังไม่ตัดสัญญาณโรมมิ่งวอยซ์ ลูกค้า TOT 3G จำนวน 20,000 เลขหมาย เพื่อรอคำชี้ขาดจาก กทช. 
 อย่างไรก็ตามการประชุมของคณะกรรมการ กทช.เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ได้ เนื่องจากว่ากรณีเชื่อมโยงโครงข่ายดาต้าระหว่างโครงข่าย 2G ของ เอไอเอส  ไปยังโครงข่าย 3G TOT เนื่องจากบอร์ดต้องการความชัดเจนจาก เอไอเอส และ ทีโอที ใน 2 เรื่อง ได้แก่ คำนิยามของคำว่าโรมมิ่ง จำกัดความถึงระดับไหน รวมทั้งการทำสัญญาโรมมิ่งระหว่าง 2 บริษัทเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขสัญญาสัมปทานหรือไม่ และการดำเนินการโรมมิ่งดังกล่าวเข้าข่าย MVNO หรือ หรือ เอไอเอส รับหน้าที่เป็นเพียงผู้ทำการตลาดให้เท่านั้น และ จะมีการประชุมนัดพิเศษในวันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553
 ถึงตอนนี้พิสูจน์ได้ชัดเจนเลยว่าเมื่อขั้วการเมืองเปลี่ยนสิ่งที่  เอไอเอส เคยได้ผลประโยชน์ไปเต็ม ๆ กลับกลายเป็นว่าทุกคำที่เขี้ยวกระแทกกระดูกแทบกรามหัก!!!ล้อมกรอบเสียงสะท้อน MVNO

      ****นางสัณห์จุฑา วิชชาวุธ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไออีซี ซึ่งให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ภายใต้ชื่อ "IEC 3G" กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นมารยาททางธุรกิจ เพราะ บมจ.ทีโอที มี MVNO จำนวน 5 ราย ทำให้ต้องปฏิเสธโรมมิ่ง
     

      **** นายสุรินทร์ ฤทธีภมร ผู้ก่อตั้งบริษัท 365 Communication กล่าวว่า เรื่องการโรมมิ่งสัญญาณระหว่าง ทีโอที กับ บมจ.ทีโอที นั้นตนไม่ต้องการแสดงความคิดเห็นเพราะเป็นหน้าที่ของผู้บริหารที่จะตัดสินใจ ส่วน 365 นั้นเตรียมแผนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้
     

     ****นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มคอนเซ้าท์ เอเชีย จำกัด ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 3G ภายใต้ชื่อ "MOJO" กล่าวในทำนองเดียวกันว่าเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายเราในฐานะเป็นผู้ทำการตลาดไม่ต้องการเข้าไปก้าวก่าย และ เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะหาข้อสรุปได้ 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,503  7-10  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

       

 แหล่งข้อมูล

    http://www.thannews.th.com/index.php?option=com_

 

 

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 399 คน กำลังออนไลน์