ประวัติของจังหวัดพะเยา เมืองพะเยา มีพัฒนาการมาตั้งแต่ก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 (ก่อน พ.ศ. 1700) เป็นรัฐอิสระร่วมสมัยกับแคว้นสุโขทัย และแคว้นเชียงแสน-เชียงราย สมัยพุทธศตวรรษที่ 19 (หลัง พ.ศ.1800) เดิมมีชื่อเรียกว่า “พยาว” (ศิลาจารึกวัดศรีชุม หลักที่ 2 สมัยสุโขทัย), ภูกามยาว, ภูยาว (พงศาวดาร) หรือ“ดอยด้วน” หรือ “ดอยชมพู”ตามชื่อของภูเขาที่ทอดยาวจากเหนือไปใต้ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับตัวเมืองซึ่งตั้งอยู่บนที่ราบริมแม่น้ำอิง กษัตริย์องค์แรกที่ครองเมืองพะเยาตามที่ปรากฏในหลักฐาน คือ “พญางำเมือง” ซึ่งมีตำนานกล่าวว่าเป็นเชื้อวงศ์ขุนจอมธรรม-ขุนเจืองแต่โบราณ โดยที่พญางำเมืองนั้นเป็นเครือญาติของพญาเม็งราย (ผู้สร้างนครเชียงใหม่) และเป็นพระสหายของ “พระร่วง” (พ่อขุนรามคำแหง) แห่งกรุงสุโขทัย โดยทั้ง 3 พระสหายเคยไปร่วมกันทำพิธีสร้างเมืองเชียงใหม่เมื่อปี พ.ศ. 1839 จนมีพระอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ปรากฏอยู่ ณ จังหวัดเชียงใหม่ปัจจุบันนี้ ในสมัยของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา และสมัยของพระเจ้าติโลกราช มหาราชแห่งล้านน(เชียงใหม่) มีเชื้อสายของราชวงศ์พระร่วงคนหนึ่ง ชื่อ “ยุทธิษฐิระ” (ยุทธิษเฐียร) ขึ้นมาครองเมืองพะเยาโดยความร่วมมือของพระเจ้าติโลกราช (หลังปี พ.ศ. 1994) โดยยกย่องตนเองขึ้นเป็น “สมเด็จพระราชโอรส” และสิ้นสมัยลงในปี 2022 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2022 จนถึงปี พ.ศ. 2101 (รวม 79 ปี) มีเจ้าเมือง 12 พระองค์ ได้แก่ นางเจ้าหมื่น, เจ้าสี่หมื่นพะเยา, เจ้าสี่หมื่นพะเยา (คนที่ 2), เจ้าแสนญาณกัลยา, เจ้าเมืองจิต, เจ้าเมืองส้อยพะเยา, เจ้าเมืองฝาง, เจ้าคำยอดฟ้า, เจ้าพระยาหน่อเชียงแสน, เจ้าขุนเชียงคง และพระยาเมืองตู๋ จนต้องเสียเมืองให้แก่พม่าเมื่อปี พ.ศ. 2101 (เพราะพม่าเข้าครอบครองเมืองเชียงใหม่ และดินแดนล้านนาทั้งหมดในสมัยพระเจ้าบุเรงนอง) พะเยาจึงกลายเป็นเมืองที่ลดความสำคัญลงไปราวกับเป็นเมืองร้าง ในปี พ.ศ. 2386 แผ่นดินสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งเมืองเชียงราย, เมืองพะเยา และเมืองงาวขึ้นใหม่ มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่าน (พะเยากับงาวขึ้นนต่อเมืองลำปาง) มีเจ้าเมืองนับได้ 6 องค์ คือ เจ้าหลวงองค์, เจ้าหลวงยศ, เจ้าหลวงบุรีขัตติวงศา, เจ้าหัวหน้าอินทรชมภู, เจ้าหลวงอริยะและเจ้าหลวงมหาประเทศอุดรทิศ (ถึงแก่กรรมเมื่อปี 2448 สมัยรัชกาลที่ 5) ในปี พ.ศ. 2445 ได้เกิด “ขบถเงี้ยวเมืองแพร่” หรือ “ขบถ พ.ศ.121” ขึ้น พวกเงี้ยว (ไทยใหญ่กลุ่มหนึ่ง) ได้ก่อความวุ่นวายขึ้น “พกาหม่อง” นำพรรคพวกเงี้ยวเข้าปล้นเมืองแพร่, น่าน และพะเยา ซึ่งพระยาประเทศอุดรทิศรู้ตัวล่วงหน้าขอกำลังตำรวจจากเมืองลำปางมาป้องกันเมืองจนพวกเงี้ยวพ่ายแพ้และหนีไปต่อมาเปลี่ยนฐานะจาก “เมือง” เป็น “จังหวัด” เรียกว่า “จังหวัดบริเวณพะเยา” ต่อมาในปี พ.ศ. 2448 ยุบลงเป็น “อำเภอพะเยา” มีเจ้าเมืองได้รับพระราชทานสัญญาบัตรจากรุงเพทฯ คือ “เจ้าอุปราชมหาชัย ศีติสาร” ต่อมาในปี พ.ศ. 2457 ยุบเป็น “อำเภอพะเยา” ขึ้นอยู่ในการปกครองของจังหวัดเชียงราย โดยมี “นายคลาย บุษบรรณ” เป็นนายอำเภอคนแรก (ต่อมาได้รับบรรดาศักดิ์เป็น รองอำมาตย์โทขุนสิทธิประศาสน์)ในปี พ.ศ. 2520 โดยยกฐานะอำเภอพะเยาขึ้นเป็น “จังหวัดพะเยา” เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2520 เป็นจังหวัดที่ 72 ของ ประเทศ
อ้างอิง http://www.moc.go.th/opscenter/py/prawat.doc