ข้อที่น่าสังเกตเกี่ยวการการค้าสังคโลก
คือ เริ่มมีการค้าสังคโลกกับหัวเมืองชายทะเลในอ่าวไทยตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษ ที่ 19 เป็นอย่างน้อย และเรือที่พบส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นเรือใช้เดินทางระยะใกล้ ซึ่งคงจะเลียบชายฝั่ง
การขยายแหล่งเตาผลิตเครื่องปั้นดินเผาเห็นได้ชัดว่า เตาแม่น้ำน้อยผลิตภาชนะใช้สอยทั้งขนาดกลางเป็นสินค้าออกสำคัญ ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 20 ปรากฏว่าเครื่องถ้วยไทยในเรืออ่าวไทย 1 เทียบกับเครื่องถ้วยจีนและเวียดนามนับเป็นจำนวนชิ้นคือ 10,480 :4:276 แสดงให้เห็นถึงความเฟื่องฟูของการค้าเครื่องถ้วยไทยสมัยนี้สันนิษฐานว่า มีความนิยมในการใช้โถหรือตลับสำหรับบรรจุกระดูก นับเป็นสิ่งของที่ใช้ในพิธีกรรม ปรากฏว่าโถและตลับที่ขุดพบ ณ เมืองศรีพโล(เมืองโบราณน่าจะอยู่สมัยอยุธยาตอนต้นปัจจุบันอยู่บริเวณ วิทยาลัยพลศึกษาชลบุรีต.หนองไม้แดงอ.เมืองจ.ชลบุรี)นั้นเป็นของที่ใช้บรรจุ อัฐิแล้วฝังไว้
สรุปผลการศึกษาโบราณคดีใต้น้ำจากเรือสีชัง
หลักฐานทางโบราณคดีที่ช่วยยืนยันการค้าสังคโลกทางทะเลก็คือ ผลของการศึกษาโบราณคดีใต้น้ำจาก เรือสีชัง 3 โดยงานโบราณคดีใต้น้ำ กองโบราณคดี กรมศิลปากรร่วมกับ The Western Australian Maritime Museum พบว่าเรือสำเภาโบราณลำนี้มีความยาวตลอดลำเรือประมาณ 20 – 22 เมตร ปากเรือกว้าง 6 เมตร ระวางบรรทุก 16 ระวาง ลักษณะและขนาดเป็นเรือแล่นค้าขายตามชายฝั่งทะเลในน่านน้ำอ่าวไทย และตามลุ่มน้ำภาคกลางของประเทศไทย ออกไปค้าขายยังเมืองท่าทางภาคใต้เป็นครั้งสุดท้ายและอับปางเมื่อกลางพุทธศตวรรษที่ 22 ที่สำคัญคือ สินค้าหลักของเรือลำนี้ได้แก่ เครื่องปั้นดินเภาประเภทไหสี่หูเคลือบสีน้ำตาลขนาดต่าง ๆ จากแหล่งเตาลุ่มน้ำน้อย
นอกจากนี้มีเครื่องถ้วยลายน้ำเงินขาวของเวียดนามจะเห็นได้ว่าเครื่องปั้นดินเผาที่นิยมในชุมชนบ้านเมืองชายฝั่งจนมีการบรรทุกลงเรือส่งไปค้าขายจำนวนมากเป็นของใช้สามัญทั่วไป เช่น โอ่ง ไห หม้อ คนที กระปุก สินค้าประเภทนี้มีอยู่ในทุกลำเรือที่พบซากจมและมีอายุตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 22 เช่นซากเรือจมที่พบในอ่าวไทยพร้อมกับเครื่องสังคโลกนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรือสำเภาค้าขายกับชุมชนชายฝั่งหรือเมืองใกล้ทะเล ประมาณอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 20 –22 ยกเว้นสำเภาขนาดใหญ่ เช่น เรืออ่าวไทย 1 ซึ่งจมอยู่กลางอ่าวแสดงให้เห็นว่า ลูกค้าสำคัญของการค้าขายสังคโลกและเครื่องปั้นดินเผาเป็นชุมชนบ้านเมืองในอ่าวไทยและคาบสมุทรทางใต้