• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:1eb70ae0438c683af2100a025ec19e4a' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span style=\"background-color: #ff99cc; color: #0000ff\"><strong><u>โรคที่เด็กไทยส่วนใหญ่มักเผชิญในปัจจุบัน</u></strong></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><u>โรคเครียด</u></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u19642/53046headline.jpg\" style=\"width: 166px; height: 107px\" height=\"125\" width=\"125\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://www.healthy-buddy.com/images/news/2008-07-02/72_top.jpg\">http://www.healthy-buddy.com/images/news/2008-07-02/72_top.jpg</a>\n</p>\n<p>\nความเครียดสามารถเกิดได้ทุกแห่งทุกเวลาอาจจะเกิดจากสาเหตุภายนอกเช่น การย้ายบ้าน การเปลี่ยนงาน ความเจ็บป่วย การหย่าร้าง ภาวะว่างงานความสัมพันธ์กับเพื่อน ครอบครัว หรืออาจจะเกิดจากภายในผู้ป่วยเอง เช่นความต้องการเรียนดี ความต้องการเป็นหนึ่งหรือความเจ็บป่วยและความเครียดนั้นก็ชอบเกิดในช่วงของเด็กม.6เพราะในช่วงนี้เด็กม.6ทุกคนต่างก็กังวลว่าตัวเองจะสอบติดมหาลัยอะไร จะสอบติดมหาลัยที่ตัวเองฝันอยากจะเรียนไหม และต่างก็กังวลว่าถ้าตัวเองสอบไม่ติด พ่อแม่จะเสียใจไหม ล่ะจะเรียนที่ไหนต่อดี<br />\nความเครียดเป็นระบบเตือนภัยของร่างกายให้เตรียมพร้อมที่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การมีความเครียดน้อยเกินไปและมากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีมันก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นเร็ว แน่นท้อง มือเท้าเย็น แต่ความเครียดก็มีส่วนดีเช่น ความตื่นเต้นความท้าทายและความสนุก สรุปแล้วความเครียดคือสิ่งที่มาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตซึ่งมี่ทั้งผลดีและผลเสีย<br />\nชนิดของความเครียด<br />\n1. Acute stress คือความเครียดที่เกิดขึ้นทันทีและร่างกายก็ตอบสนองต่อความเครียดนั้นทันทีเหมือนกันโดยมีการหลั่งฮอร์โมนความเครียด เมื่อความเครียดหายไปร่างกายก็จะกลับสู่ปกติเหมือนเดิมฮอร์โมนก็จะกลับสู่ปกติ ตัวอย่างความเครียด <br />\n เสียง <br />\n อากาศเย็นหรือร้อน<br />\n ชุมชนที่คนมากๆ<br />\n ความกลัว<br />\n ตกใจ <br />\n หิวข้าว<br />\n อันตราย<br />\n2. Chronic stress หรือความเครียดเรื้อรังเป็นความเครียดที่เกิดขึ้นทุกวันและร่างกายไม่สามารถตอบสนองหรือแสดงออกต่อความเครียดนั้น ซึ่งเมื่อนานวันเข้าความเครียดนั้นก็จะสะสมเป็นความเครียดเรื้อรัง ตัวอย่างความเครียดเรื้อรัง<br />\n ความเครียดที่ทำงาน<br />\n ความเครียดที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล<br />\n ความเครียดของแม่บ้าน<br />\n ความเหงา<br />\nฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด<br />\nเมื่อมีภาวะกดดันหรือความเครียดร่างกายจะฮอร์โมนที่เรียกว่า cortisol และ adrenaline ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็วเพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายแข็งแรง และมีพลังงานพร้อมที่จะกระทำเช่นการวิ่งหนีอันตราย การยกของหนีไฟถ้าหากได้กระทำฮอร์โมนนั้นจะถูกใช้ไป ความกดดันหรือความเครียดจะหายไป แต่ความเครียดหรือความกดดันมักจะเกิดขณะที่นั่งทำงาน ขับรถ กลุ่มใจไม่มีเงินค่าเทอมลูก ความเครียดหรือความกดดันไม่สามารถกระทำออกมาได้เกิดโดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้ฮอร์โมนเหล่านั้นสะสมในร่างกายจนกระทั่งเกิดอาการทางกายและทางใจ\n</p>\n<p>\nผลเสียต่อสุขภาพ<br />\nความเครียดเป็นสิ่งปกติที่สามารถพบได้ทุกวัน หากความเครียดนั้นเกิดจากความกลัวหรืออันตราย ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจะเตรียมให้ร่างกายพร้อมที่จะต่อสู้ อาการทีปรากฏก็เป็นเพียงทางกายเช่นความดันโลหิตสูงใจสั่น แต่สำหรับชีวิตประจำวันจะมีสักกี่คนที่จะทราบว่าเราได้รับความเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่มีทางหลีกเลี่ยง การที่มีความเครียดสะสมเรื้อรังทำให้เกิดอาการทางกาย และทางอารมณ์ <br />\nโรคทางกายที่เกิดจากความเครียด<br />\nโรคทางเดินอาหาร <br />\nโรคปวดศีรษะไมเกรน<br />\nโรคปวดหลัง <br />\nโรคความดันโลหิตสูง<br />\nโรคหลอดเลือดสมอง<br />\nโรคหัวใจ <br />\nติดสุรา <br />\nโรคภูมิแพ้ <br />\nโรคหอบหืด <br />\nภูมิคุ้มกันต่ำลง<br />\nเป็นหวัดง่าย <br />\nอุบัติเหตุขณะทำงาน<br />\nการฆ่าตัวตายและมะเร็ง<br />\nผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากความเครียด<br />\n คุณมีความเครียดหรือไม่<br />\nถามตัวคุณเองว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่<br />\nอาการแสดงทางร่างกาย มึนงง ปวดตามกล้ามเนื้อ กัดฟัน ปวดศีรษะ แน่นท้อง เบื่ออาหาร นอนหลับยาก หัวใจเต้นเร็ว หูอื้อ มือเย็น อ่อนเพลีย ท้องร่วง ท้องผูก จุกท้อง มึนงง เสียงดังให้หู คลื่นไส้อาเจียน หายใจไม่อิ่ม ปวดท้อง<br />\nอาการแสดงทางด้านจิตใจ วิตกกังวล ตัดสินใจไม่ดี ขี้ลืม สมาธิสั้น ไม่มีความคิดริเริ่ม ความจำไม่ดี ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ<br />\nอาการแสดงทางด้านอารมณ์ โกรธง่าย วิตกกังวล ร้องไห้ ซึมเศร้า ท้อแท้ หงุดหงิด ซึมเศร้า มองโลกในแง่ร้าย นอนไม่หลับ กัดเล็บหรือดึงผมตัวเอง<br />\nอาการแสดงทางพฤติกรรม รับประทานอาหารเก่ง ติดบุหรี่สุรา โผงผาง เปลี่ยนงานบ่อย แยกตัว<br />\nการแก้ไขเมื่ออยู่ในภาวะที่เครียดมาก<br />\nหากท่านมีอาการเครียดมากและแสดงออกทางร่างกายดังนี้<br />\n อ่อนแรงไม่อยากจะทำอะไร <br />\n มีอาการปวดตามตัว ปวดศีรษะ <br />\n วิตกกังวล <br />\n มีปัญหาเรื่องการนอน <br />\n ไม่มีความสุขกับชีวิต <br />\n เป็นโรคซึมเศร้า <br />\nให้ท่านปฏิบัติตามคำแนะนำ 10 ประการ<br />\n1. ให้นอนเป็นเวลาและตื่นเป็นเวลา เวลาที่เหมาะสมสำหรับการนอนคือเวลา 22.00น.เมื่อภาวะเครียดมากจะทำให้ความสามารถในการกำหนดเวลาของชีวิต( Body Clock )เสียไป ทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับหรือตื่นง่าย การกำหนดเวลาหลับและเวลาตื่นจะทำให้นาฬิกาชีวิตเริ่มทำงาน และเมื่อความเครียดลดลง ก็สามารถที่จะหลับได้เหมือนปกติ ในการปรับตัวใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ บางครั้งเมื่อไปนอนแล้วไม่หลับเป็นเวลา 45 นาที ให้หาหนังสือเบาๆมาอ่าน เมื่อง่วงก็ไปหลับ ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งคือให้ร่างกายได้รับแสงแดดยามเช้า เพื่อส่งสัญญาณให้ร่างกายปรับเวลา <br />\n2. หากเกิดอาการดังกล่าวต้องจัดเวลาให้ร่างกายได้พัก เช่นอาจจะไปพักร้อน หรืออาจจะจัดวาระงาน งานที่ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วนก็ให้หยุดไม่ต้องทำ <br />\n3. ให้เวลากับครอบครัวในวันหยุด อาจจะไปพักผ่อนหรือรับประทานอาหารนอนบ้าน <br />\n4. ให้เลื่อนการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆในช่วงนี้ เช่นการซื้อรถใหม่ การเปลี่ยนบ้านใหม่ การเปลี่ยนงาน เพราะการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดความเครียด <br />\n5. หากคุณเป็นคนที่ชอบทำงานหรือชอบเรียนให้ลดเวลาลงเหลือไม่เกิน 40 ชม.สัปดาห์ <br />\n6. การรับประทานอาหารให้รับประทานผักให้มากเพราะจะทำให้สมองสร้าง serotonin เพิ่มสารตัวนี้จะช่วยลดความเครียด และควรจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ในปริมาณที่เพียงพอ <br />\n7. หยุดยาคลายเครียด และยาแก้โรคซึมเศร้า <br />\n8. ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และอาจจะมีการเต้นรำด้วยก็ดี <br />\nหากปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวแล้วยังมีอาการของความเครียดให้ปรึกษาแพทย์<br />\nข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเครียด<br />\n ความเครียดเหมือนกันทุกคนหรือไม่ สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดในแต่ละคนไม่เหมือนกันและการตอบสนองต่อความเครียดก็แตกต่างในแต่ละคน<br />\n ความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีจริงหรือไม่ ความเครียดเปรียบเหมือนสายกีตาร์ ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปเสียก็ไม่ไพเราะ เช่นกันเครียดมากก็มีผลต่อสุขภาพเครียดพอดีจะช่วยสร้างผลผลิต และความสุข<br />\n จริงหรือไม่ที่ความเครียดมีอยู่ทุกแห่งคุณไม่สามารถจัดการกับมันได้ แม้ว่าจะมีความเครียดทุกแห่งแต่คุณสามารถวางแผนที่จะจัดการกับงาน ลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วนของงานเพื่อลดความเครียด<br />\n จริงหรือไม่ที่ไม่มีอาการคือไม่มีความเครียด ไม่จริงเนื่องจากอาจจะมีความเครียดโดยที่ไม่มีอาการก็ได ้และความเครียดจะสะสมจนเกินอาการ<br />\n ควรให้ความสนใจกับความเครียดที่มีอาการมากๆใช่หรือไม่ เมื่อเริ่มเกิดอาการความเครียดแม้ไม่มากก็ต้องให้ความสนใจ เช่นอาการปวดศีรษะ ปวดท้องเพราะอาการเพียงเล็กน้อยจะเตือนว่าคุณต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินชีวิตเพื่อลดความเครียด<br />\n ความเครียดคือโรคจิตใช่หรือไม่ ไม่ใช่เนื่องจากโรคจิตจะมีการแตกแยกของความคิด บุคลิคเปลี่ยนไปไม่สามารถดำเนินชีวิตเหมือนคนปกติ<br />\n ขณะที่มีความเครียดคุณสามารถทำงานได้อีก แต่คุณต้องจัดลำดับก่อนหลัง และความสำคัญของงาน<br />\n ไม่เชื่อว่าการเดินจะช่วยผ่อนคลายความเครียด การเดินจะช่วยผ่อนคลายความเครียดนั้น<br />\n ความเครียดไม่ใช่ปัญหาเพราะเพียงแค่สูบบุหรี่ความเครียดก็หายไป การสูบบุหรี่หรือดื่มสุราจะทำให้ลืมปัญหาเท่านั้นนอกจากไม่สามารถแก้ปัญหาแล้วยังก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย<br />\nเมื่อใดต้องปรึกษาแพทย์<br />\n เมื่อคุณรู้สึกเหมือนคนหลงทางหาทางแก้ไขไม่เจอ<br />\n เมื่อคุณกังวลมากเกินกว่าเหตุ และไม่สามารถควบคุม<br />\n เมื่ออาการของความเครียดมีผลต่อคุณภาพชีวิตเช่น การนอน การรับประทานอาหาร งานที่ทำ ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้าง\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u19642/helth_pic1.jpg\" style=\"width: 160px; height: 188px\" height=\"365\" width=\"270\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://www.cwc.co.th/privilege/pic_privilege/helth_pic1.jpg\">http://www.cwc.co.th/privilege/pic_privilege/helth_pic1.jpg</a>\n</div>\n<p>\nแหล่งอ้างอิงข้อมูล : <a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/neuro/psy/stress/stress.htm\">http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/neuro/psy/stress/stress.htm</a>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><u></u></strong></p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>โรคอ้วน\n</p>\n<p align=\"center\">\n <img border=\"0\" src=\"/files/u19642/slide0058_image192.jpg\" style=\"width: 165px; height: 178px\" height=\"400\" width=\"304\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://www.student.chula.ac.th/~51373350/images/slide0058_image192.jpg\">http://www.student.chula.ac.th/~51373350/images/slide0058_image192.jpg</a>\n</p>\n<p>\nความอ้วนเกิดจากอะไร\n</p>\n<p>\n1. เกิดจากสาเหตุภายนอก เป็นสาเหตุใหญ่ที่เกิดโรคอ้วน เพราะตามใจปากมากเกินไป กินมากเกินความต้องการของร่างกาย อาหารที่กิน เนื้อ ไขมัน หรือแป้ง ของหวาน สิ่งเหล่านี้จะถูกเก็บสะสมไว้ในร่างกาย ถ้ามีมากเกินไปก็จะกลายเป็นไขมันพอกพูนตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ออกกำลังกายน้อย กินแล้วนอน <br />\n      • นิสัยในการรับประทาน คนที่มีนิสัยการรับประทานที่ไม่ดี เรียกว่า กินจุบกินจิบไม่เป็นเวลา <br />\n  • ขาดการออกกำลังกาย ถ้ารับประทานอาหารมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ แต่ได้ออกกำลังกายบ้างก็อาจทำให้อ้วนช้าลง แต่หลายคนไม่ได้ยืดเส้นยืดสาย ไม่ช้าจะเกิดการสะสมเป็นไขมันในร่างกาย <br />\n <br />\n  2. มาจากสาเหตุภายใน พบได้จากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น ต่อมใต้สมอง ต่อไทรอยด์ ทำให้มีไขมันตามบริเวณต้นแขน ต้นขา และหน้าท้อง <br />\n      • จิตใจและอารมณ์ มีคนเป็นจำนวนไม่น้อยที่การกินอาหารขึ้นอยู่กับจิตใจและอารมณ์ เช่น กินดับความโกรธ ดับความคับแค้นใจ กลุ้มใจ กังวลใจ หรือดีใจ บุคคลเหล่านี้ จะรู้สึกว่าอาหารที่ทำให้จิตใจสงบ จึงหันมายึดเอาอาหารไว้เป็นที่พึ่งทางใจ ตรงกันขามกับบางคนกลุ้มใจเสียใจก็กินไม่ได้ นอนไม่หลับ <br />\n  • ความไม่สมดุลระหว่างความรู้สึกอิ่มกับความหิว เมื่อใดที่ความอยากเพิ่มขึ้น เมื่อนั้นการกินก็จะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งถึงขั้นเรียกว่า กินจุ ในที่สุดก็อ้วนเอาๆ <br />\n <br />\n  3. เพราะกรรมพันธุ์ ซึ่งพบได้น้อย กรรมพันธุ์นี้พิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าพ่อและแม่อ้วนทั้งสองคน ลูกจะมีโอกาสอ้วนได้ถึงร้อยละ 80 ถ้าพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งอ้วน ลูกมีโอกาสอ้วนได้ถึงร้อยละ 40 <br />\n  4. โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันสูง <br />\n  5. จากการกินยาบางชนิด ก็ส่งผลกระทบให้อ้วน ผู้ป่วยบางโรคได้รับฮอร์โมนสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ก็ทำให้อ้วนได้ และในผู้หญิงที่ฉีดยาหรือกินยาคุมกำเนิดก็ทำให้อ้วนง่ายเช่นกัน <br />\n  6. เพศ เพศหญิงนั้นมักอ้วนกว่าเพศชาย ก็ธรรมชาติเธอมักสรรหาจะกิน กิน และกิน ตลอดเวลา อีกทั้งตอนตั้งครรภ์ ก็ต้องกินมากขึ้น เพื่อบำรุงร่างกายและลูกน้อยในครรภ์ แต่หลังจากคลอดลูกแล้ว บางรายก็ลดน้ำหนักลงมาได้ แต่บางรายก็ลดไม่ได้ ผู้หญิงทำงานน้อย ออกกำลังน้อยกว่าชาย ผู้หญิงอ้วนมากกว่าผู้ชาย 4 : 1\n</p>\n<p>\nอายุ เมื่อมากขึ้น โอกาสโรคอ้วนถามหาก็ง่ายขึ้น เนื่องจากพออายุมาก มีความเชื่องช้า ใช้พลังงานน้อยลง กินมากกว่าใช้ หญิงและชายที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป มักจะอ้วนง่าย เพราะคนวัยนี้ ยังอยู่ในวัยทำงานมาก กินมากขึ้นเพื่อชดเชยกำลังงานที่ถูกใช้ไป คนมีสุขภาพจิตดีมักมีรูปร่างสมส่วนแข็งแรง บางคนสุขภาพจิตไม่ดี อารมณ์เครียดเป็นประจำ ทำให้เกิดความท้อถอย เบื่อหน่าย ขี้เกียจออกกำลัง โรคอ้วนก็จะถามหา\n</p>\n<p>\nโรคที่พบบ่อยในคนอ้วน\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u19642/obesity02.jpg\" style=\"width: 262px; height: 164px\" height=\"318\" width=\"424\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://drnui.com/health/obesity02.jpg\">http://drnui.com/health/obesity02.jpg</a>\n</p>\n<p>\nภายในเรือนร่างที่ฉาบทาด้วยความอุดมสมบูรณ์ ตามความคิดผู้ที่ไม่รู้ แต่โรคผู้มีอันจะกินนี้ มักจะรวบรวมพรรคพวกไว้มากมาย ล้วนแต่โรคเด็ดๆ ทั้งนั้น\n</p>\n<p>\n  1. ไขมันในเลือดสูง ซึ่งนำไปสู่ความผิดปกติของระบบอื่นๆ โดยเฉพาะเมื่อเจ้าเม็ดไขมันไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ยิ่งหนามากขึ้นๆ ถนนของเจ้าเลือดก็เดินไม่สะดวกตามไป ก็เลือดต้องไปหล่อเลี้ยงเซลล์ทุกส่วนของร่างกาย และเราก็ขาดเลือดไม่ได้ แน่นอนจะมีปัญหาต่อสุขภาพตามมาอีกมาก ทั้งโรคหัวใจวาย ความดันโลหิตสูง เหนื่อยหอบ มึนงงบ่อยๆ เป็นลม เมื่อเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายไม่ดี เซลล์ก็เสื่อมโทรมลง อนุมูลอิสระก็เกิดเร็วขึ้น ทีนี้แหละ แก่เร็วอย่างเห็นได้ชัด <br />\n  2. ความดันโลหิตสูง เมื่อไขมันเคลือบผนังหลอดเลือด บางจุดอาจตีบมาก หัวใจมีหน้าที่เหมือนปั๊มน้ำ ก็ต้องขับดันเลือดวิ่งไปให้ทั่วร่างกายทุกซอกทุกมุม เมื่อบางจุดโดนบีบให้แคบ แต่ร่างกายต้องการเลือด มันอาจออกแรงผลักดันเลือด อาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตก ถึงแก่ชีวิต หรือพิการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ <br />\n  3. โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของประเทศอุตสาหกรรม รวมทั้งประเทศไทยด้วย เนื่องจากไขมันไปเกาะตามผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดตีบหรืออุดตัน หัวใจทำงานเพิ่มมากขึ้น ถ้าเป็นกับเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงหัวใจก็ทำให้เกิดโรคหัวใจขาดเลือด และหัวใจวาย <br />\n  4. โรคเบาหวาน พบว่าคนไทยเป็นเบาหวานกันประมาณ 3 ล้านคน ลองคิดดูว่าไม่น้อย วันหน้าถ้ายังใช้ชีวิตเผอเรอ มีหวังได้เป็นเบาหวานด้วยอีกคน โรคนี้เป็นเพื่อนคู่ซี้กับโรคอ้วน ที่มักพบควบคู่กันเสมอ เบาหวานนั้นเพราะระบบควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายผิดปกติ เมื่อเป็นเบาหวานแล้ว ถ้าเกิดเป็นแผลก็มักรักษาไม่หาย กลายเป็นแผลเรื้อรัง บางทีก็เป็นแผลกดทับ ประกอบกับเสี่ยงต่อการติดเชื้อราง่ายขึ้น เพราะมีการอับชื้นของซอกแขน และซอกขามากกว่าปกติ <br />\n  5. โรคข้อกระดูกเสื่อม โดยเฉพาะข้อเข่าและข้อเท้า เนื่องจากต้องรับน้ำหนักตัวมากเกินพิกัด บางคนที่อ้วนมากๆ อาจจะยืนหรือเดินไม่ได้เลย เพราะข้อเท้าไม่สามารถรับน้ำหนักได้ คนอ้วนมากๆ จะเดินก็ลำบาก โยกเยกซ้ายขวา เดินไปเหนื่อยหอบไป <br />\n  6. โรคระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากในคนอ้วนมักมีการเคลื่อนไหวน้อย ชอบนั่งหรือนอน ปอดจึงขยายตัวไม่เต็มที่ ทำให้เกิดการติดเชื้อของทางเดินหายใจได้มากขึ้น บางครั้งถึงกับมีภาวะการหายใจลดลง หายใจติดขัด ทำให้มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์คั่งในปอด คนอ้วนมากเหนื่อยง่าย ง่วงนอนตลอดเวลา อาจพบภาวะของโรคอารมณ์เศร้าหมองร่วมไปด้วยก็กิน ซึ่งอาจจะช่วยให้อารมณ์ช่วงนั้นดีขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการทำร้ายตัวเองมากยิ่งขึ้น <br />\n  7. โรคมะเร็งบางชนิด คนอ้วนมีอัตราการเสี่ยงต่อการเป็นโรคต่างๆ รวมทั้งโรคมะเร็งได้ <br />\n  8. โรคนิ่วในถุงน้ำดี และไขมันแทรกในตับ เมื่อมีไขมันมาก การทำงานของตับก็ลดลง เพราะไขมันเข้าไปแทรกอยู่ จนทำให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดี\n</p>\n<p>\nเมื่อลูกคุณอ้วนจะทำอย่างไรดี\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u19642/obesityjc31_400x300.jpg\" style=\"width: 229px; height: 140px\" height=\"300\" width=\"400\" /> \n</p>\n<p align=\"center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://www.thaihealth.or.th/files/images/obesityjc31_400x300.jpg\">http://www.thaihealth.or.th/files/images/obesityjc31_400x300.jpg</a>\n</p>\n<p>\nมองไปทางไหน ทางไหน ก็จะเห็นว่าเด็กไทยเราอุดมสมบูรณ์ ออกจะอ้วนๆ ท้วมๆ กันมากขึ้น สมัยก่อนเราอาจมองว่า เด็กอ้วนเป็นเด็กน่าเอ็นดู น่ารัก เลี้ยงง่าย กินง่าย แต่เด็กเหล่านี้ โตกลายเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วน ก็อาจมีปัญหาสุขภาพตามมาได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเส้นเลือดสมองแตก โรคมะเร็งบางชนิด และโรคข้อกระดูก\n</p>\n<p>\nเด็กที่มีน้ำหนักเกิน มักมีความเสี่ยงของโรคหัวใจ อย่างน้อย 1 อย่าง เช่น มีระดับโคเลสเตอรรอลสูง ระดับไตรกรีเซอร์ไรด์สูง ระดับอินซูลินสูง มีความดันโลหิตสูง เป็นต้น ซึ่งล้วนดูเหมือนเป็นสิ่งที่ไกลตัว เกินกว่าที่เด็กเล็กๆ หรือวัยรุ่นจะมาห่วง แต่ปัญหาอื่นๆ จากความอ้วนที่อาจมีผล หรือ &quot;อาการ&quot; ที่เด่นชัดมากขึ้น เช่น ปัญหานอนกรน หรือ sleep apnea (เด็กจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ ขณะนอน) ปัญหาการทรงตัว หรือเคลื่อนไหวร่างกาย และอาจแตกเนื้อหนุ่มสาวเร็วกว่าวัย เด็กหญิงที่มีประจำเดือนเร็ว จะมีระดับเอสโตรเจนสูง ในระยะเวลาที่นานกว่า ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งเต้านม และมะเร็งในรังไข่เมื่ออายุมากขึ้น\n</p>\n<p>\nที่น่าเป็นห่วงมากคือ เด็กที่อ้วนจะมีโอกาสเกิดภาวะต้านอินซูลิน ซึ่งเป็นภาวะก่อนเบาหวาน ประเภทที่ 2 หรือเบาหวานในผู้ใหญ่ได้มาก เรามักพบผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกิน หรืออ้วนเป็นเบาหวานกัน แต่ในปัจจุบันเราพบเบาหวานชนิดนี้ เกิดขึ้นในเด็กและวัยรุ่นกันมาก ซึ่งโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน ก็อาจเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นด้วย\n</p>\n<p>\nนอกจากสุขภาพทางกายแล้ว เด็กที่อ้วนอาจเจอกับภาวะทางจิตใจด้วย เช่น เด็กอ้วนอาจขาดความมั่นใจในตนเอง ไม่ชอบรูปร่างของตน อาจถูกเพื่อนล้อและแกล้ง และอาจแยกตนเองออกจากเพื่อนฝูง ครู และครอบครัว\n</p>\n<p>\nทำไมเด็กไทยเราจึงอ้วนขึ้นมาก?\n</p>\n<p>\nคำตอบคงจะไม่ได้มีแค่เหตุผลเดียวเท่านั้น แต่ประวัติครอบครัว การขาดการออกกำลังกาย และการมีพฤติกรรมการกินอยู่ ที่ไม่เหมาะสม ล้วนเป็นเหตุที่ทำให้เด็กมีปัญหา น้ำหนักเกินทั้งสิ้น เด็กที่มีผู้ปกครองท่านใดท่านหนึ่ง หรือทั้งสองท่านอ้วน มีความเสี่ยงต่อความอ้วนมากขึ้น ซึ่งสาเหตุอาจเป็นกรรมพันธุ์ หรือพฤติกรรม หรือทั้งสองอย่างเลยก็ได้ เด็กมักจะเลียนแบบพฤติกรรมต่างๆ จากผู้ปกครองที่บ้าน การรับประทานจุบจิบบ่อยๆ การรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา การขาดการออกกำลังกาย การได้รับแคลอรีมากไป เป็นผลทำให้น้ำหนักเกินได้ทั้งสิ้น\n</p>\n<p>\nแต่ก็ใช่ว่ากรรมพันธุ์ จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าจะต้องอ้วนไปตลอดชีวิต เด็กจะ &quot;ผอม&quot; ลงได้ ในช่วงที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่าช่วงยืดตัว ดังนี้เด็กที่อ้วน ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วนเสมอไป แต่ถึงอย่างไรก็ดี ถ้าเด็กไม่มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง โดยเฉพาะการเพิ่มการออกกำลังกาย และรับประทานอาหารให้สมดุล ก็อาจมีความเสี่ยงของโรคอ้วน เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ได้ ดังนี้ การชี้แจงเรื่องน้ำหนักตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการป้องกันภาวะอ้วน \n</p>\n<p>\nข้อแนะนำสำหรับเด็กที่มีน้ำหนักเกิน คือ\n</p>\n<p>\n  • ชะลอการขึ้นของน้ำหนักตัว โดยที่ยังให้มีการเจริญเติบโตด้านความสูงต่อไป  <br />\n  • ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด ถ้าพบว่ามีค่าผิดปกติ ที่มีความเสี่ยงของโรคเบาหวาน แพทย์อาจแนะนำให้ลดน้ำหนักลงบ้าง เพื่อเป็นการป้องกัน และอย่าลืมว่า โปรแกรมการลดน้ำหนักสำหรับผู้ใหญ่ ไม่เหมาะสำหรับเด็ก จึงไม่สมควรนำมาใช้ให้เด็กปฏิบัติตาม  <br />\nอาหารที่เด็กมีน้ำหนักเิกินรับประทาน ส่วนใหญ่เป็นอาหารประเภทจานเดียว ที่ขาดสีสัน นั่นคือ ผักและผลไม้ และเด็กจะรับประทานอาหารจุบจิบบ่อย ที่มีแป้งและไขมันสูง ซึ่งมีส่วนทำให้ได้รับแคลอรีเกินได้ง่ายๆ นอกจากนี้ต้องดูด้วยว่า ดื่มเครื่องดื่มจำพวกน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ นมเปรี้ยวบ่อยมากน้อยแค่ไหน เพราะเครื่องดื่มก็เป็นตัวเพิ่มแคลอรีได้ง่ายเช่นกัน ร่วมกับการที่ไม่ออกกำลังกายทุกวัน จึงส่งผลให้น้ำหนักเกินได้\n</p>\n<p>\nข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ของเด็กที่มีน้ำหนักเกิน มีดังนี้\n</p>\n<p>\n  • เลี่ยงการควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทาน การคุมมากเกินไปอาจส่งผลในทางตรงกันข้าม นั่นคือ เพิ่มความอยาก อาจทำให้เด็กต้อง &quot;แอบ&quot; กิน และรู้สึกแย่ภายหลัง  <br />\n  • ปล่อยให้ลูกกินอาหารมากเท่าที่อยากจะกิน ฟังดูแล้วผู้ปกครองอาจคิดว่า การทำเช่นนี้จะไม่ทำให้เด็กอ้วนขึ้นหรือ? ข้อนี้อาจจะทำได้ยากสักนิด แต่ผู้ปกครองควรอดทน การที่ผู้ปกครองเป็นผู้กำหนดปริมาณอาหาร ที่ลูกควรรับประทาน จะทำให้ลูกไม่ได้เรียนรู้ วิธีการควบคุมความอิ่มของตนเอง เมื่อไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง เด็กอาจรับประทานมากเกิน เพราะเขาไม่สามารถรับรู้ถึงสัญญาณความอิ่มของตน  <br />\n  • ให้ทุกคนในครอบครัว หันมาใส่ใจรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะทำให้เด็กไม่รู้สึกแตกต่างจากผู้อื่น  <br />\n  • ตักอาหารใส่จานลูก ในสัดส่วนปริมาณของเด็ก ไม่ใช่ปริมาณที่ผู้ใหญ่รับประทานกัน ถ้าหิว สามารถขอเพิ่มได้  <br />\n  • เลิกให้รางวัลเป็นขนม  <br />\n  • อาหารทุกอย่างสามารถเข้ามาอยู่ใน แบบแผนการรับประทานได้ เลี่ยงการกำหนอดว่า อาหารนี้ดี-ไม่ดี ผู้ปกครองควรสอนให้ลูก รู้จักเลือกรับประทานอาหาร เพื่อให้ได้สารอาหารที่สมดุล ถึงแม้ว่าจะมี &quot;อาหารไม่ดี&quot; บ้าง  <br />\n  • ผู้ปกครองอย่าซื้อขนมมาตุนเอาไว้ที่บ้านเยอะๆ เพราะถ้าเห็นก็จะเพิ่มความอยากทั้งที่ไม่หิว  <br />\n  • ข้อควรระวัง : เด็กอาจบอกว่าหิว แต่จริงๆ แล้วเขาเบื่อหรืออยากได้ความสนใจ พ่อแม่อาจให้ลูกรับประทานของว่างเป็นผลไม้ ถ้าลูกส่ายหนัาไม่เอา แสดงว่าเขาเบื่อไม่ใช่หิว ผู้ปกครองอาจชวนลูก ออกไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแทน  <br />\n  • รับประทานอาหารให้เป็นเวลา รวมทั้งมื้อว่างด้วย คุณพ่อคุณแม่อาจพกอาหารว่าง ที่ดีมีประโยชน์สำหรับลูกติดตัวไป เวลาไปรับลูกที่โรงเรียน จะได้เลี่ยงการซื้อขนมหน้าโรงเรียน  <br />\n  • กำหนดให้ทุกคนในครอบครัว รับประทานอาหารที่โต๊ะอาหารเท่านั้น (รวมทั้งมื้อว่างด้วย) และไม่ควรเปิดโทรทัศน์ ขณะรับประทาน เด็กจะตั้งใจรับประทาน ซึ่งส่งผลให้เด็กรับทราบถึง สัญญาณความอิ่มได้ดีกว่า และคงจะกินน้อยกว่าด้วย  <br />\n  • จำกัดเวลาดูโทรทัศน์ไม่ให้เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน รวมทั้งเวลาที่นั่งเล่นเกมส์ และคอมพิวเตอร์ด้วย ของทั้ง 3 อย่างนี้ ทำให้เด็กไม่ได้ออกไปเล่นใช้กำลัง \n</p>\n<p>\nโดยทั่วไปแล้ว อาหารที่เด็กๆ ชอบรับประทาน มักมีคุณค่าทางอาหารต่ำ แต่มีพลังงาน (แคลอรี) สูง เพื่อให้เด็กได้รับประทานอาหารที่มีคุณค่า ควรเลือกอาหารเหล่านี้ติดบ้านไว้ <br />\nบ่อยหน่อย ไม่บ่อย <br />\nผักที่มีสีสัน มันเทศ มันต้ม เฟรนซ์ฟราย  <br />\nขนมปังแผ่น โดนัท ขนมเบเกอรี เพซทร <br />\nขนมปังกรอบ คุกกี้ เค้ก <br />\nข้าวโพดคั่ว pretzel มันฝรั่งทอดกรอบ <br />\nปลาเส้น สาหร่าย ข้าวเกรียบ ขนมถุงต่างๆ <br />\nนมจืดพร่องไขมัน หรือน้ำผลไม้ 100% น้ำอัดลม น้ำหวาน <br />\nผลไม้ ผัก ลูกอม เยลล <br />\nโยเกิตรสผลไม้ ไอศกรีม <br />\nไก่ย่าง ไก่อบ  ไก่ทอด ไก่นักเก็ต \n</p>\n<p>\nการที่เด็กได้เรียนรู้การกินอาหารที่มีประโยชน์ โดยที่พ่อแม่ไม่ห้ามจนเกินไป และปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างที่ดี จะช่วยให้เด็กเจริญเติบโตด้านความสูงต่อไป แต่ชะลอการขึ้นของน้ำหนักได้ และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องชวนลูก ฝึกการออกกำลังกายให้เป็นนิสัยด้วย\n</p>\n<p>\nการที่เด็กไม่ค่อยมีกิจกรรมการออกกำลังกายมากนัก นอกเหนือจากในชั่วโมงเรียนพละ สัปดาห์ละแค่ 2 ชั่วโมง แถมยังใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งเล่นเกมส์ และดูทีวี ถือว่าได้ออกกำลังกายน้อยเกินไปสำหรับเด็กในวัยนี้ สิ่งสำคัญของการมีกิจกรรม หรือการออกกำลังกายสำหรับเด็กวัยนี้ คือโอกาสที่เด็กได้เล่นตามประสาเด็ก (วิ่งเล่น กระโดด ปีนป่าย เป็นต้น) และกิจกรรมนั้นต้องสนุก น่าสนใจ ซึ่งจะทำให้เด็กรักและชอบการออกกำลังกาย นอกจากนี้เด็กจะได้เจอกับเพื่อนๆ หรืออาจจะได้พบเพื่อนใหม่ โดยผลที่ได้จากการมีกิจกรรมในลักษณะนี้ นอกเหนือจากประโยชน์ทางสุขภาพที่ดีแล้ว ยังทำให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นอยู่เสมอ ได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ ในสังคม เป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญ ทำให้เมื่อเด็กโตขึ้น จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ ซึ่งคนที่มีส่วนสำคัญ ในการช่วยส่งเสริมให้เด็กได้มีกิจกรรม ในการออกกำลังกายนี้ได้ดีที่สุด คือคุณพ่อ คุณแม่ และคุณครูที่โรงเรียน\n</p>\n<p align=\"center\">\n <img border=\"0\" src=\"/files/u19642/images.jpg\" height=\"124\" width=\"79\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://women.sanook.com/story_picture/m/14900_002.jpg&amp;imgrefurl=http://learners.in.th/blog/saowaluk-sha/126672&amp;usg=__GVPPKuLetAX9QlOpg_eFgsKJhfs=&amp;h=393&amp;w=250&amp;sz=24&amp;hl=th&amp;start=39&amp;tbnid=wWG9uRwPWoY7UM:&amp;tbnh=124&amp;tbnw=79&amp;prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2599%26gbv%3D2%26ndsp%3D20%26hl%3Dth%26sa%3DN%26start%3D20\">http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://women.sanook.com/story_picture/m/14900_002.jpg&amp;imgrefurl=http://learners.in.th/blog/saowaluk-sha/126672&amp;usg=__GVPPKuLetAX9QlOpg_eFgsKJhfs=&amp;h=393&amp;w=250&amp;sz=24&amp;hl=th&amp;start=39&amp;tbnid=wWG9uRwPWoY7UM:&amp;tbnh=124&amp;tbnw=79&amp;prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2582%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2599%26gbv%3D2%26ndsp%3D20%26hl%3Dth%26sa%3DN%26start%3D20</a>\n</p>\n<!--pagebreak--><!--pagebreak--><p>\nเทคนิคการลด 100 แคลอรี่ ใน 1 วัน\n</p>\n<p>\nสาเหตุของการควบคุมน้ำหนักไม่ได้นั้น เป็นเพราะขาดความเสมอต้นเสมอปลาย ขาดวินัย เพลิดเพลินกับการกินชนิดกู่ไม่กลับ แต่ที่จริงการคุมน้ำหนักนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด มีความมุ่งมั่นจริง เรื่องนี้สำคัญที่สุด ไม่อย่างนั้นต่อให้โปรแกรมดีขนาดไหน คุณก็ลดน้ำหนักไม่สำเร็จ\n</p>\n<p>\nกินมื้อเช้าทุกวัน อาหารเช้าเป็นมื้อสำคัญที่สุด เพราะช่วยให้ระบบเผาผลาญไม่ขี้เกียจทำงาน แต่การไม่กินอาหารเช้า จะทำให้ร่างกายไม่ใช้พลังงานส่วนนี้ จึงปรับตัวลดระบบเผาผลาญลง ทำให้แม้เรากินน้อย ก็อ้วนได้ เพราะประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารอืดอาดเสียแล้ว การกินอาหารเช้าสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันไม่ให้อ้วนง่าย ลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนที่ไม่กินอาหารเช้า และสำหรับคนที่ลดแล้วก็จะคงน้ำหนักตัวได้ง่าย\n</p>\n<p>\nอาหารเช้าไม่ควรอุดมด้วยไขมัน เช่น ปาท่องโก๋ คุกกี้ เค้ก โดนัท พาย กาแฟ แต่ควรเลือกจากอาหารหลัก 5 หมู่ เช่น ข้าวต้มเครื่อง โจ๊ก ก๋วยเตี๋ยวน้ำ เกี๊ยวน้ำ ตามด้วยนม ผลไม้สด หรือน้ำผลไม้แท้ หรือ อาหารง่ายๆ อย่างนมถั่วเหลืองผสมธัญพืช ตามด้วยผลไม้ หรือโยเกิร์ตสักถ้วยกินกับแครกเกอร์ 5 - 6 แผ่นเล็ก ก็สะดวกดี\n</p>\n<p>\nเลิกคิดเสียทีว่าไม่มีเวลาออกกำลังกาย ลองแบ่งเวลาที่ไม่เป็นประโยชน์ มาให้กับการกินเป็นเวลา และออกกำลังกาย สภาพร่างกายคุณจะดีขึ้นอีกเยอะ ช่วยหนีความอ้วนได้ไม่ยาก\n</p>\n<p>\nคุมสัดส่วนอาหาร อยากลองของแปลกใหม่ที่อร่อยๆ ก็ลองได้ แต่ต้องคุมปริมาณอย่าให้มากเกินไป มื้อไหนกินเยอะก็ลดมื้อถัดไป หรือใช้แรงให้มากขึ้น ออกกำลังกายให้มากขึ้น หรือวันต่อไป กินน้อยลง โดยเฉลี่ยทั้งสัปดาห์แล้ว ได้แคลอรีไม่มากเกินไป\n</p>\n<p>\nหลักง่ายๆ คือ กินข้าวหรือเส้นหรือแป้ง 1/4 เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ 1/4 กินผัก1/2 ของจาน แซมด้วยผลไม้และผลิตภัณฑ์นมตบท้าย หรือจะใช้เป็นอาหารระหว่างมื้อ เพื่อกระจายการกินออกไปตลอดทั้งวัน ไม่อัดแน่นในมื้อเดียวให้ระบบย่อยต้องทำงานหนัก\n</p>\n<p>\nอ่านข้อมูลโภชนาการ ที่ฉลากอาหาร จะช่วยให้จ่ายเงินได้คุ้มค่า อาหารสำเร็จรูปส่วนใหญ่จะบอกจำนวนแคลอรี ปริมาณคาร์โบไฮเดรต โปรตีนไขมันชนิดต่างๆ คอเลสเทอรอล ใยอาหาร น้ำตาล และโซเดียมให้ทราบอยู่แล้วอย่ามองข้ามแคลอรีเล็กๆ น้อยๆ\n</p>\n<p>\nตามหลักเกณฑ์ในการลดน้ำหนัก ถ้าลดเร็วก็เพิ่มเร็ว เพราะเวลาลดได้ก็จะขาดวินัยในการกิน โดยทฤษฏีบอกว่า ถ้าลดพลังงานได้วันละ 500 กิโลแคลอรีจากที่รับประทานปกติ จะช่วยลดน้ำหนักได้สัปดาห์ละ 1/2 กิโลกรัม  \n</p>\n<p>\nแต่ถ้าไม่เร่งรีบก็อาจลดแคลอรีวันละ 100 กิโลแคลอรี ก็จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้แบบสบายๆ แต่อาจต้องใช้เวลา 5 สัปดาห์ ต่อการลดครึ่งกิโลกรัม ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่า ลดได้น้อยมาก แต่ถ้าทำได้ทั้งปี จะช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ประมาณ 4.5 กิโลกรัม ซึ่งดีต่อสุขภาพในระยะยาว\n</p>\n<p>\nถ้าไม่อยากลดอาหาร มีอีกทางเลือก คือ ใช้พลังงานเพิ่มขึ้นจากปกติวันละ 100 กิโลแคลอรี โดยคุมปริมาณอาหารให้คงที่ <br />\nเทคนิคลด100 แคลอรี่ในแต่ละวัน\n</p>\n<p>\n  1. จากที่เคยทาขนมปังด้วยเนย 2 ช้อนโต๊ะ (200 กิโลแคลอรี) ใช้แยมแทน 1 ช้อนโต๊ะ (100 กิโลแคลอรี) หรือถ้าใช้เนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ ก็จะได้คุณค่าทางอาหารที่ดีเพิ่มข้น คือได้โปรตีนและไขมันที่ดีแทนที่จะได้คาร์โบไฮเดรตล้วนๆ  <br />\n  2. หากอาหารเช้าของคุณเป็นแบบสไตล์อเมริกัน ให้งดเบคอน (3 ชิ้น = 109 กิโลแคลอรี) หรือชีส (1 แผ่น = 105 กิโลแคลอรี) <br />\n  3. เลือกปลาทูน่าสเต็กในน้ำเกลือ (ขนาด 168 กรัม = 175 กิโลแคลอรี) แทนปลาทูน่าในน้ำมัน (275 กิโลแคลอรี)  <br />\n  4. ถ้าคุณเป็นคนรับประทานข้าวมาก ให้ลดข้าว 1 ทัพพี (1/2 ถ้วยตวง = 108 แคลอรี)  <br />\n  5. หากรับประทานถั่วเม็ดมะม่วง ให้จำกัดปริมาณไว้เพียง 3 ช้อนโต๊ะ (18 เม็ด = 163 กิโลแคลอรี 30 เม็ด = 273 กิโลแคลอรี) หรือลดปริมาณทองหยิบลง 1 ดอก (105 แคลอรี)  <br />\n  6. หากคุณจำเป็นต้องเลือกอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด อย่าเลือกเครื่องดื่มน้ำอัดลมขนาดใหญ่ (ขนาด 21 ออนซ์ 210 กิโลแคลอรี) เลือกขนาดเล็กของเด็กแทน (ขนาด 12 ออนซ์ = 110 กิโลแคลอรี)  <br />\n  7. เปลี่ยนจากน้ำสลัดชนิดครีม 2 ช้อนโต๊ะ (ช้อนละ 75-100 แคลอรี) เป็นน้ำสลัดประเภทไขมันต่ำ หรือประเภทน้ำใส 2 ช้อนโต๊ะ\n</p>\n<p>\nแหล่งอ้างอิงข้อมูล : <a href=\"http://www.yourhealthyguide.com/article/topic-fat.html\"><u><span style=\"color: #810081\">http://www.yourhealthyguide.com/article/topic-fat.html</span></u></a>\n</p>\n<p>\nโรคเบาหวาน\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u19642/baowwan.jpg\" height=\"95\" width=\"130\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/325/5325/images/sick1.jpg&amp;imgrefurl=http://www.oknation.net/blog/print.php%3Fid%3D76950&amp;usg=__5wIEaQf7ROdlBt3gcdFNnGKo1jQ=&amp;h=360&amp;w=494&amp;sz=42&amp;hl=th&amp;start=1&amp;tbnid=BjRUSjaQ55SCeM:&amp;tbnh=95&amp;tbnw=130&amp;prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%26gbv%3D2%26hl%3Dth\">http://images.google.co.th/imgres?imgurl=http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/325/5325/images/sick1.jpg&amp;imgrefurl=http://www.oknation.net/blog/print.php%3Fid%3D76950&amp;usg=__5wIEaQf7ROdlBt3gcdFNnGKo1jQ=&amp;h=360&amp;w=494&amp;sz=42&amp;hl=th&amp;start=1&amp;tbnid=BjRUSjaQ55SCeM:&amp;tbnh=95&amp;tbnw=130&amp;prev=/images%3Fq%3D%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%26gbv%3D2%26hl%3Dth</a>\n</p>\n<p>\nปัจจุบัน โรคเบาหวาน เป็นปัญหาทางสาธารณสุขสำคัญระดับชาติ ที่ทุกฝ่ายควรร่วมมือกันหาทางป้องกัน และแก้ไข ขณะนี้ มีผู้เป็นโรคเบาหวานประมาณ 1,700,000 คนในประเทศไทย หรือประมาณเกือบร้อยละ 3 ของประชากร และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกกลุ่มอายุ\n</p>\n<p>\nโรคเบาหวาน เป็นสาเหตุสำคัญอันดับแรก ที่ทำให้เกิดโรคไตวายเรื้อรัง นอกจากนี้ ยังเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดโรคของหลอดเลือดตีบตันได้ ในทุกส่วนของร่างกาย เช่น โรคอัมพฤกษ์ อัมพาตจากเส้นโลหิตสมองตีบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด จากเส้นเลือดหัวใจตีบ โรคเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงปลายมือปลายเท้าอุดตัน และยังเป็นสาเหตุของตาบอด จากทั้งเบาหวานขึ้นตา และต้อกระจกอีกด้วย\n</p>\n<p>\nอาหารประเภทฟาสต์ฟูดจากตะวันตก ก็มีส่วนทำให้เกิดความอ้วนได้ง่าย และจะนำมา ซึ่งสาเหตุการเพิ่มจำนวนของเบาหวาน ที่เกิดขึ้นกับเด็ก เมื่อเร็วๆ นี้ ทางคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รายงานว่า จากจำนวนเด็ก 200 คน ส่วนใหญ่อายุต่ำกว่า 15 ปี ตรวจพบว่าเป็นเบาหวานประเภทที่ 1 (เบาหวานที่เกิดขึ้นฉับพลัน และต้องใช้อินซูลิน) เพิ่มทุกปี\n</p>\n<p>\nจากการสำรวจยังพบว่า เด็กอายุระหว่าง 8 – 12 ปี จำนวนมาก เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 (เบาหวานที่เกิดช้า ไม่จำเป็นต้องใช้อินซูลิน) ซึ่งเบาหวานประเภทนี้ น่าจะเกิดกับผู้ใหญ่มากกว่า และที่น่าวิตกมาก คือ อายุเฉลี่ยของผู้เริ่มต้น เป็นโรคเบาหวานน้อยลงเรื่อยๆ จากข้อมูลที่พบล่าสุดมีผู้ป่วยอายุไม่ถึง 30 ปี ดังนั้น โรคเบาหวาน จึงไม่ใช่เฉพาะโรคของคนสูงวัยอีกต่อไป\n</p>\n<p>\nเด็กที่เป็นโรคเบาหวาน อาจจะทำให้เกิดภาวะโรคแทรกซ้อนตามมา เช่น ความดันโลหิตสูง, เบาหวานขึ้นตา, ไตวาย รวมถึงหลอดเลือดตีบตัน ซึ่งเป็นเหมือนกับที่ผู้ใหญ่เป็น ดังนั้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ในการรับประทานอาหาร ควรรับประทานผัก ผลไม้ และออกกำลังกาย ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ควรไปพบแพทย์อย่างน้อยที่สุดทุกๆ 3 เดือน\n</p>\n<p>\nดร.สุนาฏ เดชางาม ประธานชมรมนักกำหนดอาหารแห่งประเทศไทย (โรงพยาบาลรามาธิบดี) ให้ข้อมูลว่า จากสถิติตัวเลขมีการคาดการณ์ว่า ประเทศในแถบเอเชีย ซึ่งไทยก็รวมอยู่ด้วย จะมีจำนวนผู้ที่เป็นเบาหวานประเภทที่ 2 (เบาหวานที่เกิดอย่างช้า ไม่จำเป็นต้องใช้อินซูลิน) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นถึง 72% ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก และเบาหวานประเภทนี้ น่าจะเกิดกับผู้ใหญ่มากกว่า โดยจำนวนเด็กและวัยรุ่น ที่เป็นเบาหวานเพิ่มมากขึ้นนี้ มีผลมาจาก วิถีการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะพฤติกรรม การรับประทานอาหารฟาสต์ฟูดจากตะวันตก ซึ่งมีระดับของแคลลอรี่ที่สูงมาก ไม่เหมาะกับคนเอเชีย อีกทั้ง ยังขาดการอออกกำลังกายที่เพียงพอ จนทำให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดโรคเบาหวานในที่สุด\n</p>\n<p>\nไม่เฉพาะผู้เป็นโรคเบาหวานเท่านั้น ที่ต้องให้ความใส่ใจในเรื่องอาหารการกิน บุคคลที่ต้องระวัง หรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ก็ควรให้ความสำคัญ และมีความรู้ ในการควบคุมอาหารด้วยเช่นกัน กลุ่มคนเหล่านั้น ได้แก่ คนที่มีกรรมพันธุ์ หรือมีคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน คนอ้วน ผู้ที่มีระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดสูง ผู้ที่มีไขมัน HDL ต่ำ และคนที่มีความดันโลหิตสูง\n</p>\n<p>\nการควบคุมอาหาร สำหรับผู้เป็นโรคเบาหวานให้ได้ผลดีนั้น ต้องควบคุมอย่างเคร่งครัดสม่ำเสมอ ตั้งแต่ในระยะต้น เพราะจะมีผลอย่างมาก ต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนในภายหลัง โดยผู้ป่วยต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งก่อนอาหารและหลังอาหารให้สมดุล ผู้ป่วยต้องมีวินัยในการกินอาหาร การควบคุมปริมาณและสารอาหาร รับประทานอาหารตรงตามเวลา ไม่รับประทานจุกจิก และที่สำคัญต้องลดอาหารประเภทไขมัน น้ำตาล ของหวานทุกชนิดให้เหลือน้อยที่สุด งดรับประทานน้ำอัดลม น้ำหวาน เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมไปถึงบุหรี่ ซึ่งเป็นต้นเหตุร้ายของโรคแทรกซ้อน และหันมาบริโภคอาหารประเภทโปรตีน (ไข่ นม ถั่วต่างๆ) และผักผลไม้ที่ไม่หวานมากขึ้น ประกอบกับการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ก็จะสามารถช่วยป้องกัน หรือลดโอกาสการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ลงได้\n</p>\n<p>\nดร. สุนาฏ อธิบายเพิ่มเติมถึง การควบคุมอาหารสำหรับผู้เป็นเบาหวาน หรือผู้ที่ต้องควบคุมอาหาร และระดับน้ำตาลในเลือดว่า ปัจจุบันมีการผลิตอาหารทดแทน สำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน ซึ่งแพทย์จำนวนมาก นิยมให้ผู้เป็นเบาหวานรับประทาน\n</p>\n<p>\nเป้าหมายหลักของการรักษาโรคเบาหวาน คือ การรักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือด ให้ใกล้เคียงกับระดับปกติมากที่สุด ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาหารทดแทนสำหรับผู้เป็นเบาหวานที่ดี จะต้องเป็นอาหารทดแทน หรืออาหารระหว่างมื้อ สูตรครบถ้วน มีไขมันที่เหมาะสม สำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน ที่ต้องการควบคุมระดับไขมันในเลือด\n</p>\n<p>\nนอกจากนี้ ในส่วนผสมจะต้องประกอบไปด้วย คาร์โบไฮเดรตที่มีคุณสมบัติพิเศษ ในการชะลอการดูดซึมน้ำตามเข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดของผู้ป่วย สูงอย่างรวดเร็วภายหลังรับประทานอาหาร และยังต้องมีส่วนผสมของใยอาหาร และ FOS ที่ช่วยให้การทำงานของระบบขับถ่ายดีขึ้น และเสริมสร้างให้ทางเดินอาหารมีสุขภาพดี และควรจะมี MUFAโดยรับการพิสูจน์แล้วว่า ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด หลังจากรับประทานอาหาร และทำให้ระดับไขมัน HDL เพิ่มขึ้น และไตรกลีเซอร์ไรด์ลดลง\n</p>\n<p>\nดร.สุนาฏสรุปทิ้งท้ายว่า เบาหวานเป็นโรคเรื้อรัง ที่ต้องรักษาติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือตลอดชีวิต คนเป็นเบาหวาน จะมีโรคแทรกซ้อนได้ง่าย ดังนั้น เพื่อรักษาอาการของโรค และป้องกันอันตรายจากโรคแทรกซ้อน ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ จำเป็นจะต้องรับประทานยา ตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และเลิกสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ควรรู้และเข้าใจวิธีปฏิบัติตัว การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง เพราะเป็นที่รู้กันแล้วว่า เบาหวานกับอาหารมีความสัมพันธ์กัน\n</p>\n<p>\nแหล่งอ้างอิงข้อมูล : <a href=\"http://www.yourhealthyguide.com/article/topic-fat.html\"><u><span style=\"color: #810081\"><span style=\"color: #810081\">http://www.yourhealthyguide.com/article/topic-fat.html</span></span></u></a>\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:1eb70ae0438c683af2100a025ec19e4a' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b8e2ea9ba40663f28f1bf91c134994ec' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p align=\"center\">\n<span style=\"background-color: #ff99cc; color: #0000ff\"><strong><u>โรคที่เด็กไทยส่วนใหญ่มักเผชิญในปัจจุบัน</u></strong></span>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><u>โรคเครียด</u></strong>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u19642/53046headline.jpg\" style=\"width: 166px; height: 107px\" height=\"125\" width=\"125\" />\n</p>\n<p align=\"center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://www.healthy-buddy.com/images/news/2008-07-02/72_top.jpg\">http://www.healthy-buddy.com/images/news/2008-07-02/72_top.jpg</a>\n</p>\n<p>\nความเครียดสามารถเกิดได้ทุกแห่งทุกเวลาอาจจะเกิดจากสาเหตุภายนอกเช่น การย้ายบ้าน การเปลี่ยนงาน ความเจ็บป่วย การหย่าร้าง ภาวะว่างงานความสัมพันธ์กับเพื่อน ครอบครัว หรืออาจจะเกิดจากภายในผู้ป่วยเอง เช่นความต้องการเรียนดี ความต้องการเป็นหนึ่งหรือความเจ็บป่วยและความเครียดนั้นก็ชอบเกิดในช่วงของเด็กม.6เพราะในช่วงนี้เด็กม.6ทุกคนต่างก็กังวลว่าตัวเองจะสอบติดมหาลัยอะไร จะสอบติดมหาลัยที่ตัวเองฝันอยากจะเรียนไหม และต่างก็กังวลว่าถ้าตัวเองสอบไม่ติด พ่อแม่จะเสียใจไหม ล่ะจะเรียนที่ไหนต่อดี<br />\nความเครียดเป็นระบบเตือนภัยของร่างกายให้เตรียมพร้อมที่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การมีความเครียดน้อยเกินไปและมากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีมันก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นเร็ว แน่นท้อง มือเท้าเย็น แต่ความเครียดก็มีส่วนดีเช่น ความตื่นเต้นความท้าทายและความสนุก สรุปแล้วความเครียดคือสิ่งที่มาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตซึ่งมี่ทั้งผลดีและผลเสีย<br />\nชนิดของความเครียด<br />\n1. Acute stress คือความเครียดที่เกิดขึ้นทันทีและร่างกายก็ตอบสนองต่อความเครียดนั้นทันทีเหมือนกันโดยมีการหลั่งฮอร์โมนความเครียด เมื่อความเครียดหายไปร่างกายก็จะกลับสู่ปกติเหมือนเดิมฮอร์โมนก็จะกลับสู่ปกติ ตัวอย่างความเครียด <br />\n เสียง <br />\n อากาศเย็นหรือร้อน<br />\n ชุมชนที่คนมากๆ<br />\n ความกลัว<br />\n ตกใจ <br />\n หิวข้าว<br />\n อันตราย<br />\n2. Chronic stress หรือความเครียดเรื้อรังเป็นความเครียดที่เกิดขึ้นทุกวันและร่างกายไม่สามารถตอบสนองหรือแสดงออกต่อความเครียดนั้น ซึ่งเมื่อนานวันเข้าความเครียดนั้นก็จะสะสมเป็นความเครียดเรื้อรัง ตัวอย่างความเครียดเรื้อรัง<br />\n ความเครียดที่ทำงาน<br />\n ความเครียดที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล<br />\n ความเครียดของแม่บ้าน<br />\n ความเหงา<br />\nฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด<br />\nเมื่อมีภาวะกดดันหรือความเครียดร่างกายจะฮอร์โมนที่เรียกว่า cortisol และ adrenaline ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็วเพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายแข็งแรง และมีพลังงานพร้อมที่จะกระทำเช่นการวิ่งหนีอันตราย การยกของหนีไฟถ้าหากได้กระทำฮอร์โมนนั้นจะถูกใช้ไป ความกดดันหรือความเครียดจะหายไป แต่ความเครียดหรือความกดดันมักจะเกิดขณะที่นั่งทำงาน ขับรถ กลุ่มใจไม่มีเงินค่าเทอมลูก ความเครียดหรือความกดดันไม่สามารถกระทำออกมาได้เกิดโดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้ฮอร์โมนเหล่านั้นสะสมในร่างกายจนกระทั่งเกิดอาการทางกายและทางใจ\n</p>\n<p>\nผลเสียต่อสุขภาพ<br />\nความเครียดเป็นสิ่งปกติที่สามารถพบได้ทุกวัน หากความเครียดนั้นเกิดจากความกลัวหรืออันตราย ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจะเตรียมให้ร่างกายพร้อมที่จะต่อสู้ อาการทีปรากฏก็เป็นเพียงทางกายเช่นความดันโลหิตสูงใจสั่น แต่สำหรับชีวิตประจำวันจะมีสักกี่คนที่จะทราบว่าเราได้รับความเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่มีทางหลีกเลี่ยง การที่มีความเครียดสะสมเรื้อรังทำให้เกิดอาการทางกาย และทางอารมณ์ <br />\nโรคทางกายที่เกิดจากความเครียด<br />\nโรคทางเดินอาหาร <br />\nโรคปวดศีรษะไมเกรน<br />\nโรคปวดหลัง <br />\nโรคความดันโลหิตสูง<br />\nโรคหลอดเลือดสมอง<br />\nโรคหัวใจ <br />\nติดสุรา <br />\nโรคภูมิแพ้ <br />\nโรคหอบหืด <br />\nภูมิคุ้มกันต่ำลง<br />\nเป็นหวัดง่าย <br />\nอุบัติเหตุขณะทำงาน<br />\nการฆ่าตัวตายและมะเร็ง<br />\nผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากความเครียด<br />\n คุณมีความเครียดหรือไม่<br />\nถามตัวคุณเองว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่<br />\nอาการแสดงทางร่างกาย มึนงง ปวดตามกล้ามเนื้อ กัดฟัน ปวดศีรษะ แน่นท้อง เบื่ออาหาร นอนหลับยาก หัวใจเต้นเร็ว หูอื้อ มือเย็น อ่อนเพลีย ท้องร่วง ท้องผูก จุกท้อง มึนงง เสียงดังให้หู คลื่นไส้อาเจียน หายใจไม่อิ่ม ปวดท้อง<br />\nอาการแสดงทางด้านจิตใจ วิตกกังวล ตัดสินใจไม่ดี ขี้ลืม สมาธิสั้น ไม่มีความคิดริเริ่ม ความจำไม่ดี ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ<br />\nอาการแสดงทางด้านอารมณ์ โกรธง่าย วิตกกังวล ร้องไห้ ซึมเศร้า ท้อแท้ หงุดหงิด ซึมเศร้า มองโลกในแง่ร้าย นอนไม่หลับ กัดเล็บหรือดึงผมตัวเอง<br />\nอาการแสดงทางพฤติกรรม รับประทานอาหารเก่ง ติดบุหรี่สุรา โผงผาง เปลี่ยนงานบ่อย แยกตัว<br />\nการแก้ไขเมื่ออยู่ในภาวะที่เครียดมาก<br />\nหากท่านมีอาการเครียดมากและแสดงออกทางร่างกายดังนี้<br />\n อ่อนแรงไม่อยากจะทำอะไร <br />\n มีอาการปวดตามตัว ปวดศีรษะ <br />\n วิตกกังวล <br />\n มีปัญหาเรื่องการนอน <br />\n ไม่มีความสุขกับชีวิต <br />\n เป็นโรคซึมเศร้า <br />\nให้ท่านปฏิบัติตามคำแนะนำ 10 ประการ<br />\n1. ให้นอนเป็นเวลาและตื่นเป็นเวลา เวลาที่เหมาะสมสำหรับการนอนคือเวลา 22.00น.เมื่อภาวะเครียดมากจะทำให้ความสามารถในการกำหนดเวลาของชีวิต( Body Clock )เสียไป ทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับหรือตื่นง่าย การกำหนดเวลาหลับและเวลาตื่นจะทำให้นาฬิกาชีวิตเริ่มทำงาน และเมื่อความเครียดลดลง ก็สามารถที่จะหลับได้เหมือนปกติ ในการปรับตัวใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ บางครั้งเมื่อไปนอนแล้วไม่หลับเป็นเวลา 45 นาที ให้หาหนังสือเบาๆมาอ่าน เมื่อง่วงก็ไปหลับ ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งคือให้ร่างกายได้รับแสงแดดยามเช้า เพื่อส่งสัญญาณให้ร่างกายปรับเวลา <br />\n2. หากเกิดอาการดังกล่าวต้องจัดเวลาให้ร่างกายได้พัก เช่นอาจจะไปพักร้อน หรืออาจจะจัดวาระงาน งานที่ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วนก็ให้หยุดไม่ต้องทำ <br />\n3. ให้เวลากับครอบครัวในวันหยุด อาจจะไปพักผ่อนหรือรับประทานอาหารนอนบ้าน <br />\n4. ให้เลื่อนการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆในช่วงนี้ เช่นการซื้อรถใหม่ การเปลี่ยนบ้านใหม่ การเปลี่ยนงาน เพราะการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดความเครียด <br />\n5. หากคุณเป็นคนที่ชอบทำงานหรือชอบเรียนให้ลดเวลาลงเหลือไม่เกิน 40 ชม.สัปดาห์ <br />\n6. การรับประทานอาหารให้รับประทานผักให้มากเพราะจะทำให้สมองสร้าง serotonin เพิ่มสารตัวนี้จะช่วยลดความเครียด และควรจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ในปริมาณที่เพียงพอ <br />\n7. หยุดยาคลายเครียด และยาแก้โรคซึมเศร้า <br />\n8. ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และอาจจะมีการเต้นรำด้วยก็ดี <br />\nหากปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวแล้วยังมีอาการของความเครียดให้ปรึกษาแพทย์<br />\nข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเครียด<br />\n ความเครียดเหมือนกันทุกคนหรือไม่ สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดในแต่ละคนไม่เหมือนกันและการตอบสนองต่อความเครียดก็แตกต่างในแต่ละคน<br />\n ความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีจริงหรือไม่ ความเครียดเปรียบเหมือนสายกีตาร์ ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปเสียก็ไม่ไพเราะ เช่นกันเครียดมากก็มีผลต่อสุขภาพเครียดพอดีจะช่วยสร้างผลผลิต และความสุข<br />\n จริงหรือไม่ที่ความเครียดมีอยู่ทุกแห่งคุณไม่สามารถจัดการกับมันได้ แม้ว่าจะมีความเครียดทุกแห่งแต่คุณสามารถวางแผนที่จะจัดการกับงาน ลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วนของงานเพื่อลดความเครียด<br />\n จริงหรือไม่ที่ไม่มีอาการคือไม่มีความเครียด ไม่จริงเนื่องจากอาจจะมีความเครียดโดยที่ไม่มีอาการก็ได ้และความเครียดจะสะสมจนเกินอาการ<br />\n ควรให้ความสนใจกับความเครียดที่มีอาการมากๆใช่หรือไม่ เมื่อเริ่มเกิดอาการความเครียดแม้ไม่มากก็ต้องให้ความสนใจ เช่นอาการปวดศีรษะ ปวดท้องเพราะอาการเพียงเล็กน้อยจะเตือนว่าคุณต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินชีวิตเพื่อลดความเครียด<br />\n ความเครียดคือโรคจิตใช่หรือไม่ ไม่ใช่เนื่องจากโรคจิตจะมีการแตกแยกของความคิด บุคลิคเปลี่ยนไปไม่สามารถดำเนินชีวิตเหมือนคนปกติ<br />\n ขณะที่มีความเครียดคุณสามารถทำงานได้อีก แต่คุณต้องจัดลำดับก่อนหลัง และความสำคัญของงาน<br />\n ไม่เชื่อว่าการเดินจะช่วยผ่อนคลายความเครียด การเดินจะช่วยผ่อนคลายความเครียดนั้น<br />\n ความเครียดไม่ใช่ปัญหาเพราะเพียงแค่สูบบุหรี่ความเครียดก็หายไป การสูบบุหรี่หรือดื่มสุราจะทำให้ลืมปัญหาเท่านั้นนอกจากไม่สามารถแก้ปัญหาแล้วยังก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย<br />\nเมื่อใดต้องปรึกษาแพทย์<br />\n เมื่อคุณรู้สึกเหมือนคนหลงทางหาทางแก้ไขไม่เจอ<br />\n เมื่อคุณกังวลมากเกินกว่าเหตุ และไม่สามารถควบคุม<br />\n เมื่ออาการของความเครียดมีผลต่อคุณภาพชีวิตเช่น การนอน การรับประทานอาหาร งานที่ทำ ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้าง\n</p>\n<div style=\"text-align: center\">\n<img border=\"0\" src=\"/files/u19642/helth_pic1.jpg\" style=\"width: 160px; height: 188px\" height=\"365\" width=\"270\" />\n</div>\n<div style=\"text-align: center\">\nลิ้งค์รูปภาพ : <a href=\"http://www.cwc.co.th/privilege/pic_privilege/helth_pic1.jpg\">http://www.cwc.co.th/privilege/pic_privilege/helth_pic1.jpg</a>\n</div>\n<p>\nแหล่งอ้างอิงข้อมูล : <a href=\"http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/neuro/psy/stress/stress.htm\">http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/neuro/psy/stress/stress.htm</a>\n</p>\n<p align=\"center\">\n<strong><u></u></strong></p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b8e2ea9ba40663f28f1bf91c134994ec' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:6ef5140b65b4dca381aaf6a49eed3fbd' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nผมก็เครียด ถ้าไม่เชื่อดูหน้าผมดิ\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nพอมาอ่านตรงนี้แล้ว ทำให้ผมรู้วิธีแก้ความเครียด\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nรู้อะไรหลายๆ อย่าง\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nถือว่ามีสาระน่า ผมให้ 10 เลยครับ\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nถึงจะช้าแต่ก็เม้นอะนะ 555+\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:6ef5140b65b4dca381aaf6a49eed3fbd' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e0432c4886303a4278422b31b54480d4' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>10 แบบไม่ต้องบอก</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e0432c4886303a4278422b31b54480d4' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:dcb24d3c663c01530b0fe2d9d9111cc2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nสวยงาม  เรียบร้อย\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n ให้ 10คะเเนน\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:dcb24d3c663c01530b0fe2d9d9111cc2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:2915bd92da25614a7243ae9f2537bb70' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเทพ มาก มายยย\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nอิอิ 10 เลยยย\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:2915bd92da25614a7243ae9f2537bb70' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:169ae47dabc9954afcf0963a519a3638' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nน่าสนใจดี\n</p>\n<p>\nสวยงาม 10 คะแนน\n</p>\n<p>\nI LOVE YOU <a href=\"mailto:K@T\">K@T</a>@@ : ))\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:169ae47dabc9954afcf0963a519a3638' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:6a50ba795a05eacee03810525a3ff338' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nบิวเม้นโหล่ๆๆ\n</p>\n<p>\nTT&quot;\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:6a50ba795a05eacee03810525a3ff338' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:674a264cfe24d0f1c58e13ea5ac21463' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาสาระดีเยี่ยม\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nให้ 10\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:674a264cfe24d0f1c58e13ea5ac21463' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:78dc9b567b70532d42fee7f2e882383c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเป็นประโยชน์มากๆ\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nให้ สิบ\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:78dc9b567b70532d42fee7f2e882383c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:b549ab5d6368f72998a8c0686a1dc6f8' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาดีมาก\n</p>\n<p>\nมีประโยชน์\n</p>\n<p>\nให้10 คะแนนเต็ม\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:b549ab5d6368f72998a8c0686a1dc6f8' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:c879942d2cacada65c6fc2dd9a0a4224' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาดีมีสาระ\n</p>\n<p>\nรู้ทันโรคเครียด\n</p>\n<p>\nเอาไป10\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:c879942d2cacada65c6fc2dd9a0a4224' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e3a667b0e875d40cb4be428598093d7d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nให้ 10 ครับ ไม่เครียด ครับ\n</p>\n<p>\nช่วยแสดงความคิดเห็นที่ <a href=\"/node/58062\">http://www.thaigoodview.com/node/58062</a> ด้วยคร้าบ\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e3a667b0e875d40cb4be428598093d7d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:cf20f2d1992c5fbb34cd17edb6251274' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nให้10ครับ\n</p>\n<p>\nน่าอ่านดี\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:cf20f2d1992c5fbb34cd17edb6251274' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:acb2428e4539e023f0dab640944af666' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p><b><span style=\"color: #ff99cc\">เครียดก็รับคะแนนแก้เครียด 10 เม็ด 10 คะแนนเน้อ</span></b></p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:acb2428e4539e023f0dab640944af666' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:84de5417bbbbfd2f6934e70e997dbc4c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>ช่วงนี้เครียดๆสินะ</p>\n<p>&nbsp;</p>\n<p style=\"margin-top: 0.6em; margin-right: 0px; margin-bottom: 1.2em; margin-left: 0px; padding: 0px\"> ให้ 10/10 คับ</p>\n<p style=\"margin-top: 0.6em; margin-right: 0px; margin-bottom: 1.2em; margin-left: 0px; padding: 0px\">&nbsp;</p>\n<p>ขอบคุณสำหรับเนื้อหา<span style=\"white-space: pre\" class=\"Apple-tab-span\"> </span> </p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:84de5417bbbbfd2f6934e70e997dbc4c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:89cd4180221178d9d41baed81981bc54' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อน่าสนใจจ้า,,รูปภาพเหมาะมาก\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nน้ำหวานให้10จ้า\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:89cd4180221178d9d41baed81981bc54' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:a5c5f3b4e40f3f39aae2ab0b247a8981' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nมันแหล่มมากครับเพื่อน\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n10 คะแนนสินะ อิอิอิ\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:a5c5f3b4e40f3f39aae2ab0b247a8981' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:8983da72b0689c4c2dbb0230d6c4cd5a' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาดีจ้า\n</p>\n<p>\nรูปภาพเข้ากับเนื้อหาจ้า\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n10ๆ\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:8983da72b0689c4c2dbb0230d6c4cd5a' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:e4a9e6e5ebedeb77dce869b7eb59fcb9' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาดี\n</p>\n<p>\nเหมาะสมจ้า\n</p>\n<p>\nรูปภาพเหมาะจ๊ะ\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nให้ 10\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:e4a9e6e5ebedeb77dce869b7eb59fcb9' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:051a8ac73ac8297c705e80534c040219' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<span style=\"color: #ff00ff\">เนื้อหามีประโยชน์มาก  รูปภาพ เหมาะสม  10 เลยจ้าาาาา  ^^</span>\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:051a8ac73ac8297c705e80534c040219' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:c659e199ccdb8f89807e3440fae46077' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>เนื้อหาน่าสนใจดี ให้  10 คะแนน</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:c659e199ccdb8f89807e3440fae46077' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:43147e849988970e4cee1e7e5b91dfb2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาดีมีสาระ\n</p>\n<p>\nเอาไปเลย10<img border=\"0\" src=\"/sites/all/modules/tinymce/tinymce/jscripts/tiny_mce/plugins/emotions/images/smiley-smile.gif\" alt=\"Smile\" title=\"Smile\" />\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:43147e849988970e4cee1e7e5b91dfb2' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:953c180e5ecdc8432d26dc0032addd4f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อหาน่าสนใจดี\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nรูปก็เข้ากับเนื้อหามาก &gt;&lt;\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nมีประโยชน์กับชีวิตประจำวันดี\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\n10 คะแนนจ้ะ :)\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:953c180e5ecdc8432d26dc0032addd4f' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:025fb032ff2ae48eb5813afd573aea0d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nเนื้อดีมาก\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nให้10จ้า\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:025fb032ff2ae48eb5813afd573aea0d' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:0b572091b1ff379e2a828c133897098a' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\nครบถ้วน ถูกต้องดี\n</p>\n<p>\n&nbsp;\n</p>\n<p>\nให้ 10 คะแนนครับ\n</p>\n', created = 1719404466, expire = 1719490866, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:0b572091b1ff379e2a828c133897098a' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

โรคที่เด็กไทยส่วนใหญ่มักเผชิญในปัจจุบัน

รูปภาพของ pnp31311

โรคที่เด็กไทยส่วนใหญ่มักเผชิญในปัจจุบัน

โรคเครียด

ลิ้งค์รูปภาพ : http://www.healthy-buddy.com/images/news/2008-07-02/72_top.jpg

ความเครียดสามารถเกิดได้ทุกแห่งทุกเวลาอาจจะเกิดจากสาเหตุภายนอกเช่น การย้ายบ้าน การเปลี่ยนงาน ความเจ็บป่วย การหย่าร้าง ภาวะว่างงานความสัมพันธ์กับเพื่อน ครอบครัว หรืออาจจะเกิดจากภายในผู้ป่วยเอง เช่นความต้องการเรียนดี ความต้องการเป็นหนึ่งหรือความเจ็บป่วยและความเครียดนั้นก็ชอบเกิดในช่วงของเด็กม.6เพราะในช่วงนี้เด็กม.6ทุกคนต่างก็กังวลว่าตัวเองจะสอบติดมหาลัยอะไร จะสอบติดมหาลัยที่ตัวเองฝันอยากจะเรียนไหม และต่างก็กังวลว่าถ้าตัวเองสอบไม่ติด พ่อแม่จะเสียใจไหม ล่ะจะเรียนที่ไหนต่อดี
ความเครียดเป็นระบบเตือนภัยของร่างกายให้เตรียมพร้อมที่กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การมีความเครียดน้อยเกินไปและมากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีมันก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ หัวใจเต้นเร็ว แน่นท้อง มือเท้าเย็น แต่ความเครียดก็มีส่วนดีเช่น ความตื่นเต้นความท้าทายและความสนุก สรุปแล้วความเครียดคือสิ่งที่มาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชีวิตซึ่งมี่ทั้งผลดีและผลเสีย
ชนิดของความเครียด
1. Acute stress คือความเครียดที่เกิดขึ้นทันทีและร่างกายก็ตอบสนองต่อความเครียดนั้นทันทีเหมือนกันโดยมีการหลั่งฮอร์โมนความเครียด เมื่อความเครียดหายไปร่างกายก็จะกลับสู่ปกติเหมือนเดิมฮอร์โมนก็จะกลับสู่ปกติ ตัวอย่างความเครียด
 เสียง
 อากาศเย็นหรือร้อน
 ชุมชนที่คนมากๆ
 ความกลัว
 ตกใจ
 หิวข้าว
 อันตราย
2. Chronic stress หรือความเครียดเรื้อรังเป็นความเครียดที่เกิดขึ้นทุกวันและร่างกายไม่สามารถตอบสนองหรือแสดงออกต่อความเครียดนั้น ซึ่งเมื่อนานวันเข้าความเครียดนั้นก็จะสะสมเป็นความเครียดเรื้อรัง ตัวอย่างความเครียดเรื้อรัง
 ความเครียดที่ทำงาน
 ความเครียดที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
 ความเครียดของแม่บ้าน
 ความเหงา
ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียด
เมื่อมีภาวะกดดันหรือความเครียดร่างกายจะฮอร์โมนที่เรียกว่า cortisol และ adrenaline ฮอร์โมนดังกล่าวจะทำให้ความดันโลหิตสูงและหัวใจเต้นเร็วเพื่อเตรียมพร้อมให้ร่างกายแข็งแรง และมีพลังงานพร้อมที่จะกระทำเช่นการวิ่งหนีอันตราย การยกของหนีไฟถ้าหากได้กระทำฮอร์โมนนั้นจะถูกใช้ไป ความกดดันหรือความเครียดจะหายไป แต่ความเครียดหรือความกดดันมักจะเกิดขณะที่นั่งทำงาน ขับรถ กลุ่มใจไม่มีเงินค่าเทอมลูก ความเครียดหรือความกดดันไม่สามารถกระทำออกมาได้เกิดโดยที่ไม่รู้ตัว ทำให้ฮอร์โมนเหล่านั้นสะสมในร่างกายจนกระทั่งเกิดอาการทางกายและทางใจ

ผลเสียต่อสุขภาพ
ความเครียดเป็นสิ่งปกติที่สามารถพบได้ทุกวัน หากความเครียดนั้นเกิดจากความกลัวหรืออันตราย ฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจะเตรียมให้ร่างกายพร้อมที่จะต่อสู้ อาการทีปรากฏก็เป็นเพียงทางกายเช่นความดันโลหิตสูงใจสั่น แต่สำหรับชีวิตประจำวันจะมีสักกี่คนที่จะทราบว่าเราได้รับความเครียดโดยที่เราไม่รู้ตัวหรือไม่มีทางหลีกเลี่ยง การที่มีความเครียดสะสมเรื้อรังทำให้เกิดอาการทางกาย และทางอารมณ์
โรคทางกายที่เกิดจากความเครียด
โรคทางเดินอาหาร
โรคปวดศีรษะไมเกรน
โรคปวดหลัง
โรคความดันโลหิตสูง
โรคหลอดเลือดสมอง
โรคหัวใจ
ติดสุรา
โรคภูมิแพ้
โรคหอบหืด
ภูมิคุ้มกันต่ำลง
เป็นหวัดง่าย
อุบัติเหตุขณะทำงาน
การฆ่าตัวตายและมะเร็ง
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากความเครียด
 คุณมีความเครียดหรือไม่
ถามตัวคุณเองว่ามีอาการเหล่านี้หรือไม่
อาการแสดงทางร่างกาย มึนงง ปวดตามกล้ามเนื้อ กัดฟัน ปวดศีรษะ แน่นท้อง เบื่ออาหาร นอนหลับยาก หัวใจเต้นเร็ว หูอื้อ มือเย็น อ่อนเพลีย ท้องร่วง ท้องผูก จุกท้อง มึนงง เสียงดังให้หู คลื่นไส้อาเจียน หายใจไม่อิ่ม ปวดท้อง
อาการแสดงทางด้านจิตใจ วิตกกังวล ตัดสินใจไม่ดี ขี้ลืม สมาธิสั้น ไม่มีความคิดริเริ่ม ความจำไม่ดี ไม่สามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
อาการแสดงทางด้านอารมณ์ โกรธง่าย วิตกกังวล ร้องไห้ ซึมเศร้า ท้อแท้ หงุดหงิด ซึมเศร้า มองโลกในแง่ร้าย นอนไม่หลับ กัดเล็บหรือดึงผมตัวเอง
อาการแสดงทางพฤติกรรม รับประทานอาหารเก่ง ติดบุหรี่สุรา โผงผาง เปลี่ยนงานบ่อย แยกตัว
การแก้ไขเมื่ออยู่ในภาวะที่เครียดมาก
หากท่านมีอาการเครียดมากและแสดงออกทางร่างกายดังนี้
 อ่อนแรงไม่อยากจะทำอะไร
 มีอาการปวดตามตัว ปวดศีรษะ
 วิตกกังวล
 มีปัญหาเรื่องการนอน
 ไม่มีความสุขกับชีวิต
 เป็นโรคซึมเศร้า
ให้ท่านปฏิบัติตามคำแนะนำ 10 ประการ
1. ให้นอนเป็นเวลาและตื่นเป็นเวลา เวลาที่เหมาะสมสำหรับการนอนคือเวลา 22.00น.เมื่อภาวะเครียดมากจะทำให้ความสามารถในการกำหนดเวลาของชีวิต( Body Clock )เสียไป ทำให้เกิดปัญหานอนไม่หลับหรือตื่นง่าย การกำหนดเวลาหลับและเวลาตื่นจะทำให้นาฬิกาชีวิตเริ่มทำงาน และเมื่อความเครียดลดลง ก็สามารถที่จะหลับได้เหมือนปกติ ในการปรับตัวใช้เวลาประมาณ 3 สัปดาห์ บางครั้งเมื่อไปนอนแล้วไม่หลับเป็นเวลา 45 นาที ให้หาหนังสือเบาๆมาอ่าน เมื่อง่วงก็ไปหลับ ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งคือให้ร่างกายได้รับแสงแดดยามเช้า เพื่อส่งสัญญาณให้ร่างกายปรับเวลา
2. หากเกิดอาการดังกล่าวต้องจัดเวลาให้ร่างกายได้พัก เช่นอาจจะไปพักร้อน หรืออาจจะจัดวาระงาน งานที่ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วนก็ให้หยุดไม่ต้องทำ
3. ให้เวลากับครอบครัวในวันหยุด อาจจะไปพักผ่อนหรือรับประทานอาหารนอนบ้าน
4. ให้เลื่อนการเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆในช่วงนี้ เช่นการซื้อรถใหม่ การเปลี่ยนบ้านใหม่ การเปลี่ยนงาน เพราะการเปลี่ยนแปลงจะทำให้เกิดความเครียด
5. หากคุณเป็นคนที่ชอบทำงานหรือชอบเรียนให้ลดเวลาลงเหลือไม่เกิน 40 ชม.สัปดาห์
6. การรับประทานอาหารให้รับประทานผักให้มากเพราะจะทำให้สมองสร้าง serotonin เพิ่มสารตัวนี้จะช่วยลดความเครียด และควรจะได้รับวิตามินและเกลือแร่ในปริมาณที่เพียงพอ
7. หยุดยาคลายเครียด และยาแก้โรคซึมเศร้า
8. ให้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และอาจจะมีการเต้นรำด้วยก็ดี
หากปฏิบัติตามวิธีดังกล่าวแล้วยังมีอาการของความเครียดให้ปรึกษาแพทย์
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเครียด
 ความเครียดเหมือนกันทุกคนหรือไม่ สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดในแต่ละคนไม่เหมือนกันและการตอบสนองต่อความเครียดก็แตกต่างในแต่ละคน
 ความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีจริงหรือไม่ ความเครียดเปรียบเหมือนสายกีตาร์ ตึงไปก็ไม่ดี หย่อนไปเสียก็ไม่ไพเราะ เช่นกันเครียดมากก็มีผลต่อสุขภาพเครียดพอดีจะช่วยสร้างผลผลิต และความสุข
 จริงหรือไม่ที่ความเครียดมีอยู่ทุกแห่งคุณไม่สามารถจัดการกับมันได้ แม้ว่าจะมีความเครียดทุกแห่งแต่คุณสามารถวางแผนที่จะจัดการกับงาน ลำดับความสำคัญ ความเร่งด่วนของงานเพื่อลดความเครียด
 จริงหรือไม่ที่ไม่มีอาการคือไม่มีความเครียด ไม่จริงเนื่องจากอาจจะมีความเครียดโดยที่ไม่มีอาการก็ได ้และความเครียดจะสะสมจนเกินอาการ
 ควรให้ความสนใจกับความเครียดที่มีอาการมากๆใช่หรือไม่ เมื่อเริ่มเกิดอาการความเครียดแม้ไม่มากก็ต้องให้ความสนใจ เช่นอาการปวดศีรษะ ปวดท้องเพราะอาการเพียงเล็กน้อยจะเตือนว่าคุณต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินชีวิตเพื่อลดความเครียด
 ความเครียดคือโรคจิตใช่หรือไม่ ไม่ใช่เนื่องจากโรคจิตจะมีการแตกแยกของความคิด บุคลิคเปลี่ยนไปไม่สามารถดำเนินชีวิตเหมือนคนปกติ
 ขณะที่มีความเครียดคุณสามารถทำงานได้อีก แต่คุณต้องจัดลำดับก่อนหลัง และความสำคัญของงาน
 ไม่เชื่อว่าการเดินจะช่วยผ่อนคลายความเครียด การเดินจะช่วยผ่อนคลายความเครียดนั้น
 ความเครียดไม่ใช่ปัญหาเพราะเพียงแค่สูบบุหรี่ความเครียดก็หายไป การสูบบุหรี่หรือดื่มสุราจะทำให้ลืมปัญหาเท่านั้นนอกจากไม่สามารถแก้ปัญหาแล้วยังก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย
เมื่อใดต้องปรึกษาแพทย์
 เมื่อคุณรู้สึกเหมือนคนหลงทางหาทางแก้ไขไม่เจอ
 เมื่อคุณกังวลมากเกินกว่าเหตุ และไม่สามารถควบคุม
 เมื่ออาการของความเครียดมีผลต่อคุณภาพชีวิตเช่น การนอน การรับประทานอาหาร งานที่ทำ ความสัมพันธ์ของคุณกับคนรอบข้าง

ลิ้งค์รูปภาพ : http://www.cwc.co.th/privilege/pic_privilege/helth_pic1.jpg

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : http://www.siamhealth.net/public_html/Disease/neuro/psy/stress/stress.htm

รูปภาพของ pnp33673

มีสาระดี

 ให้ 10 จร้า

 

บายๆ ^-^

รูปภาพของ pnp33664

ผมก็เครียด ถ้าไม่เชื่อดูหน้าผมดิ

 

พอมาอ่านตรงนี้แล้ว ทำให้ผมรู้วิธีแก้ความเครียด

 

รู้อะไรหลายๆ อย่าง

 

ถือว่ามีสาระน่า ผมให้ 10 เลยครับ

 

ถึงจะช้าแต่ก็เม้นอะนะ 555+

รูปภาพของ pnp33671

เยี่ยมมากจ้า

 สาระเพียบ 10 อยู่แล้ว

10 แบบไม่ต้องบอก

รูปภาพของ pnp31471

สวยงาม  เรียบร้อย

 

 ให้ 10คะเเนน

รูปภาพของ pnp32300

เทพ มาก มายยย

 

อิอิ 10 เลยยย

รูปภาพของ pnp33667

น่าสนใจดี

สวยงาม 10 คะแนน

I LOVE YOU K@T@@ : ))

รูปภาพของ pnp31311

บิวเม้นโหล่ๆๆ

TT"

รูปภาพของ pnp31446

เนื้อหาสาระดีเยี่ยม

 

ให้ 10

รูปภาพของ pnp31144

เป็นประโยชน์มากๆ

 

ให้ สิบ

รูปภาพของ pnp31501

อือก็ดีนะนำความรู้มาใช้ได้

รูปภาพของ pnp31503

เนื้อหาดีมาก

มีประโยชน์

ให้10 คะแนนเต็ม

รูปภาพของ pnp31427

เนื้อหาดีมีสาระ

รู้ทันโรคเครียด

เอาไป10

รูปภาพของ Rinniiz

เนื้อหาดี

 

น่ารู้

 นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้

 

10คั๊บ

ให้ 10 ครับ ไม่เครียด ครับ

ช่วยแสดงความคิดเห็นที่ http://www.thaigoodview.com/node/58062 ด้วยคร้าบ

รูปภาพของ pnp33655

ให้10ครับ

น่าอ่านดี

รูปภาพของ pnp31243

เครียดก็รับคะแนนแก้เครียด 10 เม็ด 10 คะแนนเน้อ

รูปภาพของ pnp31235

ช่วงนี้เครียดๆสินะ

 

 ให้ 10/10 คับ

 

ขอบคุณสำหรับเนื้อหา  

รูปภาพของ pnp31269

เนื้อน่าสนใจจ้า,,รูปภาพเหมาะมาก

 

น้ำหวานให้10จ้า

รูปภาพของ pnp31530

มันแหล่มมากครับเพื่อน

 

10 คะแนนสินะ อิอิอิ

รูปภาพของ pnp31264

เนื้อหาดีจ้า

รูปภาพเข้ากับเนื้อหาจ้า

 

10ๆ

รูปภาพของ pnp31315

เนื้อหาดี

เหมาะสมจ้า

รูปภาพเหมาะจ๊ะ

 

ให้ 10

รูปภาพของ pnp31217

เนื้อหามีประโยชน์มาก  รูปภาพ เหมาะสม  10 เลยจ้าาาาา  ^^

รูปภาพของ pnp33659

เนื้อหาดีเข้าใจง่ายและมีประโยชน์ ให้ 10 คะแนน

รูปภาพของ pnp31495

เนื้อหาดีเข้าใจง่าย ให้ 10 คะแนน

รูปภาพของ pnp31329

เนื้อหาน่าสนใจดี ให้  10 คะแนน

รูปภาพของ pnp33670

เนื้อหาดีมีสาระ

เอาไปเลย10Smile

รูปภาพของ pnp33665

เนื้อหาน่าสนใจดี

 

รูปก็เข้ากับเนื้อหามาก ><

 

มีประโยชน์กับชีวิตประจำวันดี

 

10 คะแนนจ้ะ :)

รูปภาพของ pnp33669

เนื้อดีมาก

 

ให้10จ้า

รูปภาพของ pnp33662

ครบถ้วน ถูกต้องดี

 

ให้ 10 คะแนนครับ

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 550 คน กำลังออนไลน์