ดนตรีคลาสสิก
ประเภทของเพลงคลาสสิค
ซิมโฟนี่ (Symphony)
"ซิมโฟนี่" คือ บทเพลงบรรเลงโดยวงดุริยางค์ขนาดใหญ่ ซึ่งมีเครื่องดนตรีครบทั้งสี่ประเภท คือ เครื่องสาย เครื่องลมไม้ เครื่องลมทองเหลือง และเครื่องตี ซิมโฟนีถือกำเนิดมาในยุคคลาสสิกและเป็นบทเพลงที่ผู้ประพันธ์เพลงที่ยิ่งใหญ่ และมีชื่อเสียงทั้งหลายนิยมประพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น ไฮเดิน (Haydn) โมซาร์ท (Mozart) เบโธเฟน(Beethoven) ไชคอฟสกี้ (Tchaikovsky) ซิมโฟนีเป็นบทเพลงที่บรรเลงโดยวงดุริยางค์ รูปแบบที่เห็นกันทุกวันนี้คือซิมโฟนีในยุคคลาสสิก ซึ่งได้พัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยกำเนิดมาจากรูปแบบอิตาเลียน โอเวอร์เจอร์ ที่เรียกว่า ซินโฟเนีย (sinfonia) ซึ่งเดิมเป็นบทเพลงที่มีสามท่อน (ท่อน = Movement) คือ เร็ว-ช้า-เร็ว ต่อมาได้มีการพัฒนาบทเพลงโอเวอร์เจอร์เพื่อใช้บรรเลงนำก่อนการแสดงอุปรากร ซึ่งเป็นบทเพลงที่บรรเลงด้วยวงดุริยางค์แต่เพียงอย่างเดียว แยกออกจากการแสดงอุปรากร จึงกลายเป็นบทเพลงประเภทใหม่ขึ้นมา ภายหลังได้มีการเพิ่มท่อนมินูเอ็ท (Minuet = ท่อนที่มีจังหวะคล้ายการเต้นรำ) เป็นท่อนที่สามขึ้นมาทำให้บทเพลงประเภทนี้มีสี่ท่อน รูปแบบซิมโฟนีที่สร้างขึ้นนี้ไฮเดินเป็นผู้มีส่วนพัฒนาอยู่มาก บางครั้งจึงมีผู้ขนานนามไฮเดินว่าเป็นบิดาแห่งซิมโฟนี ทั้งที่ซิมโฟนีมีมาก่อนหน้าไฮเดินแล้ว ไฮเดินประพันธ์บทเพลงซิมโฟนีไว้เป็นจำนวนเกินกว่า ๑๐๔ บท ผู้ประพันธ์ในยุคคลาสสิกคือโมซาร์ทได้ประพันธ์บทเพลงซิมโฟนีไว้เกินกว่า ๔๑ บท เบโธเฟนประพันธ์บทเพลงซิมโฟนีไว้ 9 บท หลังจากนั้นได้มีแนวคิดในการพัฒนารูปแบบจนทำให้ซิมโฟนีเป็นบทเพลงที่มีขนาดยาวมากขึ้น ใช้วงดุริยางค์ขนาดใหญ่ขึ้น ผู้ประพันธ์เพลงในยุคต่อมา ล้วนนิยมประพันธ์บทเพลงซิมโฟนีไว้เสมอ
ออร์เคสตรา (Orchestra)
"ออร์เคสตร้า" เป็นภาษาเยอรมัน ตามความหมายรูปศัพท์ หมายถึงสถานที่เต้นรำ ซึ่งหมายถึง ส่วนหน้าของโรงละครสมัยกรีกโบราณ ที่ใช้เป็นที่เต้นรำและร้องเพลงของพวกนักร้องประสานเสียงสำหรับดนตรีตะวันตก ,ออร์เคสตรามีความหมายถึงวงซิมโฟนี ออร์เคสตรา คือ วงดนตรีที่ประกอบด้วยเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย รวมกับเครื่องลมไม้ เครื่องลมทองเหลือง และเครื่องตี ... ต่อมาในกลางศตวรรษที่ 18 คำว่า ออร์เคสตรา หมายถึง การแสดงของวงดนตรี ซึ่งเป็นความหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามคำนี้ยังคงใช้ในอีกความหมายหนึ่ง คือ พื้นที่ระดับต่ำที่เป็นที่นั่งอยู่หน้าเวทีละคร และโรงแสดงคอนเสิร์ต ,ระยะต่อมาในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 16 เมื่อเริ่มกำหนดจำนวนเครื่องดนตรีลงในบทเพลง การพัฒนาวงออร์เคสตราจึงเริ่มมีขึ้น ซึ่งในระยะแรกเป็นลักษณะของวงเครื่องสาย (String Orchestra) ซึ่งมีจำนวนผู้เล่นประมาณ 10-25 คน โดยบางครั้งอาจจจะมีมากกว่านี้ตามความต้องการของผู้ประพันธ์เพลง ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 วงออร์เคสตรามีการเพิ่มเครื่องลมไม้ และตอนปลายของยุคบาโรค (ประมาณ ค.ศ. 1750) ผู้ประพันธ์เพลงนิยมบอกจำนวนเครื่องดนตรีไว้ในบทเพลงโดยละเอียด นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเครื่องลมทองเหลือง และเครื่องประกอบจังหวะในออร์เคสตราราวกลางศตวรรษที่ 18 วงออร์เคสตราเป็นรูปแบบขึ้นมาจนได้มาตรฐานในยุคนี้ คือ ยุคคลาสสิก ซึ่งเหตุผลประการหนึ่ง คือ บทเพลงประเภทซิมโฟนีเป็นรูปแบบขึ้นมาในยุคนี้ จึงทำให้ต้องมีการจัดวงออร์เคสตราให้มีมาตรฐาน เพื่อใช้เล่นเพลงซิมโฟนี นอกจากนี้การบรรเลงบทเพลงประเภทคอนแชร์โต้ อุปรากร และเพลงร้องเกี่ยวกับศาสนาก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้การพัฒนาวงออร์เคสตราเป็นแบบแผนขึ้นแม้ว่าวงซิมโฟนีออร์เคสตราในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ยังคงมีบทบาทสำคัญในดนตรีตะวันตก ปัจจัยทางเศรษฐกิจก็มีส่วนในการกำหนดขนาดวงออร์เคสตรา หรือแนวทางการประพันธ์เพลงเพื่อใช้กับวงออร์เคสตรา แต่สิ่งนี้ก็มิได้กีดกั้นการสร้างสรรค์ผลงานประเภทที่ใช้วงออร์เคสตราของผู้ประพันธ์เพลงแต่อย่างใด
อุปรากร (Opera)
หรือ โอเปร่า (Opera) เป็นการแสดงบนเวทีชนิดหนึ่ง โดยมีลักษณะเป็นแบบละครที่ดำเนินโดยใช้ดนตรีเป็นหลักหรือทั้งหมด ถึงแม้ว่าอุปรากรจะมีความใกล้เคียงกับละครเวทีชนิดอื่นๆในเรื่องของฉาก การแสดง และเครื่องแต่งกาย สิ่งสำคัญที่แยกอุปรากรออกจากละครเวทีทั่วไป คือ จะให้ความสำคัญของเพลง และ ดนตรีที่ประกอบการร้องเป็นอันดับหนึ่ง วงดนตรีที่ใช้นั้น อาจเป็นได้ตั้งแต่วงดนตรีขนาดเล็กจนไปถึงวงออร์เคสตราขนาดเต็ม อุปรากรถือกำเนิดขึ้นในคริสศตวรรษที่ 16 ในประเทศอิตาลี โดยอุปรากรมักจะมีความเกี่ยวข้องกับดนตรีคลาสสิกของตะวันตก นอกจากอุปรากรตะวันตกแล้ว มีการแสดงหลายชนิดที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน บางครั้งก็ใช้คำว่าอุปรากรด้วย เช่น อุปรากรจีน (งิ้ว) เป็นต้น
คอนแชร์โต (Concerto)
คือ การเดี่ยวเครื่องดนตรีโดยใช้เทคนิคขั้นสูงประกอบกับวงดนตรี วงออร์เคสตร้าหรือวงดุริยางค์ โดยมีทั้งแบบคอนแชร์โตเดี่ยวและคอนแชร์โตกลุ่ม ตัวอย่าง เช่น ไวโอลินคอนแชร์โต หรือ เปียโนคอนแชร์โต เป็นต้น ,ผู้แสดงเดี่ยวเครื่องดนตรีนั้น ๆ จะเป็นผู้ที่มีความสามารถในเครื่องนั้นอย่างพิเศษ ส่วนมากจะได้รับการฝึกฝนตั้งแต่อายุน้อย ๆ ต่ำกว่า 10 ขวบ บุคคลเหล่านี้อาจจะเรียกได้ว่ามีพรสวรรค์ทางดนตรี เนื่องจากส่วนมากจะมีความเชี่ยวชาญจนสามารถบรรเลง Concerto ได้ตั้งแต่อายุไม่ถึง 15 16 เท่านั้น
โซนาตา (Sonata)
โซนาตา เป็นเพลงที่แสดงการเดี่ยวเครื่องดนตรีชนิดใด ๆ ส่วนมากจะเป็นการบรรเลงไม่เกิน 3 ชิ้นดนตรี เช่น Piano sonata , Violin sonata , Sonata for Piano and Violin เป็นต้น ซึ่งชื่อของโซนาตาเพลงนั้นจะบอกถึงจำนวนชิ้นเครื่องดนตรี และจำนวนเครื่องดนตรีที่บรรเลง
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : http://www.mynavy.net/classical.html
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- ถัดไป ›
- หน้าสุดท้าย »
เอ่ออ เพื่อน ๆ เปลี่ยนรูปหน้าแรกให้แล้วนะ
= =''' ขอโทษที่เอารูปที่ไม่เกี่ยวข้องมาลง
S i R i U s Z . b a D z . V i r G i n .
______________________________ . L o v e ~ ♡
L a s t M o M e n t .
เนื้อหาเรียบร้อยดี
เข้าใจง่าย
เอาไป 10 คะแนน
ทำงานก็สวยดี เรียนร้อย
แต่เสียอยู่อย่างเดียวรูปไม่เกี่ยวกันเลย
เอาไป9.5พอ
เนื้อหาเข้าใจง่าย
เอาไปเลย 10 คะแนน
โอเคเลย
เนื้อหากระชับ
^^
10โลดดดด
เนื้อหาเยอะดีคะ เข้าใจง่าย แต่ งง กับภาพหน้าแรก
แตก็ออกมาดูดีคะ ให้ 10 คะแนนเลย
สวัสดีอาจารย์ที่เคารพครับ
งานนี้ทำออกมาค่อนข้างดี เนื้อหาชัดเจน
เสียตรงรูปภาพไม่สวย หน้า1เลยครับ
ให้ 10 คะแนน ครับ
เนื้อหาเกิน 100 บรรทัด
เกี่ยวข้องกับ 8กลุ่มสาระการเรียนรู้
งานเรีย[ร้อย
เนื้อหาดี
แหล่งอ้างอิงถูกต้อง
ให้เต็ม 10 คะแนน ครับ .