ไทยคมดาวเทียมเพื่อการสื่อสาร
ไทยคมดาวเทียมเพื่อการสื่อสาร
ประเทศไทยกับระบบสื่อสารดาวเทียม
ประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นขององค์การโทรคมนาคมทางดาวเทียมระหว่างประเทศ หรืออินเทลแสท (INTELSAT-International Telecommunications Satellite Organization) เมื่อปี พ.ศ. 2509 โดยกรมไปรษณีย์โทรเลขขณะนั้นได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยในองค์การดังกล่าว (ปัจจุบันได้โอนมา อยู่ในความรับผิดชอบของการสื่อสารแห่งประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติการสื่อสารแห่งประเทศทย พ.ศ.2519) ไทยสมัครเป็นสมาชิกองค์การ INTELSAT เป็นอันดับที่ 49 โดยร่วมทุนถือหุ้นครั้งแรก 0.1% ปัจจุบันได้ เพิ่มทุนเป็น 1.17% เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2536 เป็นอันดับที่ 20 ในจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด นับตั้งแต่องค์การนี้เริ่มก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบันได้ส่งชุดดาวเทียม INTELSAT ขึ้นสู่อวกาศแล้วหลายรุ่น รุ่นล่าสุดคือ INTELSAT VII (ปี 2536) และในปี 2538 จะมีการพัฒนารุ่น INTELSAT VII-A มาใช้งานต่อไป
ดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติ "ไทยคม" HS-376
ไทยคม ดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติดวงแรกของรัฐบาลไทย เป็นดาวเทียมรูปทรงกระบอก ผลิตโดยบริษัท ฮิวจ์ แอร์คราฟท์ แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา มีชื่อรุ่นเรียกว่า ดาวเทียมรุ่น HS-376 เป็นดาวเทียมรุ่นแรกที่ได้รับความนิยมใช้อย่างมากเพราะมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา อายุกางใช้งานของดาวเทียมรุ่นนี้ จะเท่ากับประมาณ 15 ปี (สามารถบรรจุเชื้อเพลิงได้สำหรับการใช้งานเต็มที่ 15 ปี ซึ่งอายุการใช้งาน 15 ปี มิใช่การหมดอายุของอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์ต่างๆในตัวดาวเทียมนั้นเอง) ดังนั้นในช่วงระยะเวลาสัมปทานของโครงการฯไทยคมรวม 30 ปีจะมีการส่งดาวเทียมขึ้นสู่ตำแหน่งวงโคจรบนอวกาศอย่างน้อย 2 รุ่น และตามข้อกำหนดในสัมปทานนั้น ในการส่งดาวเทียมแต่ละรุ่นจะต้องส่ง 2 ดวงเพื่อเป็น ดาวเทียมสำรองเมื่อรวมทั้งหมดแล้วโครงการฯไทยคม จะมีการยิงดาวเทียมขึ้นสู่ตำแหน่งวงโคจรทั้งสิ้นอย่างน้อย 4 ดวง
อ้างอืง : http://www.skn.ac.th/skl/skn422/ttc/thaicom11.htm
โครงการดาวเทียมแห่งชาติ
พ.ศ. 2533 รัฐบาลไทย โดย กระทรวงคมนาคมได้ประกาศเชิญชวนให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน
ในโครงการดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติดวงแรกของไทยซึ่งต่อมา บริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์
แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด โดยบริษัท ชินวัตรแซทแทลไลท์ จำกัดได้รับความไว้วางใจจาก
กระทรวงคมนาคม ให้เป็นผู้รับสัมปทานในการทำดำเนินโครงการแห่งประวัติศาสตร์นี้ เป็นเวลา
30 ปีทั้งนี้บริษัทฯ จะได้ดำเนินการจัดสร้าง จัดส่ง และให้บริการวงจรดาวเทียมแก่ผู้ใช้ใน
ประเทศไทย และ ภูมิภาคนี้โดยใช้เงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท โดยบริษัท ชินวัตร แซทเทลไลท์
จำกัด ได้ลงนามในสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารดวงแรกของไทยกับกระทรวงคมนาคม
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2534 โครงการแห่งชาติ เนื่องจากตัวดาวเทียมและอุปกรณ์ต่าว ๆ จะเป็น
สมบัติของกระทรวงคมนาคม
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรงเกล้าฯ พระราชทาน ชื่อดาวเทียมสื่อสารดวงแรกอันเป็นสมบัติของชาติว่า ดาวเทียม " ไทยคม " ซึ่งมาจากคำว่า " ไทยคม (นาคม) " หรือ เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า " THAICOM " อันเป็นชื่อที่จะถูกจารึกไว้ในสารบบดาวเทียมของโลกตลอด
รายละเอียดโครงการ
ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกไว้ว่า ประเทศไทยได้จัดส่งดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติดวงแรก ชื่อดาวเทียม " ไทยคม-1 " เป็นดาวเทียมรุ่น HS 376 ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้รับการยอมรับและใช้งาน มากที่สุดในโลกที่สร้างโดยบริษัท Hughes Aircraft แห่งสหรัฐอเมริกา ดาวเทียม " ไทยคม " ประกอบด้วยวงจรดาวเทียม 12 ทรานส์พอนเดอร์ [ Transponder ] ใช้ความถี่ย่าน C-Band จำนวนดวงละ 10 ทรานส์พอนเดอร์ และความถี่ย่าน Ku-Band จำนวนดวงละ 2 ทรานส์พอนเดอร์ สามารถให้พื้นที่บริการ [ Footprint ] ครอบคลุมประเทศไทยและทุกประเทศในแถบอินโดจีนจนถึง เกาหลี ญี่ปุ่นและแถบชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจีนซึ่งไทยเป็นศูนย์กลางการโทรคมนาคม แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกจากการเตรียมงานโดยทีมผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯ นานกว่า 2ปี ปลายปี 2536ดาวเทียม " ไทยคม-1 " จะถูกจัดส่งโดยบริษัท Arianespace แห่งฝรั่งเศส ผู้เชี่ยวชาญในการยิงจรวดส่งดาวเทียม ขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศเหนือเส้นศูนย์สูตรที่ระดับ ความสูง 35,786 กิโลเมตร หลังจากถูกส่งเข้าสู่วงโคจรเรียบร้อยแล้วดาวเทียม " ไทยคม-1" จะพร้อมให้บริการได้ในราวต้นปี 2537 ดาวเทียม " ไทยคม-2 "จะถูกส่งขึ้นอีกในราวหนึ่งปี ถัดไปซึ่งดาวเทียมทั้ง 2 จะอยู่ ณ Orbital Slot ที่ 101 และ 78.5 องศาตะวันออกและ ดาวเทียมทั้ง 2 ดวงจะทำหน้าที่สำรองซึ่งกันและกัน
ดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติ "ไทยคม" HS-376
ไทยคม ดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติดวงแรกของรัฐบาลไทย เป็นดาวเทียมรูปทรงกระบอก ผลิตโดยบริษัท ฮิวจ์ แอร์คราฟท์ แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา มีชื่อรุ่นเรียกว่า ดาวเทียมรุ่น HS-376 เป็นดาวเทียมรุ่นแรกที่ได้รับความนิยมใช้อย่างมากเพราะมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา อายุกางใช้งานของดาวเทียมรุ่นนี้ จะเท่ากับประมาณ 15 ปี (สามารถบรรจุเชื้อเพลิงได้สำหรับการใช้งานเต็มที่ 15 ปี ซึ่งอายุการใช้งาน 15 ปี มิใช่การหมดอายุของอุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์ต่างๆในตัวดาวเทียมนั้นเอง) ดังนั้นในช่วงระยะเวลาสัมปทานของโครงการฯไทยคมรวม 30 ปีจะมีการส่งดาวเทียมขึ้นสู่ตำแหน่งวงโคจรบนอวกาศอย่างน้อย 2 รุ่น และตามข้อกำหนดในสัมปทานนั้น ในการส่งดาวเทียมแต่ละรุ่นจะต้องส่ง 2 ดวงเพื่อเป็น ดาวเทียมสำรองเมื่อรวมทั้งหมดแล้วโครงการฯไทยคม จะมีการยิงดาวเทียมขึ้นสู่ตำแหน่งวงโคจรทั้งสิ้นอย่างน้อย 4 ดวง
โครงการดาวเทียมแห่งชาติ
พ.ศ. 2533 รัฐบาลไทย โดย กระทรวงคมนาคมได้ประกาศเชิญชวนให้ภาคเอกชนเป็นผู้ลงทุน
ในโครงการดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติดวงแรกของไทยซึ่งต่อมา บริษัท ชินวัตร คอมพิวเตอร์
แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด โดยบริษัท ชินวัตรแซทแทลไลท์ จำกัดได้รับความไว้วางใจจาก
กระทรวงคมนาคม ให้เป็นผู้รับสัมปทานในการทำดำเนินโครงการแห่งประวัติศาสตร์นี้ เป็นเวลา
30 ปีทั้งนี้บริษัทฯ จะได้ดำเนินการจัดสร้าง จัดส่ง และให้บริการวงจรดาวเทียมแก่ผู้ใช้ใน
ประเทศไทย และ ภูมิภาคนี้โดยใช้เงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท โดยบริษัท ชินวัตร แซทเทลไลท์
จำกัด ได้ลงนามในสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารดวงแรกของไทยกับกระทรวงคมนาคม
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2534 โครงการแห่งชาติ เนื่องจากตัวดาวเทียมและอุปกรณ์ต่าว ๆ จะเป็น
สมบัติของกระทรวงคมนาคม
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรงเกล้าฯ พระราชทาน ชื่อดาวเทียมสื่อสารดวงแรกอันเป็นสมบัติของชาติว่า ดาวเทียม " ไทยคม " ซึ่งมาจากคำว่า " ไทยคม (นาคม) " หรือ เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า " THAICOM " อันเป็นชื่อที่จะถูกจารึกไว้ในสารบบดาวเทียมของโลกตลอด
ผู้ที่มีจินตนาการกว้างไกล และจุดประกายความใฝ่ฝันคือ อาเธอร์ ซีคลาร์ก นักเขียนนิยายและสารคดีวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ในปี ค.ศ. 1945 บทความเรื่อง .Extra-Terrestrail Relays" บทความนี้กล่าวถึงการเชื่อมระบบสัญญาณวิทยุจากมุมโลกหนึ่งไปยังอีกมุมโลกหนึ่ง ให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้สถานีถ่ายทอดวิทยุที่ลอยอยู่ในอวกาศเหนือพื้นโลกขึ้นไปประมาณ 36,000 กิโลเมตร จำนวน 3 สถานี สถานีถ่ายทอดวิทยุของคลาร์กก็คือ ดาวเทียมในปัจจบุน และเหตุที่ต้องใช้ดาวเทียมอย่างน้อย 3 ดวง ก็เพื่อให้แต่ละดวงรับส่งสัญญาณกินอาณาบริเวณ 1 ใน 3 ของโลก ในปี ค.ศ. 1957 ความคิดของคลาร์กก็เริ้มเป็นจริง เมื่อรัสเซียได้ส่งสปุตนิก 1 ดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ
- 1
- 2
- 3
- 4
- ถัดไป ›
- หน้าสุดท้าย »
แหล่งอ้างอิง:
http://www.skn.ac.th/skl/skn422/ttc/index.htm