งานครั้งที่6 บทที่10
บทที่ 10 การใช้งาน Layer ลักษณะการทำงานของ Layer เป็นเหมือนแผ่นใสวางซ้อนกันเป็นลำดับของรูปภาพ ช่วยแยกการทำงานให้ชัดเจน โดยการทำงานแต่ละครั้งจะมีผลกับ Layer ที่เลือกอยู่เท่านั้น การมองจะอยู่ในลักษณะมองจากด้านบนลงมาด้านล่าง วิธีการเรียกใช้งาน Layer คลิกที่เมนูคำสั่ง Window ที่แถบ Menu bar เลือกคำสั่ง Show Layer ถ้าหากพบว่า Hide Layers แสดงว่า Palette Layer ถูกแสดงแล้วActive Layer คือ Layer ที่กำลังถูกทำงานอยู่ สามารถเลือก Layer ได้จากการคลิกที่แถบ Layer จากนั้นช่อง Indicates if Layer is จะมีสัญลักษณ์รูปพู่กันปรากฏ หากต้องการเคลื่อนย้าย Layer โดยให้ Layer อื่นเคลื่อนย้ายตามให้คลิกที่ช่อง Indicates if Layer is ให้เป็นรูปโซ่เพื่อเชื่อม Layer เข้าด้วยกัน การเปลี่ยนลำดับของ Layer สามารถทำได้โดยคลิกเมาส์ที่ Layer ค้างไว้แล้วลากไปยังลำดับของ Layer ที่ต้องการแล้วปล่อยเมาส์ที่ช่อง Indicates Layer Visibility หากปรากฏสัญลักษณ์รูปตาหมายความว่า Layer นั้นถูกแสดงอยู่ หากต้องการซ่อน Layer ไม่ให้แสดงผล ให้คลิกที่ช่อง Indicates Layer Visibility สัญลักษณ์รูปตาจะหายไป
|
|
การสร้าง Layer ขึ้นใหม่ ให้คลิกที่ปุ่ม หากต้องการคัดลอก Layer ให้คลิก Layer ที่ต้องการแล้วปล่อยลงที่ปุ่มนี้เช่นเดียวกัน แต่ถ้าต้องการลบ Layer หลังจากคลิกเลือก Layer ที่ต้องการแล้วให้คลิกที่ปุ่ม การ Lock Layer เป็นการกำหนดคุณสมบัติต่าง ๆ เพื่อบังคับไม่ให้ Layer ถูกเปลี่ยนแปลงหรือได้รับผลกระทบใด ๆ มีทั้งหมด 4 รูปแบบดังนี้1. Lock transparent pixels ห้ามไม่ให้เติมสีหรือปรับแก้สีลงไปใน pixels ที่โปร่งแสงบน Layer ได้2. Lock image pixels ห้ามไม่ให้มีการแก้ไขหรือตกแต่งภาพบน Layer3. Lock position ห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายตำแหน่งของ Layer 4. Lock all ห้ามโดยใช้การกำหนดคุณสมบัติของทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา
|
|
|
|
การ Merge Layer เป็นการรวมชั้นของ Layer ตั้งแต่ 2 ชั้นขึ้นไปมาไว้รวมกัน โดยคลิกที่ปุ่ม แล้วจะปรากฏ Dialog สำหรับเลือกแบบต่าง ๆ ของการ Merge Layer ดังนี้ - Merge Down หรือ Merge Linked เป็นการรวม Layer ที่ใช้งานอยู่กับ Layer ที่อยู่ลำดับถัดลง โดยถ้า Layer ที่อยู่ลำดับถัดไปมีสัญลักษณ์รูปโซ่ จะมีข้อความว่า Merge Linked แต่หากไม่มีรูปโซ่จะมีข้อความว่า Merge Down- Merge Visible เป็นการรวม Layer ที่ถูกแสดงหรือมองเห็นได้ทั้งหมด- Flatten Image เป็นการรวม Layer ทุกลำดับชั้นเป็น Layer เดียว โดยมีชื่อว่า Background และจะลบ Layer ที่ถูกซ่อนทิ้งไป
หากต้องการเปลี่ยนชื่อของ Layer ให้คลิกเลือก Layer Properties จะปรากฏ Dialog ของ Layer ซึ่งสามารถเปลี่ยนชื่อของ Layer ได้ และแถบสีได้ การจัด Set ของ Layer เป็นการรวบรวม Layer ต่าง ๆ มาไว้เป็นกลุ่ม Layer Set สามารถใช้คำสั่งต่าง ๆ เหมือน Layer ทั่ว ๆ ไป เช่น การดู คัดลอก เคลื่อนย้าย และการเปลี่ยนลำดับ ยกเว้นคำสั่งบางคำสั่ง เช่น Layer Effect ดังนั้นใช้งานคำสั่งใด ๆ ของ Layer Set จะเกิดขึ้นกับ Layer ภายในทุก Layer การสร้าง Layer Set คลิกที่ปุ่ม เพื่อสร้าง Set หลังจากนั้นให้คลิกเลือก Layer ที่ต้องการจัดเก็บค้างไว้ แล้วลากที่ Layer Set จากนั้นให้ปล่อยเมาส์
หากดับเบิ้ลคลิกที่ Layer Set จะปรากฏ Dialog ของ Layer Set Properties ซึ่งสามารถเปลี่ยนชื่อของ Layer Set ได้ และแถบสีได้
การใช้งาน Layer Styleคลิกที่เมนู Layer > Layer Style > Blending Options จะปรากฏหน้าต่างดังภาพข้างล่าง (1) คือ Style ที่ต้องการใช้กับ Layer ที่เราเลือกไว้ จะมีให้เลือก 10 แบบจากบนลงล่าง(2) คือ การกำหนดค่าต่างๆ ของแต่ละ Style ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละ Style ตัวอย่างการใช้ Layer Style
Drop Shadow |
Inner Shadow |
Outer Glow |
Inner Glow |
Bevel and Emboss |
Satin |
Gradient Overlay |
Pattern Overlay |
Stroke |