• user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: SELECT data, created, headers, expire, serialized FROM cache_filter WHERE cid = '3:2d773dc5cb5e6f4197d05e61b8c48a6c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 27.
  • user warning: Table 'cache_filter' is marked as crashed and should be repaired query: UPDATE cache_filter SET data = '<!--paging_filter--><p>\n<span style=\"color: #3333ff\"><strong><u>อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง</u></strong></span></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><!--/colorc--><!--/colorc--><p>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<img src=\"http://www.siamfreestyle.com/images/board_images/pay01.jpg\" style=\"padding-right: 10px; float: left\" />อดีตกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองภูกามยาวลำดับที่ 9 ระหว่างปี พ.ศ. 1801 - 1841 เป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองมาก ประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณะเทศบาลเมืองพะเยา (สวนสมเด็จย่า 90) หน้ากว๊านพะเยา เป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับพ่อขุนเม็งรายแห่งเมืองเชียงราย และพ่อขุนรามคำแหงแห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งทั้งสามพระองค์ได้กระทำสัตย์ต่อกัน ณ บริเวณแม่น้ำอิง ซึ่งปัจจุบันอยู่บริเวณสถานีประมงน้ำจืดพะเยา พ่อขุนงำเมืองเป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์กล่าวกันว่าเมื่อพระองค์เสด็จไปทางไหน แดดก็บ่อฮ้อน ฝนก็บ่อฮำ จักให้แดดก็แดด จักให้บดก็บด จึงได้พระนามว่างำเมือง\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong><u></u></strong></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong><u></u></strong></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong><u>วัดพระเจ้านั่งดิน</u></strong></span></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><!--/colorc--><!--/colorc--><p>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<img src=\"http://www.siamfreestyle.com/images/board_images/pay02.jpg\" style=\"padding-right: 10px; float: left\" />อยู่ในตำบลเวียง ไปตามทางหลวง 1148 ห่างจากตัวอำเภอ 4 กิโลเมตร เป็นวัดที่องค์พระประธานของวัดไม่มีฐานชุกชีรองรับเหมือนกับพระประธานองค์อื่นๆ เคยมีราษฎรสร้างฐานชุกชีเพื่ออัญเชิญพระประธานขึ้นประดิษฐาน แต่ปรากฏว่าพยายามยกเท่าไรก็ยกไม่ขึ้น จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า พระนั่งดิน\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong><u></u></strong></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong><u></u></strong></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong><u></u></strong></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"><strong><u>วัดศรีโคมคำ</u></strong> </span></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><!--/colorc--><!--/colorc--><p>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #ff6600\"><img width=\"157\" src=\"http://www.siamfreestyle.com/images/board_images/pay06.jpg\" height=\"190\" style=\"padding-right: 10px; float: left\" /></span>เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี และวัดพัฒนาตัวอย่าง ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกว่า วัดพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนาไทย ขนาดหน้าตักกว้าง 16 เมตร สูง 18 เมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2034 - 2067 พระเจ้าตนหลวง หรือ พระเจ้าองค์หลวง มิใช่เป็นแต่เพียงพระพุทธรูปคู่เมืองพะเยาเท่านั้น แต่ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอาณาจักรล้านนาไทยด้วย วันวิสาขบูชามีงานนมัสการพระเจ้าตนหลวงเป็นประจำทุกปีเรียกว่า งานประเพณีนมัสการพระเจ้าองค์หลวงเดือนแปดเป็ง บริเวณวัดยังมีพระอุโบสถกลางน้ำตั้งอยู่ริมกว๊านพะเยา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง ลวดลายวิจิตรสวยงาม วาดโดย อ.อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #009900\"><strong><u></u></strong></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #009900\"><strong><u>กว๊านพะเยา</u></strong> </span></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><!--/colorc--><!--/colorc--><p>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #009900\"><img src=\"http://www.siamfreestyle.com/images/board_images/pay07.jpg\" style=\"padding-right: 10px; float: left\" /></span>กว๊านพะเยา กว๊าน หมายถึง หนองน้ำหรือบึงน้ำขนาดใหญ่ คำนี้มีใช้ในท้องถิ่นล้านนาเฉพาะที่จังหวัดพะเยาแห่งเดียวเท่านั้น กว๊านพะเยา เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ รูปพระจันทร์เสี้ยวเกือบครึ่งวงกลม แหว่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกเมื่อประมาณ ๗๐ ล้านปีมาแล้ว โอบล้อมดอยแม่ใจซึ่งเป็นภูเขาสูงยาว เป็นแอ่งน้ำที่รวบรวมของลำห้วยต่างๆ ๑๘ สาย ต่อมาในปี ๒๔๗๘ กรมประมงได้ตั้งสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยาขึ้นบริเวณต้นแม่น้ำอิง และสร้างฝายกั้นน้ำทำให้เกิดเป็นบึงขนาดใหญ่ มีความลึกเฉลี่ย ๑.๕ เมตร กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่สุดของจังหวัดพะเยา เป็นทั้งแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญที่สุดของภาคเหนือตอนบน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ประมาณ ๑๒,๘๓๑ ไร่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลากราย ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาจีน ปลาไน รวมทั้งปลานิล อันลือชื่อของจังหวัดพะเยา ทัศนียภาพโดยรอบกว๊านพะเยา มีความร่มรื่น สามารถมองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อน งดงามมาก บริเวณริมกว๊านมีร้านอาหารและจัดเป็นสวนสาธารณะเหมาะที่จะไปนั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจในยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกริมกว๊านเป็นภาพที่สวยงามมาก\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #009900\"><strong><u></u></strong></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #009900\"><strong><u>อุทยานแห่งชาติภูซาง</u></strong></span></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><!--/colorc--><!--/colorc--><p>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<img src=\"http://www.siamfreestyle.com/images/board_images/pay12.jpg\" style=\"padding-right: 10px; float: left\" />อุทยานแห่งชาติภูซาง เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น อยู่ในเขตกิ่งอำเภอภูซาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีอาณาเขตติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นแนวเขตยาวประมาณ 30 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 178,049 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ พันธุ์ไม้ที่มีค่า ได้แก่ ไม้ยาง ไม้ตะเคียน จำปีป่า ยมหอม ประดู่ สัก และรัง เป็นต้น พื้นที่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มียอดเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำลาว น้ำเปื่อย น้ำบง และน้ำญวณ เพื่อใช้หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมของอำเภอเชียงคำ กิ่งอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย นอกจากธรรมชาติที่สมบูรณ์ บริเวณอุทยานฯ ยังมีเต่าปูลู ซึ่งเป็นเต่าพันธุ์ที่หายากและใกล้สูญพันธ์ มีขนาดเล็ก ตัวเตี้ย หางยาว และด้วยเป็นเต่าพันธุ์หัวโต ขาทั้ง 4 ข้างและหางไม่สามารถหดเข้ากระดองได้ เวลามีศัตรูหรือภัยมา โดยเฉพาะเวลาเกิดไฟไหม้ป่าจะพบเต่าปูลูถูกไฟไหม้ตายเป็นประจำ เต่าปูลูจึงถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ในการป้องกันไฟป่าของเมืองไทย เต่าปูลูเป็นเต่าที่ชอบอยู่ในป่าอุดมสมบูรณ์บนภูเขาสูงใกล้น้ำตก หรือลำห้วยที่มีน้ำใสไหลผ่านตลอดเวลา สามารถชมเต่าพันธุ์นี้ได้ในเวลากลางคืนขณะ กำลังออกหากิน อุทยานมีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่ </p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>น้ำตกภูซาง</u></strong> </p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีน้ำตลอดปี สูง 25 เมตร เป็นน้ำตกที่เป็นน้ำอุ่น ๓๓ องศาเซลเซียส น้ำใส ไม่มีกลิ่นของกำมะถัน น้ำตกนี้ตั้งอยู่ริมถนนอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 300 เมตร ฝั่งตรงข้ามน้ำตกมีร้านสวัสดิการสามารถนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารได้</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>บ่อน้ำซับอุ่น</u></strong> </p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>เป็นบ่อซับอุ่นตามธรรมชาติอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกภูซาง ด้านบนของน้ำตกภูซางสภาพป่าโดยรอบเป็นป่าดิบชื้นและป่าพรุที่สมบูรณ์</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>ถ้ำผาแดง</u></strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p> เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ลึก 450 เมตร เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม อยู่ห่างจากอุทยานฯ 48 กิโลเมตร การเดินเที่ยวชมถ้ำต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง และควรแจ้งล่วงหน้า</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>ถ้ำน้ำลอด</u></strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p> เป็นถ้ำหินขนาดเล็กอยู่เชิงดอยผาแดง ห่างจากถ้ำผาแดงประมาณ 10เมตร ถ้ำลึก 250เมตร มีธารน้ำไหลผ่านตลอดทั้งถ้ำ ระดับน้ำลึก 50–100เซนติเมตร การเที่ยวชมภายในถ้ำต้องเดินลุยน้ำตลอด และต้องมีคนนำทาง</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>ดอยผาดำ</u></strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p> เป็นภูเขาที่มีหน้าผาขนาดใหญ่เป็นปฎิมากรรมของธรรมชาติ ที่มีความสวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,096เมตร ดอยผาดำตั้งตระหง่านอยู่เหนือหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูซางที่ 1 (ผาแดง) อยู่ในพื้นที่ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อยู่ห่างจากอุทยานฯ 47กิโลเมตร การเดินเที่ยวชมต้องใช้เวลา 3-4ชั่วโมง และควรมีเจ้าหน้าที่นำทาง </p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>ถ้ำหลวง</u></strong> </p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ลักษณะถ้ำกว้างแต่ไม่ลึก ประมาณ 200 เมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 2 (ห้วยสา) ห่างจากหน่วยพิทักษ์ฯ 500 เมตร และห่างจากที่ทำการอุทยาน 32 กิโลเมตร การเดินเข้าชมถ้ำต้องปีนเขาบ้างเล็กน้อย และควรมีเจ้าหน้าที่นำทางถ้ำน้ำดัง เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีน้ำตก ภายในมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก เคยเป็นที่ซ่อนของ ผกค.</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ</u></strong> </p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>อุทยานฯ มี 3 เส้นทาง ระยะทาง 1,400 เมตร (เส้นห้วยเมี่ยง ) ระยะทาง 1,700 เมตร (เส้นน้ำตกภูซาง) และระยะทาง 2,400 เมตร (เส้นห้วยสา) แต่ละเส้นทางใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง จะมีป้ายสื่อความหมายสามารถเดินเองได้ </p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>สิ่งอำนวยความสะดวก</u></strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>\nอุทยานมีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ และร้านค้าสวัสดิการบริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูซาง ตำบลภูซาง กิ่งอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา 56110 โทร. 0 5440 1099 </p>\n<!--coloro:#3366FF--><!--coloro:#3366FF--><p><span style=\"color: #3366ff\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>การเดินทาง <br />\n</u></strong><span style=\"color: #000000\">รถยนต์ อุทยานฯ อยู่ห่างจากจังหวัดพะเยา 90 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสายพะเยา-ดอกคำใต้ –จุน-เฃียงคำ และห่างจากอำเภอเชียงคำไปตามทางหลวงหมายเลข 1093 ประมาณ 20กิโลเมตร จากเชียงคำก่อนถึงโรงเรียนภูซางวิทยาคมเลี้ยวขวาเข้ามาผ่านที่ว่าการกิ่งอำเภอภูซาง หรือเดินทางจากจังหวัดเชียงราย-เทิง-เชียงคำ ระยะทาง 100 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข1021</span></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc-->\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #009900\"><strong><u></u></strong></span>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #009900\"><strong><u>วนอุทยานภูลังกา</u></strong> </span></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><!--/colorc--><!--/colorc--><p>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<span style=\"color: #009900\"><img src=\"http://www.siamfreestyle.com/images/board_images/pay13.jpg\" style=\"padding-right: 10px; float: left\" /></span>สัมผัสทะเลหมอก ดอกไม้ป่า พิชิตภูลังกา ภูนม ชมอาทิตย์ขึ้นลง เข้าดงก่อโบราณ กังวาลเสียงนก น้ำตกสวยใส ประทับใจดอกโคลงเคลงดอยภูลังกา ภาษาชาวเขาเผ่าเมี่ยน เรียกว่า &quot;ฟินจาเบาะ&quot; หมายความว่า &quot;ภูเทวดา&quot; เป็นยอดดอยที่สวยงามมีความสูง 1,720 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงที่สุดในเทือกเขาสันปันน้ำ ไทย-ลาว ด้านทิศเหนือ มีพื้นที่ประมาณ 7,800 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลผ่าช้าง อ.ปง จ.พะเยา สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นป่าดิบเขา เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำยม มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากชมทะเลหมอกดวงอาทิตย์ขึ้นลง และดอกไม้ป่าสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว มีถ้ำหลบภัยของ ผกค.ในอดีต มีน้ำตกสวยงาม<br />\nนอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้หายากเช่น ต้นชมพูภูพาน เนียมแดง เอื้องสีตาล เทียนธารา สัตฤาษี เป็นต้น สำหรับสัตว์ป่ามีจำนวนมากกว่า 100 ชนิด เช่น เสือโคร่ง หมี กวาง เก้ง หมูป่า งูจงอาง ผีเสื้อ เป็นต้น สำหรับนกป่าประจำถิ่นและนกอพยพ ซึ่งสวยงามมีมากกว่า 200 ชนิด เช่น นกพญาไฟ นกเป้า เป็นต้น จึงเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ลักษณะภูมิอากาศในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 7 องศา สูงสุดเฉลี่ย 35 องศามีฝนตกชุกในช่วงฤดูฝน</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong></strong></p>\n<!--sizeo:3--><!--sizeo:3--><p><span style=\"font-size: 12pt; line-height: 100%\"></span></p>\n<!--/sizeo--><!--/sizeo--><p>แหล่งท่องเที่ยว</p>\n<!--sizec--><!--sizec--><p></p>\n<!--/sizec--><!--/sizec--><p></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p></p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>ยอดดอยภูลังกา</strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p> มีความสูงประมาณ 1,720 เมตร สามารถเฝ้าชมวิวทะเลเมฆและทะเลหมอก ดอกไม้ป่า ชมอาทิตย์ขึ้นลงท่ามกลางทะเลภูเขาสวยงามมาก นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสอากาศสดชื่นเย็นสบายตลอดปี</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>ยอดดอยภูนม </strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>มีความสูงประมาณ 1,600 เมตร สามารถชมวิวได้ 360 องศา นอกจากนี้สามารถใช้มุมมองในลักษณะรูปร่างจินตนาการได้ถึง 3 มิติ คือคล้ายกำแพงเมืองจีนคล้ายลิงกอริลล่าและคล้ายนมสาว</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>ทุ่งดอกโคลงเคลง ต้นเอนอ้า หรือบานอ้า </strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>ภาษาคำเมืองเรียก ต้นดอกข้าวจี่ ภาษาม้ง เรียกว่า จื๋อจั่วท้ง ภาษาเย้า เรียก ต้นกงุ้งซัง เป็นไม้พุ่มดอกสีม่วง มีลักาณะสวยงามออกดอกบานสะพรั่ง ในช่วงปลายฝนต้นหนาว และช่วงเทศกาลสงกรานตขึ้นรวมกันเป็นทุ่งกว้าง และกระจัดกระจายทั่วไปในวนอุทยานภูลังกา การใช้ประโยชน์ รากของต้นโคลงเคลงมีรสขม มีสรรพคุณบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ บำรุงดี บำรุงตับและไต แก้อ่อนเพลีย</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>ข่าดอกสีแดง</strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p> ออกดอกบานสะพรั่งในช่วงเดือนกรกฎาคม โดยขึ้นกระจายทั่วไปบนดอยภูลังกาและดอยภูนม ลักษณะช่อดอกทรงกระบอกยาวประมาณ 30 ซม.<br />\nน้ำตกภูลังกา เป็นน้ำตกน้ำใสเย็นมี 2 ชั้น โดยชั้นที่ 1 มีความสูง 30 เมตร และชั้นที่ 2 สูง 20 เมตร มีความสวยงามในช่วงฤดูฝน</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>ลานหินล้านปี </strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>มีสภาพเป็นลานหินบนสันดอยภูลังกา มีมอสเกาะตามหินโดยมีดอกไม้ป่า ขึ้นกระจัดกระจาย เช่น ต้นบีโกเนีย กล้วยไม้ป่า ชมพูพูพาน โคลงเคลง เทียนป่า และตาเหินไหว เป็นต้น สวยงามมากข่วงปลายฝนต้นหนาว</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>หินแยงฟ้า</strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p> เป็นแท่งหินยื่นโผล่ขึ้นไปบนฟ้าอยู่ปลายสุดของยอดดอยภูลังกา</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>ป่าก่อโบราณ</strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p> เป็นสภาพป่าดิบเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์พืชสมุนไพรและต้นก่อขนาดใหญ่จำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพันธุ์พืชดอกไม้ป่ากล้วยไม้ป่า และชมนกได้อย่างสนุกตื่นเต้นโดยเฉพาะช่วยปลายฝนต้นหนาว</p>\n<!--coloro:#CC0000--><!--coloro:#CC0000--><p><span style=\"color: #cc0000\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>ร่องรอยตำนาน ผกค</strong>.</p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>ในอดีต ดอยภูลังกาในอดีตเป็นฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มีสนามเพลาะ, หลุมระเบิด และถ้ำหลบภัยหลงเหลือให้ได้ดูชม</p>\n<!--coloro:#009900--><!--coloro:#009900--><p><span style=\"color: #009900\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong>ห้องเรียนธรรมชาติ </strong></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc--><p>\n- ได้จัดให้มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติจำนวน 2 เส้นทาง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร<br />\n- จัดแสดงสงวนพันธุ์พืชสมุนไพร ไว้ให้ได้ศึกษาหาความรู้<br />\n- สวนว่านตามตำราโบราณให้ได้ศึกษาหาชมซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยากยิ่ง เดือนมิถุนายน-สิงหาคมเป็นช่วงที่ว่านมีความสวยงาม<br />\n- สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีไทย<br />\n- สวนพันธุ์ไม้ประจำวันเกิด<br />\n- สวนพันธุ์กล้วยไม้ป่าของไทย พันธุ์แท้สลับกันออกดอกตลอดทั้งปี<br />\nห้องเรียนธรรมชาติของวนอุทยานภูลังกา จะเป็นที่ศึกษาหาความรู้ของต้นพันธุ์ไม้ต้นจริงที่ไม่ใช่ในรูปภาพ หรือจินตนาการจากข้อเขียนตามหนังสือ อันจะทำให้ผู้ที่ต้องการศึกษาพันธุ์พืชของจริงได้ดูชม และเกิดความรักต้นไม้รักธรรมชาติ พันธุ์ไม้ป่าหายาก ตามเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติในวนอุทยาน จะพบความแปลกกับพันธุ์ไม้หายาก ที่ขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ต้นชมพูภูพาน เนียมแดง เหมือดคนแดง สัตฤาษี เทียนธารา ตาเหินไหว ผักเผ็ดข้าวก่ำ เป็นต้น<br />\nที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก วนอุทยานภูลังกามีบ้านพัก, ลานกางเต็นท์, เส้นทางปั่นจักรยาน, เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมนก ชมป่าธรรมชาติ สำหรับที่พักและลานกางเต็นท์ มีจำนวนจำกัด ควรติดต่อกับวนอุทยานภูลังกาล่วงหน้าก่อนตั้งโปรแกรมการเดินทาง</p>\n<p>วนอุทยานภูลังกา ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา โทร. 0 1883 0307<br />\nสำนักบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ถ.สิงหไคล ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 โทร. 0 5371 1402<br />\n<strong>ข้อจำกัดของวนอุทยานภูลังกา</strong><br />\n1. เส้นทางรถยนต์ในเขตวนอุทยานเป็นทางดินแดงขึ้นเขาสูงแคบชั้นโค้งคดเคี้ยว ขึ้นได้เฉพาะกับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น<br />\n2. รถยนต์ธรรมดาสามารถขึ้นได้ถึงห้องเรียนธรรมชาติของวนอุทยานภูลังกาและสามารถเดินป่า ตามเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ<br />\n3.ในเขตวนอุทยานไม่มีไฟฟ้าควรจัดเตรียมอุปกรณ์ส่องสว่างให้พร้อม<br />\n4. ในเขตวนอุทยานห้ามทิ้งขยะนักท่องเที่ยวต้องนำขยะกลับออกไปทิ้งที่บ้าน<br />\n5. อาหารและอุปกรณ์พักแรมควรเตรียมไปให้พร้อม<br />\n6.วนอุทยานภูลังกาเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 18.00 น.</p>\n<!--coloro:#3366FF--><!--coloro:#3366FF--><p><span style=\"color: #3366ff\"></span></p>\n<!--/coloro--><!--/coloro--><p><strong><u>การเดินทาง</u> </strong><br />\n<span style=\"color: #000000\">จากจังหวัดพะเยา เดินทางมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1021 ผ่านอำเภอดอกคำใต้ อำเภอจุน และจนถึงอำเภอเชียงคำ เปลี่ยนเส้นทางไปใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1148 ระยะการเดินทางจากจังหวัดพะเยาถึงวนอุทยานภูลังกาประมาณ 120 กิโลเมตร<br />\nจากจังหวัดเชียงราย เดินทางมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1020 ผ่านอำเภอเทิง มาจนถึงอำเภอเชียงคำ เปลี่ยนเส้นทางไปใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1148 ระยะการเดินทางประมาณ 140 กิโลเมตร<br />\nการเดินทางขึ้นไปวนอุทยานภูลังกา จากอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1148 ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จะถึงเส้นทางแยกเข้าวนอุทยานภูลังกา เดินทางขึ้นเขาอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการสำนักงานวนอุทยานภูลังกา<br />\n- ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง ควรเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ถึงจะขึ้นถึงยอดดอยภูลังกาได้สะดวกปลอดภัย<br />\n- ผู้ที่ไม่มีรถขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถขึ้นได้โดยจ้างเหมารถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ของชุมชนได้ตรงปากทางขึ้นวนอุทยานภูลังกา</span></p>\n<!--colorc--><!--colorc--><p></p>\n<!--/colorc--><!--/colorc-->\n<p style=\"overflow: hidden\">\n&nbsp;\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<strong><span style=\"color: #ff6600\">อ้างอิง</span></strong>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<a href=\"http://www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=386\">http://www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=386</a>  \n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<a target=\"_blank\" href=\"http://www.tat.or.th/travelplace.asp?prov_id=56\"><u>http://www.tat.or.th/travelplace.asp?prov_id=56</u></a>\n</p>\n<p style=\"overflow: hidden\">\n<a target=\"_blank\" href=\"http://www.tat.or.th/travelplace.asp?prov_id=56\"><u>http://www.tat.or.th/travelplace.asp?prov_id=56</u></a>\n</p>\n', created = 1715363489, expire = 1715449889, headers = '', serialized = 0 WHERE cid = '3:2d773dc5cb5e6f4197d05e61b8c48a6c' in /home/tgv/htdocs/includes/cache.inc on line 112.

สถานที่ท่องเที่ยว จ.พะเยา

รูปภาพของ abp3543

อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง

อดีตกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองภูกามยาวลำดับที่ 9 ระหว่างปี พ.ศ. 1801 - 1841 เป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองมาก ประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณะเทศบาลเมืองพะเยา (สวนสมเด็จย่า 90) หน้ากว๊านพะเยา เป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับพ่อขุนเม็งรายแห่งเมืองเชียงราย และพ่อขุนรามคำแหงแห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งทั้งสามพระองค์ได้กระทำสัตย์ต่อกัน ณ บริเวณแม่น้ำอิง ซึ่งปัจจุบันอยู่บริเวณสถานีประมงน้ำจืดพะเยา พ่อขุนงำเมืองเป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์กล่าวกันว่าเมื่อพระองค์เสด็จไปทางไหน แดดก็บ่อฮ้อน ฝนก็บ่อฮำ จักให้แดดก็แดด จักให้บดก็บด จึงได้พระนามว่างำเมือง

 

 

 

วัดพระเจ้านั่งดิน

อยู่ในตำบลเวียง ไปตามทางหลวง 1148 ห่างจากตัวอำเภอ 4 กิโลเมตร เป็นวัดที่องค์พระประธานของวัดไม่มีฐานชุกชีรองรับเหมือนกับพระประธานองค์อื่นๆ เคยมีราษฎรสร้างฐานชุกชีเพื่ออัญเชิญพระประธานขึ้นประดิษฐาน แต่ปรากฏว่าพยายามยกเท่าไรก็ยกไม่ขึ้น จึงเรียกสืบต่อกันมาว่า พระนั่งดิน

 

 

 

วัดศรีโคมคำ

เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี และวัดพัฒนาตัวอย่าง ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกว่า วัดพระเจ้าตนหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปเชียงแสนองค์ใหญ่ที่สุดในล้านนาไทย ขนาดหน้าตักกว้าง 16 เมตร สูง 18 เมตร สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2034 - 2067 พระเจ้าตนหลวง หรือ พระเจ้าองค์หลวง มิใช่เป็นแต่เพียงพระพุทธรูปคู่เมืองพะเยาเท่านั้น แต่ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอาณาจักรล้านนาไทยด้วย วันวิสาขบูชามีงานนมัสการพระเจ้าตนหลวงเป็นประจำทุกปีเรียกว่า งานประเพณีนมัสการพระเจ้าองค์หลวงเดือนแปดเป็ง บริเวณวัดยังมีพระอุโบสถกลางน้ำตั้งอยู่ริมกว๊านพะเยา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนัง ลวดลายวิจิตรสวยงาม วาดโดย อ.อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ

 

 

 

กว๊านพะเยา

กว๊านพะเยา กว๊าน หมายถึง หนองน้ำหรือบึงน้ำขนาดใหญ่ คำนี้มีใช้ในท้องถิ่นล้านนาเฉพาะที่จังหวัดพะเยาแห่งเดียวเท่านั้น กว๊านพะเยา เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ รูปพระจันทร์เสี้ยวเกือบครึ่งวงกลม แหว่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกเมื่อประมาณ ๗๐ ล้านปีมาแล้ว โอบล้อมดอยแม่ใจซึ่งเป็นภูเขาสูงยาว เป็นแอ่งน้ำที่รวบรวมของลำห้วยต่างๆ ๑๘ สาย ต่อมาในปี ๒๔๗๘ กรมประมงได้ตั้งสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยาขึ้นบริเวณต้นแม่น้ำอิง และสร้างฝายกั้นน้ำทำให้เกิดเป็นบึงขนาดใหญ่ มีความลึกเฉลี่ย ๑.๕ เมตร กว๊านพะเยาเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญที่สุดของจังหวัดพะเยา เป็นทั้งแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญที่สุดของภาคเหนือตอนบน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ประมาณ ๑๒,๘๓๑ ไร่ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลากราย ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาจีน ปลาไน รวมทั้งปลานิล อันลือชื่อของจังหวัดพะเยา ทัศนียภาพโดยรอบกว๊านพะเยา มีความร่มรื่น สามารถมองเห็นแนวทิวเขาสลับซับซ้อน งดงามมาก บริเวณริมกว๊านมีร้านอาหารและจัดเป็นสวนสาธารณะเหมาะที่จะไปนั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจในยามเย็น ชมพระอาทิตย์ตกริมกว๊านเป็นภาพที่สวยงามมาก

อุทยานแห่งชาติภูซาง

อุทยานแห่งชาติภูซาง เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยผาหม่น อยู่ในเขตกิ่งอำเภอภูซาง อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีอาณาเขตติดต่อกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวเป็นแนวเขตยาวประมาณ 30 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 178,049 ไร่ พื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าดิบเขา ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ พันธุ์ไม้ที่มีค่า ได้แก่ ไม้ยาง ไม้ตะเคียน จำปีป่า ยมหอม ประดู่ สัก และรัง เป็นต้น พื้นที่มีลักษณะเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน มียอดเขาดอยผาหม่น ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำลาว น้ำเปื่อย น้ำบง และน้ำญวณ เพื่อใช้หล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมของอำเภอเชียงคำ กิ่งอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา และอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย นอกจากธรรมชาติที่สมบูรณ์ บริเวณอุทยานฯ ยังมีเต่าปูลู ซึ่งเป็นเต่าพันธุ์ที่หายากและใกล้สูญพันธ์ มีขนาดเล็ก ตัวเตี้ย หางยาว และด้วยเป็นเต่าพันธุ์หัวโต ขาทั้ง 4 ข้างและหางไม่สามารถหดเข้ากระดองได้ เวลามีศัตรูหรือภัยมา โดยเฉพาะเวลาเกิดไฟไหม้ป่าจะพบเต่าปูลูถูกไฟไหม้ตายเป็นประจำ เต่าปูลูจึงถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ในการป้องกันไฟป่าของเมืองไทย เต่าปูลูเป็นเต่าที่ชอบอยู่ในป่าอุดมสมบูรณ์บนภูเขาสูงใกล้น้ำตก หรือลำห้วยที่มีน้ำใสไหลผ่านตลอดเวลา สามารถชมเต่าพันธุ์นี้ได้ในเวลากลางคืนขณะ กำลังออกหากิน อุทยานมีสถานที่น่าสนใจ ได้แก่

น้ำตกภูซาง

เป็นน้ำตกขนาดเล็ก มีน้ำตลอดปี สูง 25 เมตร เป็นน้ำตกที่เป็นน้ำอุ่น ๓๓ องศาเซลเซียส น้ำใส ไม่มีกลิ่นของกำมะถัน น้ำตกนี้ตั้งอยู่ริมถนนอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยาน 300 เมตร ฝั่งตรงข้ามน้ำตกมีร้านสวัสดิการสามารถนั่งพักผ่อนและรับประทานอาหารได้

บ่อน้ำซับอุ่น

เป็นบ่อซับอุ่นตามธรรมชาติอุณหภูมิประมาณ 35 องศาเซลเซียส เป็นต้นกำเนิดของน้ำตกภูซาง ด้านบนของน้ำตกภูซางสภาพป่าโดยรอบเป็นป่าดิบชื้นและป่าพรุที่สมบูรณ์

ถ้ำผาแดง

เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ลึก 450 เมตร เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม อยู่ห่างจากอุทยานฯ 48 กิโลเมตร การเดินเที่ยวชมถ้ำต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง และควรแจ้งล่วงหน้า

ถ้ำน้ำลอด

เป็นถ้ำหินขนาดเล็กอยู่เชิงดอยผาแดง ห่างจากถ้ำผาแดงประมาณ 10เมตร ถ้ำลึก 250เมตร มีธารน้ำไหลผ่านตลอดทั้งถ้ำ ระดับน้ำลึก 50–100เซนติเมตร การเที่ยวชมภายในถ้ำต้องเดินลุยน้ำตลอด และต้องมีคนนำทาง

ดอยผาดำ

เป็นภูเขาที่มีหน้าผาขนาดใหญ่เป็นปฎิมากรรมของธรรมชาติ ที่มีความสวยงามอีกรูปแบบหนึ่ง มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,096เมตร ดอยผาดำตั้งตระหง่านอยู่เหนือหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติภูซางที่ 1 (ผาแดง) อยู่ในพื้นที่ตำบลร่มเย็น อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อยู่ห่างจากอุทยานฯ 47กิโลเมตร การเดินเที่ยวชมต้องใช้เวลา 3-4ชั่วโมง และควรมีเจ้าหน้าที่นำทาง

ถ้ำหลวง

เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ลักษณะถ้ำกว้างแต่ไม่ลึก ประมาณ 200 เมตร เป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานที่ 2 (ห้วยสา) ห่างจากหน่วยพิทักษ์ฯ 500 เมตร และห่างจากที่ทำการอุทยาน 32 กิโลเมตร การเดินเข้าชมถ้ำต้องปีนเขาบ้างเล็กน้อย และควรมีเจ้าหน้าที่นำทางถ้ำน้ำดัง เป็นถ้ำขนาดใหญ่มีน้ำตก ภายในมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามมาก เคยเป็นที่ซ่อนของ ผกค.

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ

อุทยานฯ มี 3 เส้นทาง ระยะทาง 1,400 เมตร (เส้นห้วยเมี่ยง ) ระยะทาง 1,700 เมตร (เส้นน้ำตกภูซาง) และระยะทาง 2,400 เมตร (เส้นห้วยสา) แต่ละเส้นทางใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง จะมีป้ายสื่อความหมายสามารถเดินเองได้

สิ่งอำนวยความสะดวก

อุทยานมีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ และร้านค้าสวัสดิการบริการนักท่องเที่ยว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูซาง ตำบลภูซาง กิ่งอำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา 56110 โทร. 0 5440 1099

การเดินทาง
รถยนต์ อุทยานฯ อยู่ห่างจากจังหวัดพะเยา 90 กิโลเมตร ไปตามเส้นทางสายพะเยา-ดอกคำใต้ –จุน-เฃียงคำ และห่างจากอำเภอเชียงคำไปตามทางหลวงหมายเลข 1093 ประมาณ 20กิโลเมตร จากเชียงคำก่อนถึงโรงเรียนภูซางวิทยาคมเลี้ยวขวาเข้ามาผ่านที่ว่าการกิ่งอำเภอภูซาง หรือเดินทางจากจังหวัดเชียงราย-เทิง-เชียงคำ ระยะทาง 100 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข1021

วนอุทยานภูลังกา

สัมผัสทะเลหมอก ดอกไม้ป่า พิชิตภูลังกา ภูนม ชมอาทิตย์ขึ้นลง เข้าดงก่อโบราณ กังวาลเสียงนก น้ำตกสวยใส ประทับใจดอกโคลงเคลงดอยภูลังกา ภาษาชาวเขาเผ่าเมี่ยน เรียกว่า "ฟินจาเบาะ" หมายความว่า "ภูเทวดา" เป็นยอดดอยที่สวยงามมีความสูง 1,720 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง สูงที่สุดในเทือกเขาสันปันน้ำ ไทย-ลาว ด้านทิศเหนือ มีพื้นที่ประมาณ 7,800 ไร่ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลผ่าช้าง อ.ปง จ.พะเยา สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นป่าดิบเขา เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำยม มีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากชมทะเลหมอกดวงอาทิตย์ขึ้นลง และดอกไม้ป่าสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาว มีถ้ำหลบภัยของ ผกค.ในอดีต มีน้ำตกสวยงาม
นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้หายากเช่น ต้นชมพูภูพาน เนียมแดง เอื้องสีตาล เทียนธารา สัตฤาษี เป็นต้น สำหรับสัตว์ป่ามีจำนวนมากกว่า 100 ชนิด เช่น เสือโคร่ง หมี กวาง เก้ง หมูป่า งูจงอาง ผีเสื้อ เป็นต้น สำหรับนกป่าประจำถิ่นและนกอพยพ ซึ่งสวยงามมีมากกว่า 200 ชนิด เช่น นกพญาไฟ นกเป้า เป็นต้น จึงเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ลักษณะภูมิอากาศในช่วงฤดูหนาวอากาศเย็น อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 7 องศา สูงสุดเฉลี่ย 35 องศามีฝนตกชุกในช่วงฤดูฝน

แหล่งท่องเที่ยว

ยอดดอยภูลังกา

มีความสูงประมาณ 1,720 เมตร สามารถเฝ้าชมวิวทะเลเมฆและทะเลหมอก ดอกไม้ป่า ชมอาทิตย์ขึ้นลงท่ามกลางทะเลภูเขาสวยงามมาก นอกจากนี้ยังสามารถสัมผัสอากาศสดชื่นเย็นสบายตลอดปี

ยอดดอยภูนม

มีความสูงประมาณ 1,600 เมตร สามารถชมวิวได้ 360 องศา นอกจากนี้สามารถใช้มุมมองในลักษณะรูปร่างจินตนาการได้ถึง 3 มิติ คือคล้ายกำแพงเมืองจีนคล้ายลิงกอริลล่าและคล้ายนมสาว

ทุ่งดอกโคลงเคลง ต้นเอนอ้า หรือบานอ้า

ภาษาคำเมืองเรียก ต้นดอกข้าวจี่ ภาษาม้ง เรียกว่า จื๋อจั่วท้ง ภาษาเย้า เรียก ต้นกงุ้งซัง เป็นไม้พุ่มดอกสีม่วง มีลักาณะสวยงามออกดอกบานสะพรั่ง ในช่วงปลายฝนต้นหนาว และช่วงเทศกาลสงกรานตขึ้นรวมกันเป็นทุ่งกว้าง และกระจัดกระจายทั่วไปในวนอุทยานภูลังกา การใช้ประโยชน์ รากของต้นโคลงเคลงมีรสขม มีสรรพคุณบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ บำรุงดี บำรุงตับและไต แก้อ่อนเพลีย

ข่าดอกสีแดง

ออกดอกบานสะพรั่งในช่วงเดือนกรกฎาคม โดยขึ้นกระจายทั่วไปบนดอยภูลังกาและดอยภูนม ลักษณะช่อดอกทรงกระบอกยาวประมาณ 30 ซม.
น้ำตกภูลังกา เป็นน้ำตกน้ำใสเย็นมี 2 ชั้น โดยชั้นที่ 1 มีความสูง 30 เมตร และชั้นที่ 2 สูง 20 เมตร มีความสวยงามในช่วงฤดูฝน

ลานหินล้านปี

มีสภาพเป็นลานหินบนสันดอยภูลังกา มีมอสเกาะตามหินโดยมีดอกไม้ป่า ขึ้นกระจัดกระจาย เช่น ต้นบีโกเนีย กล้วยไม้ป่า ชมพูพูพาน โคลงเคลง เทียนป่า และตาเหินไหว เป็นต้น สวยงามมากข่วงปลายฝนต้นหนาว

หินแยงฟ้า

เป็นแท่งหินยื่นโผล่ขึ้นไปบนฟ้าอยู่ปลายสุดของยอดดอยภูลังกา

ป่าก่อโบราณ

เป็นสภาพป่าดิบเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีพันธุ์พืชสมุนไพรและต้นก่อขนาดใหญ่จำนวนมาก นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพันธุ์พืชดอกไม้ป่ากล้วยไม้ป่า และชมนกได้อย่างสนุกตื่นเต้นโดยเฉพาะช่วยปลายฝนต้นหนาว

ร่องรอยตำนาน ผกค.

ในอดีต ดอยภูลังกาในอดีตเป็นฐานที่มั่นของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์มีสนามเพลาะ, หลุมระเบิด และถ้ำหลบภัยหลงเหลือให้ได้ดูชม

ห้องเรียนธรรมชาติ

- ได้จัดให้มีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติจำนวน 2 เส้นทาง ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
- จัดแสดงสงวนพันธุ์พืชสมุนไพร ไว้ให้ได้ศึกษาหาความรู้
- สวนว่านตามตำราโบราณให้ได้ศึกษาหาชมซึ่งปัจจุบันหาชมได้ยากยิ่ง เดือนมิถุนายน-สิงหาคมเป็นช่วงที่ว่านมีความสวยงาม
- สวนพันธุ์ไม้ในวรรณคดีไทย
- สวนพันธุ์ไม้ประจำวันเกิด
- สวนพันธุ์กล้วยไม้ป่าของไทย พันธุ์แท้สลับกันออกดอกตลอดทั้งปี
ห้องเรียนธรรมชาติของวนอุทยานภูลังกา จะเป็นที่ศึกษาหาความรู้ของต้นพันธุ์ไม้ต้นจริงที่ไม่ใช่ในรูปภาพ หรือจินตนาการจากข้อเขียนตามหนังสือ อันจะทำให้ผู้ที่ต้องการศึกษาพันธุ์พืชของจริงได้ดูชม และเกิดความรักต้นไม้รักธรรมชาติ พันธุ์ไม้ป่าหายาก ตามเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติในวนอุทยาน จะพบความแปลกกับพันธุ์ไม้หายาก ที่ขึ้นตามธรรมชาติ เช่น ต้นชมพูภูพาน เนียมแดง เหมือดคนแดง สัตฤาษี เทียนธารา ตาเหินไหว ผักเผ็ดข้าวก่ำ เป็นต้น
ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก วนอุทยานภูลังกามีบ้านพัก, ลานกางเต็นท์, เส้นทางปั่นจักรยาน, เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ชมนก ชมป่าธรรมชาติ สำหรับที่พักและลานกางเต็นท์ มีจำนวนจำกัด ควรติดต่อกับวนอุทยานภูลังกาล่วงหน้าก่อนตั้งโปรแกรมการเดินทาง

วนอุทยานภูลังกา ต.ผาช้างน้อย อ.ปง จ.พะเยา โทร. 0 1883 0307
สำนักบริหารจัดการพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 ถ.สิงหไคล ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย 57000 โทร. 0 5371 1402
ข้อจำกัดของวนอุทยานภูลังกา
1. เส้นทางรถยนต์ในเขตวนอุทยานเป็นทางดินแดงขึ้นเขาสูงแคบชั้นโค้งคดเคี้ยว ขึ้นได้เฉพาะกับรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น
2. รถยนต์ธรรมดาสามารถขึ้นได้ถึงห้องเรียนธรรมชาติของวนอุทยานภูลังกาและสามารถเดินป่า ตามเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
3.ในเขตวนอุทยานไม่มีไฟฟ้าควรจัดเตรียมอุปกรณ์ส่องสว่างให้พร้อม
4. ในเขตวนอุทยานห้ามทิ้งขยะนักท่องเที่ยวต้องนำขยะกลับออกไปทิ้งที่บ้าน
5. อาหารและอุปกรณ์พักแรมควรเตรียมไปให้พร้อม
6.วนอุทยานภูลังกาเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ถึง 18.00 น.

การเดินทาง
จากจังหวัดพะเยา เดินทางมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1021 ผ่านอำเภอดอกคำใต้ อำเภอจุน และจนถึงอำเภอเชียงคำ เปลี่ยนเส้นทางไปใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1148 ระยะการเดินทางจากจังหวัดพะเยาถึงวนอุทยานภูลังกาประมาณ 120 กิโลเมตร
จากจังหวัดเชียงราย เดินทางมาตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1020 ผ่านอำเภอเทิง มาจนถึงอำเภอเชียงคำ เปลี่ยนเส้นทางไปใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1148 ระยะการเดินทางประมาณ 140 กิโลเมตร
การเดินทางขึ้นไปวนอุทยานภูลังกา จากอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1148 ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จะถึงเส้นทางแยกเข้าวนอุทยานภูลังกา เดินทางขึ้นเขาอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการสำนักงานวนอุทยานภูลังกา
- ยานพาหนะที่ใช้ในการเดินทาง ควรเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ถึงจะขึ้นถึงยอดดอยภูลังกาได้สะดวกปลอดภัย
- ผู้ที่ไม่มีรถขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถขึ้นได้โดยจ้างเหมารถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ของชุมชนได้ตรงปากทางขึ้นวนอุทยานภูลังกา

 

อ้างอิง

http://www.siamfreestyle.com/forum/index.php?showtopic=386  

http://www.tat.or.th/travelplace.asp?prov_id=56

http://www.tat.or.th/travelplace.asp?prov_id=56

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 297 คน กำลังออนไลน์