โครงงาน+บทที่1
บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
น้ำ เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต เราทุกคนนำน้ำมาใช้ทั้งในการอุปโภคและบริโภค ปัจจุบันสังคมไทยเป็นสังคมอุตสาหกรรม โดยมีโรงงานและอุตสาหกรรมเกิดขึ้นมากมาย ผลที่ตามมาก็คือน้ำที่ใช้แล้วก็จะถูกปล่อยทิ้งออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติอีกครั้งหนึ่งระบบหมุนเวียนดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดปัญหาขึ้น เมื่อน้ำถูกนำมาใช้ในอัตราสูงและถูกปล่อยทิ้งลงสู่แหล่งน้ำในลักษณะของน้ำเสียที่มีปริมาณมากเกินขีดความสามารถที่แหล่งน้ำธรรมชาติจะปรับตัวได้ทัน ในที่สุดก็กลายเป็นน้ำเน่าเสียสิ่งมีชีวิตที่เคยอาศัยอยู่ในน้ำก็ไม่อาจดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้อีก
น้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมหลาย ๆ ประเภท อาทิโรงงานแบตเตอรี่ โรงงานชุบโลหะ อุตสาหกรรมสี น้ำทิ้งจากเหมืองสังกะสี หรือ น้ำทิ้งจากอุตสาหกรรมพลาสติก เป็นต้น จะมีตะกั่วและแคดเมียมเป็นโลหะหนักที่เป็นสารพิษอันตรายอย่างสูงต่อสิ่งมีชีวิตที่มักพบปนเปื้อนมากับน้ำเสียจากโรงงานดังกล่าว หากร่างกายได้รับสารตะกั่วเข้าไปสะสมเป็นจำนวนมาก จะทำให้เกิดโรคโลหิตจาง กล้ามเนื้ออ่อนแรงจนอาจทำให้เป็นอัมพาตได้ ส่วนแคดเมียมจะสะสมในกระดูกและไตทำให้เกิดโรคอิไตอิไต
จากการศึกษาเปลือกไข่และเถ้าแกลบดำ พบว่า มีองค์ประกอบที่มีความพรุนสูง ซึ่งช่วยระบายความชื้นและรับอากาศเข้าไป เอื้ออำนวยให้โลหะหนักมาเกาะติดที่ผิว คณะผู้จัดทำจึงได้จัดทำการทดลองการใช้เปลือกไข่และเถ้าแกลบดำดูดซับแคดเมียมและตะกั่วในน้ำเสีย ซึ่งเป็นโลหะหนักดังกล่าวข้างต้น เพื่อช่วยลดการทำลายระบบนิเวศแหล่งน้ำในชุมชนและเปลี่ยนสภาพน้ำเสียให้อยู่ในสภาพที่สามารถนำกลับมาใช้ได้
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. ศึกษาการใช้เปลือกไข่และเถ้าแกลบดำในการบำบัดน้ำเสียที่มีแคดเมียมและตะกั่วเจือปน
2. เพื่อทดลองการดูดซับแคดเมียมและของเปลือกไข่และเถ้าแกลบดำ
สมมติฐานการวิจัย
ถ้าเปลือกไข่และเถ้าแกลบดำสามารถดูดซับสารแคดเมียมและตะกั่วในน้ำได้ แล้วน้ำเสียจะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น 60 %
ขอบเขตในการวิจัย
1. การกำหนดประชากร ได้แก่ น้ำเสียจากท่อน้ำทิ้งของโรงงาน เช่น โรงงานแบตเตอรี่ โรงงานชุบโลหะ อุตสาหกรรมสี หรือน้ำทิ้งจากอุตสาหกรรมพลาสติก
กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ น้ำที่มีสารแคดเมียมและตะกั่วเจือปน
2. ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรต้น การใช้เปลือกไข่และเถ้าแกลบดำกรองสารแคดเมียมและตะกั่ว
ตัวแปรตาม ค่า pH ของน้ำ
ตัวแปรควบคุม ปริมาณเปลือกไข่ เถ้าแกลบดำ แคดเมียม ตะกั่ว และน้ำ
3. ขอบเขตของเนื้อหา
การวิเคราะห์น้ำเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ตรวจสอบได้โดย
3.1 ค่า pH ของน้ำ
3.2 ค่า COD หรือ Chemical Oxygen Demand คือ ปริมาณออกซิเจนทั้งหมด
ที่ต้องการเพื่อใช้ในการออกซิไดซ์สารอินทรีย์ในน้ำเสียให้กลายเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำ
3.3 ค่า BOD หรือ Biochemical Oxygen Demand คือ ปริมาณออกซิเจนที่
แบคทีเรียใช้ในการย่อยสารอินทรีย์ชนิดที่ย่อยสลายภายใต้สภาวะที่มี ออกซิเจน เป็นการวิเคราะห์เพื่อที่จะทราบถึงปริมาณความสกปรกของน้ำ โดยในโครงงานนี้ ผู้จัดทำได้เลือกวิธีการตรวจสอบน้ำเสียด้วยการหาค่า pH ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วและสะดวกกว่า เพราะเนื่องจากเวลาและอุปกรณ์ที่ผู้จัดทำมีไม่เอื้ออำนวยในการตรวจสอบหาค่า COD และ BOD