แนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
แนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
ไม่ว่าจะเป็นระบบเศรษฐกิจแบบใดต่างก็ประสบกับปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจดังกล่าว ทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ระบบเศรษฐกิจแต่ละระบบต่างก็มีวิธีการแก้ไขปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แตก ต่างกันไปดังนี้
1. ระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมหรือเสรีนิยม (capitalism) จะใช้กลไกตลาด (ราคา) หรือที่มักเรียกว่า มือที่มองไม่เห็น
เป็นเครื่องมือหรือกลไกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว กล่าวคือ ราคา จะเป็นตัวช่วยตอบปัญหาต่างๆตั้งแต่เริ่มผลิตอะไร
อย่างไร และเพื่อใคร ปกติสินค้าและบริการใดที่เป็นที่ต้องการผู้บริโภคก็จะเสนอราคาซื้อสูง นั่นคือ ราคาจะเป็น
ตัวสะท้อนที่ทำให้ผู้ผลิตทราบความต้องการของผู้บริโภค ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตสินค้าและบริการตรงกับ
ความต้องการของผู้บริโภค ปัญหาที่ว่า ผลิตอย่างไร ซึ่งเป็นปัญหาในเรื่องของเทคนิคการผลิตว่าจะผลิตโดยเน้น
ใช้ปัจจัยแรงงานหรือ ปัจจัยทุน ก็ขึ้นอยู่กับราคาโดยเปรียบเทียบของปัจจัยแต่ละประเภท โดยมีหลักว่าผู้ผลิตจะเลือกผลิต
หรือใช้ปัจจัยการผลิตในประเภทที่ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำสุด ซึ่งราคาก็เป็นเครื่องชี้อีกเช่นเดียวกันสำหรับ
ปัญหา ผลิตเพื่อใคร กล่าวคือ ใครควรจะได้รับการจัดสรรสินค้าและบริการไปอุปโภคบริโภคมากหรือน้อยเพียงใด
ก็ขึ้นอยู่กับใครมีอำนาจซื้อและเสนอราคาให้มากกว่า ผู้ผลิตหรือผู้ขายก็จะเสนอขายสินค้าและบริการนั้นไปให้บุคคลนั้น
ก็จะได้รับสินค้าและบริการไปอุปโภคบริโภคตอบสนองความต้องการของตน โดยสรุป ภายใต้ระบบเศรษฐกิจนี้ราคา
จะเป็นเครื่องมือหรือกลไกที่สำคัญในการช่วยแก้ไข ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจ
2. ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ แนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจจะถูกกำหนดมาจากส่วนกลางหรือ
รัฐบาล กล่าวคือ รัฐบาลจะเป็นผู้วางแผนดำเนินการสั่งการแต่เพียงผู้เดียว เอกชนมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐ
รัฐจะเป็นผู้กำหนดว่าจะผลิตอะไร จำนวนเท่าใด อย่างไร และจำหน่ายจ่ายแจกหรือกระจายสินค้าและบริการไปให้กับใคร
3. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม เนื่อง จากระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมเป็นระบบ เศรษฐกิจที่มีลักษณะใกล้เคียงกับ
ระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ ดังนั้น แนวทางการแก้ไขปัญหาพื้นฐานของระบบเศรษฐกิจนี้จึงใช้กลไกรัฐเป็นกลไก
สำคัญในการจัดสรรทรัพยากรทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับระบบเศรษฐกิจแบบคอมมิวนิสต์ แต่อย่างไรก็ตามมีการใช้กลไกราคา
อยู่บ้าง แต่ยังมีบทบาทค่อนข้างจำกัด
4. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม แนวทางการแก้ไขปัญหาจะใช้ทั้งกลไกราคาและกลไกรัฐร่วมกันไป กล่าวคือ กิจการที่เป็น
กิจการที่มีความสำคัญต่อประชาชนโดยส่วนรวม เช่น กิจการสาธารณูปโภค สาธารณูปการ รัฐจะเป็นผู้ดำเนินการเพื่อให้
บริการกับประชาชนเอง (กลไกรัฐ) แต่กิจการโดยทั่วไปจะปล่อยให้เป็นไปตามระบบของกลไกตลาด (ราคา)