เพิ่มเติมเกี่ยวกับตะคริว
ตะคริว
ภาพจาก http://sufficiencyeconomy.panyathai.or.th/wiki/images/%E0%B8%95%E0%B8%B0...
ตะคริวมักเกิดจากการที่เส้นประสาทที่สั่งให้กล้ามเนื้อหดตัว ทำงานมากผิดปกติ มีการปล่อยสัญญาณความถี่ออกมาเพิ่มมากขึ้น จนกล้ามเนื้อมีอาการกระตุกหรือสั่นนำมาก่อน แล้วจึงเกิดการหดตัวซ้ำ ๆ แรง ๆ อย่างต่อเนื่อง จนเกร็งค้างไว้เป็นตะคริวในที่สุด
ตะคริวเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
- การใช้กล้ามเนื้อนั้นซ้ำ ๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหรือการทำงานหนักจนกล้ามเนื้ออ่อนล้า จะทำให้เกิดตะคริวได้ง่าย เช่น นักว่ายน้ำจะเป็นตะคริวที่น่องได้ง่าย นักเปียโนมักจะเป็นตะคริวที่มือและแขน เป็นต้น
- ภาวะขาดเกลือแร่และสารน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกลือโซเดียม และโปแตสเซียม ได้แก่ ภาวะท้องเดินอาเจียน เสียเหงื่อมาก ๆ ถ้ารับประทานน้ำหรือเกลือแร่เข้าไปชดเชยไม่เพียงพอ จะเกิดเป็นตะคริวได้ง่าย
- การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ อาจเกิดจากการกระแทกกล้ามเนื้อฟกช้ำ และภาวะกล้ามเนื้อขาดการยืดหยุ่น หากออกกำลังกายโดยไม่ได้วอร์มอัพ กล้ามเนื้อที่ตึงอย่างรวดเร็วจากการออกกำลังจะเกิดตะคริวได้บ่อย
- การนอน นั่ง หรือยืนในท่าที่ไม่สะดวกนาน ๆ ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่สะดวก เกิดตะคริวได้ง่ายเช่นกัน
- ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงแข็งหรือหลอดเลือดแดงตีบต้น เช่น ผู้สูงอายุ มีโอกาสเป็นตะคริวได้บ่อยขึ้นจากการไหลเวียนเลือดไปที่ขาไม่ดี
- ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่ได้รับการรักษาด้วยการล้างไต หลังทำการล้างไตจะเกิดเป็นตะคริวได้ง่าย อาจเนื่องมาจากสารน้ำในร่างกายน้อยเกินไป หรือความเข้มข้นของเกลือแร่หรือน้ำตาลในร่างกายน้อยเกินไป
- ยาบางชนิดอาจทำให้เกิดอาการตะคริวได้ เช่น ยาลดความดันโลหิตสูง กลุ่ม Nifedipine, ยาลดไขมันชนิด Clofibrate, ยาขยายหลอดลม เป็นต้น โดยถ้าหยุดยาหรือเปลี่ยนยาอาการตะคริวก็จะหายไป
- โรคระบบประสาทบางชนิดที่มีความผิดปกติของเส้นประสาทที่มาสั่งงานกล้ามเนื้อ หรือโรคของกล้ามเนื้อเอง จะมีอาการตะคริวได้บ่อยขึ้น
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น คือ การค่อยๆ เหยียดกล้ามเนื้อมัดนั้น ๆ อย่างนุ่มนวล จนกระทั่งหายปวดเกร็ง อาจใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที แล้วลองปล่อยมือดูว่ายังเกร็งอยู่หรือไม่ ถ้ายังเกร็งอยู่ให้ทำซ้ำอีกจนกระทั่งไม่มีอาการ ไม่ควรบีบนวดแรงๆ ขณะกล้ามเนื้อเกร็งตัว เนื่องจากอาจทำให้กล้ามเนื้อเจ็บและเป็นตะคริวซ้ำได้อีก การใช้น้ำอุ่นหรือกระเป๋าน้ำร้อนประคบจะเป็นการขยายเส้นเลือดทำให้เลือดไหล เวียนดีขึ้นทำให้อาการตะคริวดีขึ้น
ถ้าเป็นตะคริวที่น่อง : ให้เหยียดขาข้างที่เป็นตะคริวให้ตรง ใช้มือข้างหนึ่งประคองส้นเท้า และอีกข้างหนึ่งค่อย ๆ ดันปลายเท้าขึ้นลงให้เต็มที่อย่างช้า ๆ ประมาณ 5 นาที และนวดเบา ๆ ที่น่อง หรืออาจทาครีมหรือน้ำมัน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณนั้น
ถ้าเป็นตะคริวที่ต้นขา : ให้เหยียดขาข้างที่เป็นตะคริวให้ตรง ใช้มือข้างหนึ่งประคองส้นเท้า และอีกข้างหนึ่งกดลงบนหัวเข่า จากนั้นค่อยๆ นวดบริเวณที่เป็นตะคริวเบาๆ
ถ้าเป็นตะคริวที่นิ้วเท้า : ให้เหยียดนิ้วเท้าให้ตรงและลุกขึ้นยืนเขย่งเท้า จากนั้นค่อยๆ นวดบริเวณนิ้วเท้าเบาๆ
ถ้าเป็นที่นิ้วมือ : ให้เหยียดนิ้วมือออก แล้วค่อยๆ นวดบริเวณนิ้วมือเบาๆ
การป้องกันตะคริว
- ควรดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ วันละ 6-8 แก้ว
- ควรบริหารกล้ามเนื้อแบบยืดเหยียด (Stretching Exercise) โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่เป็นตะคริวบ่อยๆ ควรทำด้วยแรงปานกลาง ให้เกิดความรู้สึกตึงๆ ที่กล้ามเนื้อเหมือนถูกดึง แต่ไม่ถึงกับปวด
- ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะทำให้กล้ามเนื้อและร่างกายแข็งแรง โดยให้วอร์มอัพทุกครั้งก่อนออกกำลังกาย
- ถ้าเป็นตะคริวในขณะนอนตอนกลางคืนบ่อยๆ ควรนอนยกขาสูง โดยใช้หมอนรองขา
- ถ้าเป็นๆ หายๆ บ่อยๆ โดยเฉพาะเวลาเดินนานๆ ควรปรึกษาแพทย์ ตรวจหาสาเหตุ อาจมีความผิดปกติในระบบไหลเวียนเลือดที่ขาหรือภาวะหลอดเลือดแข็งตัวจากเบา หวาน ความดันโลหิตสูงหรือโรคอื่นๆ