การบำบัดศิลปะนอกระบบโรงเรียน
สถานที่ที่มีการใช้ศิลปะบำบัดควบคู่ไปกับการปฏิบัติทางด้านอื่นๆ นั้น ตัวอย่างเช่นสถาบันเด็กพิการ หรือเด็กปัญญาอ่อน สถานพักฟื้นคนป่วย สถานพยาบาลคนป่วยโรคจิต สถานพักฟื้นคนชรา หรือบ้านพักคนชรา ในกรณีของสถานพักฟื้นคนป่วยอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติเพราะร่างกาย และจิตใจหย่อนสมรรถภาพ การใช้ศิลปะบำบัดจึงใช้เพื่อวัตถุประสงค์คล้ายคลึงกัน เช่นการทำกายภาพบำบัดอาจเป็นสิ่งน่าเบื่อ กิจกรรมศิลปะที่ใช้ในลักษณะกายภาพบำบัดร่างกาย อาจช่วยให้ลดความเบื่อหน่ายลง
ส่วนการใช้กิจกรรมศิลปะใน บ้านพักคนชรา นั้น อาจใช้ทั้งในรูปศิลปะบำบัด หรือใช้ศิลปะในลักษณะธรรมดาผสมผสานกันตามความต้องการและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล แม้คนชราในบ้านพักนั้นส่วนใหญ่จะเป็นผู้อยู่ในสภาพปกติ แต่กลไกการทำงานของร่างกายย่อมอ่อนล้าหมดกำลังเช่นกัน อีกทั้งด้านของจิตใจก็อาจมีปัญหาด้วย
พบว่ามีคนชราจำนวนมากที่เก็บตัวเปล่าเปลี่ยว เพราะต้องจากบ้านมาสู่สถานที่ที่มีแต่คนแปลกหน้าอยู่รอบข้าง ความรู้สึกของการถูกทอดทิ้ง ความรู้สึกของการเผชิญหน้ากับวาระสุดท้ายของชีวิต ความรู้สึกว่าตนกลายเป็นผู้ที่พึ่งตัวเองไม่ได้ ไร้ซึ่งประโยชน์ ความรู้สึกเหล่านี้มีผลต่อจิตใจและร่างกายทั้งสิ้น จึงได้มีการนำกิจกรรมศิลปะมาใช้ในสถานที่นี้
ในประเทศตะวันตก การทำกิจกรรมเปิดทางให้คนชราได้ใช้เวลาในการทำสิ่งที่เพลิดเพลิน ให้ลืมเวลา กิจกรรมนำพวกเขามาสนิมสนมกัน งานศิลปะที่ทำขึ้นจะจัดให้มีการขายเป็นครั้งคราว การที่งานของตนขายได้ทำให้ความรู้สึกไร้ประโยชน์ พึ่งตนเองไม่ได้หมดไป เกษียณอายุจึงมิได้หมายถึงการจบสิ้นของอายุการทำงานหรืออาชีพ แต่หมายถึงการเปลี่ยนไปสู่อาชีพอื่นเท่านั้น ศิลปะเป็นสิ่งช่วยเตรียมใจเตรียมตัวในการจากไป
ผลงานศิลปะเปรียบเหมือนผลผลิตที่ทิ้งไว้เบื้องหลังเพื่อเป็นอนุสรณ์ของตน อีกทั้งเป็นกิจกรรมที่ช่วยเปิดโอกาสให้ได้ฝัน มีความหวังและจินตนาการ ศิลปะเป็นเครื่องปลอบใจ เป็นการพักผ่อนสนองความต้องการของจิตใจ และก่อให้เกิดความรู้สึกอิสระดังคำกล่าวที่ว่า “ศิลปินอาจอยู่ตัวคนเดียวโดยไม่รู้สึกว้าเหว่”
กิจกรรมศิลปะที่ใช้ในบ้านพักคนชรานั้น ส่วนใหญ่ในอดีตมักเป็นกิจกรรมประเภทงานช่างหรืองานประเภทระบายสีตามเบอร์ การลอกรูป หรือลอกปฏิทิน แต่ปัจจุบันนี้คนรุ่นหลังประกอบด้วยคนที่มีความรู้มากขึ้น กิจกรรมเหล่านั้นไม่สามารถสนองความต้องการได้เหมาะสม ดังนั้นในปัจจุบันจึงเสนอให้มีกิจกรรมทั้งในด้านส่งเสริมสุนทรียภาพการแสดงออกด้าน ศิลปวิจารณ์ ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ศิลป์ และกิจกรรมศิลปะปฏิบัติประกอบเข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ยังได้นำศิลปะเข้าไปใช้ในกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษ หรือเด็กที่มีความสามารถพิเศษด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มของเด็กปัญญาอ่อนพิการ การใช้ศิลปะบำบัดจะทำให้เกิดเกิดสมาธิจดจ่อกับงาน ส่งผลไปถึงจิตใจ กาย บ่อยครั้งที่เราเห็นกลุ่มคนพิการด้านต่างๆ ใช้ดินสอ พู่กันเขียนภาพได้อย่างมีความหมายและสวยงาม เพียงเพราะศิลปะเป็นเสมือนเพื่อนที่ช่วยให้เขาชีวิตที่ดีขึ้นนั้นเอง
ในประเทศไทยศิลปะบำบัดเริ่มเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเด็กพิการในด้านใด เมื่อได้พัฒนาตัวเองด้วยการลงมือทำงานศิลปะสักชิ้นหนึ่ง จะส่งผลให้เขามาพัฒนาการในด้านต่างๆ ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
หลายคนที่มีปัญหาทางจิต หูแว่วบ่อยๆ เริ่มใช้ศิลปะบำบัดส่งผลให้เกิดสมาธิ อาการหูแว่วก็หายไป เมื่อจิตนิ่งด้วยการทำงานศิลปะ ความเพลินเพลิน ความสุขและสนุกกับงานศิลปะที่อยู่ตรงหน้าก็เกิด เมื่อความสุขเกิดขึ้นภายในจิตใจ อาการหูแว่วหรือประสาทหลอนก็จะค่อยๆ ดีขึ้น ถือเป็นการบำบัดจิตด้วยงานศิลปะได้อย่างแท้จริง
ผู้จัดการออนไลน์
6 มิถุนายน 2548