เครื่องดนตรีไทย ที่ใช้ในพระราชพิธี
กลองชนะ
มีรูปร่าง และส่วนประกอบเช่นเดียวกับกลองแขก และกลองมลายู แต่ตัวกลองสั้นและอ้วนกว่ากลองทั้ง 2 ดังกล่าวตาม
ลำดับ และมีการทาสีปิดทองเขียนลายไว้ที่ตัวกลอง และที่หน้ากลองด้วย เวลาตีใช้ไม้งอโค้งตีเหมือนกลองมลายู แต่เดิมคงใช้กลองชนิด
นี้ตีเป็นจังหวะ ในการฝึกหัดเพลงอาวุธสำหรับทหาร จึงเรียกชื่อว่า "กลองชนะ" เพื่อเป็นมงคลนิมิตแก่กองทัพ ต่อมาใช้เป็นเครื่องประโคม
ในกระบวนเสด็จพยุหยาตรา และใช้ประโคมพระบรมศพ และศพเจ้านายด้วย
บัณเฑาะว์
เป็นกลองชนิดหนึ่ง เข้าใจว่าไทยเราคงจะได้เครื่องดนตรีนี้มาจากอินเดีย เพราะคำว่าบัณเฑาะว์มาจากคำบาลีว่า
"ปณวะ" ปรากฏหลักฐานมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยแล้ว ตัวกลองทำด้วยไม้จริง หัวและท้ายใหญ่มีหบังขึ้นหน้าไว้ทั้ง 2 ด้าน ตรงกลางคอด
และมีหลักยาว ทำด้วยไม้หรืองา ยึดติดไว้ด้านหนึ่งเป็นด้ามสำหรับถือ ตรงปลายด้ามใช้เชือกผูก โดยที่ปลายเชือกนี้ผูกลูกตุ้มเล็ก ๆ ไว้
เวลาเล่นใช้มือถือไกวด้วยการพลิกข้อมือกลับไปกลับมา ลูกตุ้มที่ปลายเชือกโยนตัวไปมา กระทบหน้ากลองทั้ง 2 ข้าง บัณเฑาะว์ใช้ไกว
เป็นจังหวะในการบรรเลง "ขับไม้" ในงานพระราชพิธี เช่น สมโภชพระมหาเศวตฉัตร สมโภชพระยาช้างเผือก เป็นต้น ทั้งนี้อาจใช้
บัณเฑาะว์ลูกเดียว หรือ 2 ลูก ก็ได้