องค์การระหว่างประเทศ (องค์การทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ),(องค์การทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ-WTO)
องค์การทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
องค์การทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ หมายถึง องค์การที่มีบทบาทและอิทธิพลในการกำหนดนโยบายทางด้านเศรษฐกิจของสังคมโลก ซึ่งองค์การเหล่านี้จะทำหน้าที่ดูแลให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติตามกติกาของสังคมโลก อีกทั้งผลักดันให้ดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยม และมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการให้เหมาะสมขณะเดียวกันส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีบทบาททางเศรษฐกิจตลอดทั้งมีการถ่ายโอนการผลิตไปสู่เอกชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งเสริมให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในแต่ละประเทศเพื่อให้ระบบทุนนิยมโลกขยายตัวและเป็นองค์การที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางทางการเงิน ตลอดจนอำนวยความสะดวกทางด้านการเงินระหว่างประเทศ องค์การทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศในปัจจุบันมีจำนวนมากในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะองค์การที่กำลังมีบทบาทในปัจจุบัน
องค์การค้าโลก
(World Trade Organization : WTO)
(ที่มาของภาพ http://human.tru.ac.th/elearning/local/global03/pic/wto.jpg)
องค์การค้าโลก เป็นองค์การระหว่างประเทศที่มีพัฒนาการมาจากข้อตกลงทั่วไป ว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้า หรือ แกตต์ (General Agreement on Tariffs and Trade : GATT) เมื่อปี ค.ศ1947 แต่ไม่มีสถานะเป็นสถาบันจนกระทั่งประเทศสมาชิกได้เปิดการประชุมครั้งที่ 8 ใน ค.ศ.1986 ที่เรียกว่าการเจรจาการค้ารอบอุรุกวัย และผลของการประชุมส่วนหนึ่งคือ การก่อตั้งองค์การค้าโลกขึ้นในปี ค.ศ.1995 องค์การนี้สังกัดอยู่ในสมัชชาแห่งสหประชาชาติสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ กรุงเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ปัจจุบันมีสมาชิก148 ประเทศ โดยประเทศไทยเป็นสมาชิกอันดับที่ 59
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งองค์การค้าโลก
องค์การค้าโลก จัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ที่จะลดอุปสรรคและหามาตรการลดการกีดกันทางการค้าต่อกันเพื่อให้เกิดการค้าเสรีระหว่างประเทศ โดยออกกฎเกณฑ์ที่จะสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส เปิดกว้างไปสู่การค้าเสรีต่อกัน เพราะการค้าเสรีจะช่วยให้ประชาชาติทั่วโลกสามารถพัฒนาความเจริญได้ทัดเทียมกัน มาตรการเดียวที่สหประชาชาติยังให้ประเทศต่างๆ คงไว้คือ มาตรการด้านภาษีศุลกากรเท่านั้นเมื่อเกิดองค์การค้าโลกขึ้นมาแล้วบรรยากาศทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศดีขึ้นมาก การกีดกันทางการค้า การเลือกปฏิบัติ และการใช้แรงกดดันต่างๆ ลดลงมาก
ผลกระทบต่อประเทศไทย
คือ สินค้าออกของไทยจะได้ราคาสูงขึ้นและถูกกีดกันน้อยลง สามารถขยายตลาดได้มากขึ้น แต่ไทยจะต้องเปิดตลาดบริการในสาขาการเงิน การคมนาคมขนส่ง ให้การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เข้มงวดในเรื่องสิทธิบัตรยา ลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์ซอฟแวร์ และสื่อบันเทิงมากขึ้น ต้องยกเลิกมาตรการด้านการลงทุนต่างๆ เช่น บังคับใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการส่งเสริม บังคับให้ใช้ชิ้นส่วนในประเทศ เป็นต้น
การเปิดการค้าเสรี
ี ระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้นทำให้องค์การค้าโลกถูกกล่าวหาว่าควบคุมระบบการค้าของโลกเพื่อผลประโยชน์ของประเทศมหาอำนาจที่ร่ำรวย ซึ่งมีอยู่ในราว 20 – 30 ประเทศเท่านั้น ประเทศร่ำรวยเหล่านี้ได้อาศัยการค้าเสรีแอบดูดดึงวัตถุดิบราคาถูกจากประเทศอื่นมากอบกินเป็นความมั่งมีศรีสุขของตน มันเป็นโลกที่ชาติด้อยพัฒนาจำนวนมากตกเป็นเหยื่อของประเทศร่ำรวย
(ที่มาของภาพ http://human.tru.ac.th/elearning/local/global03/pic/scan~WTO~protest2003.jpg)