ประวัตินักภูมิศาสตร์
คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
โคลัมบัส เป็นนักเดินเรือคนสำคัญคนหนึ่งของปอร์ตุเกส และได้ทราบเรื่องราวอันน่ามหัศจรรย์เกี่ยวกับดินแดนไกลโพ้นที่ลิฟ เออริคสันได้ค้นพบ แต่เขาเชื่อว่าดินแดนส่วนที่กล่าวขวัญอยู่นั้นคงเป็นตอนหนึ่งของไซบีเรีย ซึ่งทางใต้ของไซบีเรียต้องเป็นที่ตั้งของประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน โคลัมบัสมีความเชื่อว่าโลกกลม จึงวางแผนการณ์เดินเรือสำรวจหนทางไปสู่ประเทศจีนวิธีใหม่โดยการแล่นเรือไปทางตะวันตกทิศทางเดียว เพราะโลกกลม ในที่สุดก็จะไปถึงแผ่นดินของจีนและอินเดียได้ เนื่องจากขาดผู้สนับสนุนทางทุนทรัพย์และกำลัง เขาจึงเสนอแผนการณ์นี้ไปยังพระเจ้าแผ่นดินปอร์ตุเกส แต่ไม่เป็นผลสำเร็จเพราะไม่มีใครเชื่อว่าแผนการณ์เดินเรือเช่นนั้น ของเขาจะเป็นไปได้ เขาจึงเดินทางไปขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าเฟอร์ดินันด์ และพระนางอิสซาเบลลาแห่งสเปน ซึ่งตอนแรกก็ได้รับการปฏิเสธอีกด้วยเหตุผลอันเดียวกัน โคลัมบัสมิได้ละความพยายามเพียรชี้แจงจนได้รับความช่วยเหลือพระเจ้าเฟอร์ดินันด์และพระนางอิสซาเบลลา พระราชทานเรือ 3 ลำและลูกเรือพร้อม เขาจึงออกเรือมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเพื่อข้ามมหาสมุทรอัตลันติค เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1492 เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่เขาแล่นเรือออกไปโดยไม่พบอะไร พอจะเข้าใจได้ว่ามีผืนแผ่นดินอยู่ข้างหน้าเลย แต่ในที่สุดเขาได้เห็นนกบินโฉบเหยื่อในทะเล และเห็นเศษไม้กิ่งไม้ลอยอยู่ตามกระแสคลื่นซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสัญลักษณ์ว่ามีผืนแผ่นดินอยู่ไม่ไกลนักพอตกกลางคืนเขาก็เห็นแสงไฟในระยะไกล โคลัมบัสกล่าวด้วยความยินดี “พรุ่งนี้เราจะได้พบวัดที่หลังคาเป็นสีทองในดินแดนประเทศญี่ปุ่นละ” แต่พอรุ่งขึ้นเขามิได้พบหลังคาวัดสีทองตามที่คาดคิดไว้ แต่ได้พบหมู่เกาะซึ่งต่อมาเรียกว่าหมู่เกาะบาฮามา และมีชาวพื้นเมืองผิวสีแดงอาศัยอยู่ เขาจึงเอาเรือเทียบฝั่งและขึ้นสำรวจประกาศเอาเป็นดินแดนเมืองขึ้นของสเปนเสีย การพบเกาะครั้งนี้ ทำให้โคลัมบัสเชื่อว่าเขามาใกล้ประเทศจีนมากแล้ว เขาจึงออกเดินทางสำรวจจากเกาะหนึ่งไปยังเกาะหนึ่งสืบต่อไปเพื่อหาทางไปสู่ประเทศจีนให้ได้ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ พอดีกับเสบียงอาหารจวนหมด จึงยกกองเรือกลับสเปนเสียก่อน และได้ยกกองเรือมาสำรวจอีกในปีต่อมา ซึ่งทำให้เขาพบดินแดนส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาเหนือและใต้ แต่เขาก็มิได้พบจีนหรืออินเดียเลย โคลัมบัสเชื่อว่าเขาคงหมดหวังในการหาทางเดินเรือไปสู่จีน หรืออินเดียเสียแล้ว ในที่สุดเขาก็ถึงแก่กรรมลงโดยมิทราบเลยว่า ดินแดนที่เขาพบนั้นเป็นผืนแผ่นดินผืนใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรตามธรรมชาติ ซึ่งเรียกว่า ทวีปอเมริกาเหนือ-ใต้ในโอกาสต่อมา