.II. สงครามปะทุ .II.
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/th/e/ed/German_Soviet.jpg
เมื่อวันที่ 1 กันยายน ค.ศ. 1939 เยอรมนีและสโลวาเกียเริ่มการรุกรานโปแลนด์ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และบรรดาประเทศในเครือจักรภพ จึงประกาศสงครามกับเยอรมนี แต่ก็ได้ให้ความช่วยเหลือโปแลนด์เพียงแค่การส่งกองทหารฝรั่งเศสขนาดเล็กเข้าไปปฏิบัติการในซาร์แลนด์เท่านั้น และเมื่อวันที่ 17 กันยายน หลังจากทำสัญญาสงบศึกชั่วคราวกับญี่ปุ่นแล้ว สหภาพโซเวียตจึงเริ่มการรุกรานโปแลนด์ของตนเอง ถึงต้นเดือนตุลาคม โปแลนด์จึงถูกแบ่งเป็นเขตยึดครองของเยอรมนี สหภาพโซเวียต ลิทัวเนียและสโลวาเกีย อย่างไรก็ตาม โปแลนด์ไม่เคยยอมจำนนอย่างเป็นทางการและยังคงทำการรบต่อนอกประเทศของตน
หลังจากการรบในโปแลนด์ สหภาพโซเวียตได้บีบบังคับรัฐบอลติกเพื่อยินยอมให้สหภาพโซเวียตส่งกองทัพเข้าไปประจำการภายใต้เงื่อนไขของสนธิสัญญาความร่วมมือระหว่างกัน แต่ฟินแลนด์ปฏิเสธความต้องการดินแดน และถูกสหภาพโซเวียตรุกรานในสงครามฤดูหนาว เมื่อเดือนพฤศจิกายน และจบลงด้วยสนธิสัญญาสันติภาพมอสโก ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1940 ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักรได้มองว่าสหภาพโซเวียตพยายามจะเข้าสู่สงครามโลกโดยอยู่ฝ่ายเดียวกับเยอรมนี และได้ขับสหภาพโซเวียตออกจากสันนิบาตชาติ และในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1940 สหภาพโซเวียตรุกรานและยึดครองรัฐบอลติก
ในยุโรปตะวันตก อังกฤษได้จัดวางกำลังทหารของตนบนยุโรปภาคพื้นทวีป แต่ก็ไม่มีการโจมตีโดยตรงระหว่างฝ่ายอักษะกับฝ่ายสัมพันธมิตรอีกจนกระทั่งเดือนเมษายน ค.ศ. 1940 สหภาพโซเวียตและเยอรมนีได้บรรลุสนธิสัญญาทางการค้า ซึ่งสหภาพโซเวียตได้รับเครื่องประกอบทางทหารและทางอุตสาหกรรมเพื่อแลกกับการส่งวัตถุดิบให้กับเยอรมนี เพื่อชดเชยจากการถูกปิดล้อมเมืองท่าโดยอังกฤษ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1940 เยอรมนีรุกรานเดนมาร์กและนอร์เวย์ เพื่อรักษาความปลอดภัยในการขนส่งเหล็กและโลหะจากสวีเดน ซึ่งฝ่ายสัมพันธมิตรพยายามที่จะขัดขวาง เดนมาร์กได้ยอมจำนนอย่างรวดเร็ว และถึงแม้ว่านอร์เวย์จะได้รับความช่วยเหลือจากฝ่ายสัมพันธมิตรแล้วก็ตาม แต่ว่าเยอรมนีก็สามารถพิชิตชัยได้ในเวลาเพียงสองเดือน ความไม่พอใจต่อผลของการทัพนอร์เวย์ของชาวอังกฤษได้นำไปสู่การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีจากเนวิลล์ เชมเบอร์แลน เป็นวินสตัน เชอร์ชิลล์ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม
- « แรก
- ‹ หน้าก่อน
- 1
- 2