เปตอง
![](/files/u19649/poolsaeree.gif)
http://www.thaigoodview.com/library/contest2551/health04/22/Alert_sports/images/petanque%20(6).jpg
ข้อ 26 ในการวัดคะแนนระหว่างลูกบูล 2 ลูก ซึ่งใกล้เคียงกันมาก ผู้เล่นคนหนึ่งได้วัดไปแล้วและประกาศว่าฝ่ายตนได้เปรียบ
ผู้เล่นฝ่ายตรงกันข้ามมีสิทธิ์ที่จะวัดใหม่เพื่อความแน่ใจและถูกต้อง เมื่อทั้งสองฝ่ายได้วัดคะแนนแล้วหลายครั้งยัง
ตกลงไม่ได้ ต้องให้ผู้ตัดสินเป็นผู้วัดเพื่อตัดสิน
ข้อ 27 เมื่อเสร็จสิ้นการแข่งขันแต่ละเที่ยว ลูกบูลทุกลูกที่ถูกนำออกก่อนการวัดคะแนนให้ ถือว่าเป็นการโมฆะ และไม่มีสิทธิ์
โต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น
ข้อ 28 ถ้าผู้เล่นฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำการวัดคะแนนแล้วไปทำให้ลูกเป้าหรือลูกบูลที่มีปัญหานั้นเคลื่อนที่จะต้องเป็นฝ่ายเสีย
คะแนนในการวัดคะแนนแต่ละครั้งก่อนทำการวัด ผู้ตัดสินต้องทำการคาดคะเนเสียก่อนว่าลูกใดได้เปรียบ และถ้าได้
วัดไปแล้วบังเอิญผู้ตัดสินไปทำให้ลูกบูลหรือลูกเป้าเคลื่อนที่ ผู้ตัดสินจะต้องทำการวัดใหม่ และภายหลังการวัดปราก
ฎว่าลูกบูลที่คาดคะเนว่าชนะยังคงชนะอยู่ ให้กรรมการตัดสินตามความเป็นจริง แต่ถ้าการวัดครั้งใหม่แล้วปรากฎว่า
ลูกบูลที่คาดคะเนว่าชนะกลับแพ้ ให้ผู้ตัดสินตัดสินด้วยความเที่ยงธรรม
ข้อ 29 ในกรณีที่ลูกบูลของทั้งสองฝ่าย มีระยะห่างจากลูกเป้าเท่ากัน หรือติดกับลูกเป้าทั้ง 2 ลูก ให้ปฏิบัติตามกฎข้อย่อย
ดังนี้
- ถ้าทั้งสองฝ่ายหมดลูกบูลเล่นแล้ว การเล่นเที่ยวนั้นให้ถือว่าเป็นโมฆะจะต้องเริ่มเล่นใหม่ โดยผู้เล่นฝ่ายที่ได้คะแนนใน
เที่ยวที่เป็นผู้โยนลูกเป้า
- ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีลูกบูลเหลือเล่นอยู่เพียงฝ่ายเดียว ฝ่ายนั้นจะต้องเล่นจนหมดลูกบูล เพื่อทำคะแนนเพิ่มตามจำนวน
ลูกบูลที่อยู่ใกล้เป้าที่สุด
- ถ้าทั้งสองฝ่ายยังมีลูกบูลเหลืออยู่ ฝ่ายที่โยนลูกบูลที่หลังจะต้องเป็นฝ่ายเล่นลูกต่อไป
- ถ้าลูกบูลทั้งสองฝ่ายยังเสมอกันอยู่ ต้องเปลี่ยนให้อีกฝ่ายหนึ่งเป็นผู้เล่น และต้องสลับกันโยนฝ่ายละหนึ่งลูกจนกว่า
ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะได้คะแนนแล้วเล่นต่อไปตามปกติ
ข้อ 30 หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกาะติดกับลูกบูลหรือลูกเป้าจะต้องเอาสิ่งนั้นออกก่อนการวัดคะแนน
ข้อ 31 การเสนอข้อประท้วงต่อผู้ตัดสิน จะกระทำได้ในระหว่างการแข่งขันของแต่ละเกมเท่านั้น เมื่อเกมการแข่งขันนั้น ๆ
ได้สิ้นสุดลง จะไม่มีสิทธิ์ประท้วงใด ๆ ทั้งสิ้น เพื่อประโยชน์ของฝ่ายตน ผู้เล่นทุกคนต้องคอยระวังการละเมิดกติกา
ของฝ่ายตรงข้าม (บัตรประจำตัวนักกีฬา รุ่นของผู้เล่น สนามแข่งขัน มาตรฐานของลูกบูล ฯลฯ)
ข้อ 32 ในขณะทำการจับสลากและการประกาศผลการจับสลาก ผู้เล่นทุกคนต้องอยู่พร้อมกันที่โต๊ะอำนวยการ หลังจากการ
ประกาศผลไปแล้ว 15 นาที ทีมที่ไม่ได้ลงสนามแข่งขันจะถูกปรับเสียคะแนนให้แก่ฝ่ายตรงข้าม 1 คะแนน
- หากเกินกำหนดเวลา 15 นาที ไปแล้ว การปรับคะแนนจะทวีเพิ่มขึ้น 1 คะแนนทุกๆ 5 นาที
- บทลงโทษ ตามข้อ 32.1 จะมีผลใช้บังคับหลังจากการประกาศให้เริ่มทำการแข่งขันทุกครั้ง
- หลังจากการประกาศการแข่งขันได้ผ่านพ้นไปแล้ว 1 ชั่วโมง ทีมที่ยังไม่ได้ลงทำการแข่งขัน จะถูกปรับให้เป็นแพ้ใน
เกมนั้น
- ทีมที่มีผู้เล่นไม่ครบจำนวน ก็ต้องลงทำการแข่งขันตามเวลากำหนดโดยไม่อนุญาตให้รอ ผู้ร่วมทีมที่มาล่าช้าและจะเล่น
ลูกบูลได้ตามจำนวนที่ผู้ลงเล่นมีสิทธิ์เท่านั้น
ข้อ 33 เมื่อการแข่งขันในเที่ยวนั้นได้เริ่มเล่นไปแล้ว ผู้เล่นที่มาล่าช้าไม่มีสิทธิ์ลงเล่นในเที่ยวนั้นทันที แต่อนุญาตให้ลงเล่น
ในเที่ยวต่อไปได้
- เมื่อการแข่งขันในเกมนั้นได้ดำเนินไปแล้ว 1 ชั่วโมง ผู้เล่นที่มาล่าช้าหมดสิทธิ์ลงทำการแข่งขันในเกมนั้น
- หากทีมที่มีผู้เล่นไม่ครบจำนวนสามารถชนะการแข่งขันในเกมนั้น จะอนุญาตให้ผู้เล่นที่มาล่าช้า ลงแข่งขันในเกมต่อไป
ได้ แต่ต้องเป็นผู้เล่นของทีมนั้นและต้องมีชื่อถูกต้องในใบสมัครด้วย
- ถ้าการแข่งขันนั้นแบ่งเป็นสาย จะอนุญาตให้ผู้เล่นที่มาล่าช้าลงแข่งขันในเกมที่ 2 ได้ไม่ว่าผลการแข่งขันในเกมแรกจะ
เป็นชนะหรือแพ้
- การแข่งขันแต่ละเที่ยวจะถือว่าได้เริ่มขึ้นแล้ว ก็ต่อเมื่อลูกเป้าที่โยนไปในสนาม นั้น ได้ตำแหน่งถูกต้องตามกติกา
ข้อ 34 การเปลี่ยนตัวผู้เล่น จะอนุญาตให้กระทำได้ก่อนการจับสลากการแข่งขันเท่านั้น
ข้อ 35 ในระหว่างการแข่งขัน หากมีฝนตก ให้แข่งขันต่อไปจนจบเที่ยว เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย ไม่สามารถแข่งขันต่อไปได้
ผู้ตัดสินและผู้ชี้ขาดเท่านั้น ที่มีอำนาจให้หยุดพักการแข่งขันชั่วคราว หรือยกเลิกการแข่งขันนั้น
- หลังจากการประกาศเพื่อเริ่มต้นการแข่งขันในรอบใหม่แล้ว (รอบสองหรือรอบสาม ฯลฯ) แต่บางสนามยังแข่งขันไม่
เสร็จ ผู้ตัดสินอาจดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่ตนเห็นสมควร ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการจัดการแข่ง
ขัน เพื่อให้การแข่งขันนั้นดำเนินไปด้วยดี
- ในระหว่างการแข่งขัน ผู้เล่นทุกคนที่จะออกไปจากสนาม ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ตัดสินเสียก่อน มิฉะนั้นจะถูกลงโทษ
ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 32 และข้อ 33
ข้อ 36 ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศหรือรอบอื่นๆ ก็ตาม ห้ามผู้เล่นทั้งสองฝ่ายสมยอมกัน หรือแบ่งรางวัลกันโดยเด็ดขาด
ถ้าผู้เล่นทั้งสองฝ่ายแข่งขันกันไม่สมศักดิ์ศรี เป็นการหลอกลวงผู้ดู ผู้ควบคุมทีมและผู้ตัดสิน ผู้เล่นทั้งสองทีมจะถูก
ลงโทษให้ออกจากการแข่งขัน และผลการแข่งขันที่ผ่านมาก็ให้ถือเป็นโมฆะด้วย นอกจากนั้นแล้ว ผู้เล่นทั้ง 2 ทีม
จะต้องถูกพิจารณาลงโทษตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อ 37 อีกด้วย
ข้อ 37 ผู้เล่นที่มีพฤติกรรมอันเป็นการผิดมารยาทอย่างรุนแรงต่อผู้ควบคุมทีม ผู้ตัดสิน ผู้เล่นคนอื่นหรือผู้ดู จะถูกลงโทษ
ตามสภาพของความผิด ดังนี้
1. ให้ออกจากการแข่งขัน
2. ถอนใบอนุญาต (บัตรประจำตัวนักกีฬา)
3. งดให้รางวัล
- การลงโทษผู้เล่นที่กระทำผิด อาจมีผลถึงผู้ร่วมทีมด้วย
- บทลงโทษ 1 และ 2 เป็นอำนาจของผู้ตัดสิน
- บทลงโทษ 3 เป็นอำนาจของคณะกรรมการจัดการแข่งขันที่จะต้องทำรายงานและส่งของรางวัลที่ยึดไว้นั้นให้สหพันธ์ฯ
ทราบภายใน 48 ชั่วโมง เพื่อพิจารณาตามที่เห็นสมควรต่อไปการลงโทษทุกกรณี เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหาร
สหพันธ์ฯ ที่จะพิจารณาเป็นขั้นสุดท้าย
ข้อ 38 ผู้ตัดสินทุกคนที่ได้รับแต่งตั้งจากสหพันธ์ฯ มีหน้าที่ควบคุมดูแลให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างมีระเบียบและถูกต้อง
ตามกติกาอย่างเคร่งครัด และมีอำนาจให้ผู้เล่น ทุกคน หรือทุกทีมที่ปฏิเสธไม่ปฏิบัติตามคำตัดสิน ออกจากการแข่ง
ขันได้
- หากมีผู้ดูซึ่งเป็นนักกีฬาในสังกัดของสหพันธ์ฯ เป็นต้นเหตุทำให้เกิดการจลาจลในสนามแข่งขัน ผู้ตัดสินจะต้องรายงาน
ให้สหพันธ์ฯ ทราบ ทางสหพันธ์ฯจะได้เรียกตัวผู้กระทำผิดนั้นมาชี้แจงต่อคณะกรรมการวินัยเพื่อพิจารณาลงโทษต่อไป
ข้อ 39 หากมีกรณีอื่นใดที่มิได้กำหนดไว้ในกติกานี้ เป็นหน้าที่ของผู้ตัดสินที่จะต้องขอความร่วมมือคณะกรรมการชี้ขาดของ
การแขช่งขันครั้งนั้น เพื่อพิจารณาตัดสินชี้ขาดตามควรแก่กรณี (คณะกรรมการชี้ขาดประกอบด้วย กรรมการ 3 หรือ
5 คน)
- การชี้ขาดของคณะกรรมการชี้ขาดถือเป็นที่สิ้นสุด ในกรณีมีเสียงเท่ากันให้ประธานกรรมการชี้ขาดเป็นผู้ชี้ขาด
- ผู้เล่นทุกคนจะต้องแต่งกายให้เรียบร้อยการไม่สวมเสื้อ ไม่สวมรองเท้าถือว่ามีความผิดผู้เล่นที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎนี้
ถ้าผู้ตัดสินเตือนแล้วยังเพิกเฉยอยู่อีก จะถูกลงโทษให้ออกจากการแข่งขัน
แปลและเรียบเรียงโดย คณะกรรมการพัฒนาเทคนิคสมาคมสหพันธ์เปตองแห่งประเทศไทย
![](/files/u19649/13.gif)