พระราชกรณียกิจที่สำคัญของรัชกาลที่ ๙
พระราชกรณียกิจที่สำคัญของรัชกาลที่ ๙
ภาพจาก http://sakaeo.nso.go.th/nso/home/images/42/backgroud14.jpg
แม้ว่าบทบาทของพระมหากษัตริย์หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475
จะลดลงเป็นพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ พระองค์ยังคงพยายามปฏิบัติพระราชภารกิจเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่าง ๆ
จะเห็นได้จากการที่พระองค์ไปประทับแรม ณ พระตำหนักตามภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อที่จะทรงมีโอกาสได้รับทราบถึงทุกข์สุข
และสภาพความเป็นอยู่ที่แท้จริงของราษฎร ซึ่งทำให้พระองค์ทรงพบว่าประชาชนชาวไทยส่วนมากมีปัญหาในเรื่องฐานะความเป็นอยู่
ซึ่งจะต้องแก้ไขไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและชลประทาน ด้านการจัดการและพัฒนาที่ดิน ด้านเกษตรกรรม
ด้านการศึกษาวิจัย ด้านการแพทย์และการสาธารณสุข ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านอาชีพเสริมและอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริและโครงการตามพระราชประสงค์จึงได้เกิดขึ้นอย่างมากมายกว่า 2,000 โครงการ
ซึ่งล้วนแล้วแต่เพื่อความเป็นอยู่ของชีวิตที่ดีขึ้นของราษฎร์ทั้งสิ้น
ในด้านการศึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริพร้อมกับได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์
เป็นทุนริเริ่มในการจัดสร้างโรงเรียนและวัดทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา อาทิเช่น โรงเรียนตามวัดต่าง ๆ
โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ โรงเรียนร่มเกล้า โรงเรียนราชประชาสมาสัย กองทุนนวฤกษ์ มูลนิธิอานันทมหิดล
ศาลารวมใจ โครงการพระดาบส โครงการสารานุกรมไทย และอื่น ๆ
ด้านขนบธรรมเนียมประเพณี ทรงฟื้นฟูสืบทอดประเพณีหลายอย่างเพื่อเป็นขวัญ เช่น
พระราชพิธีจรดพระนั่งคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา เป็นต้น
ด้านศาสนา ทรงออกผนวชตามพระราชประเพณี เมื่อพุทธศักราช 2495 ทรงอุปถัมภ์การทำนุบำรุงศาสนาทุกด้าน
เช่น การสร้างวัด สร้างพระพุทธรูป ประกอบพิธีทางศาสนา เช่น การทอดกฐิน ผ้าป่า และการบำเพ็ญการกุศลต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ทุก ๆ ศาสนาที่ประชาชนนับถือ
นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึ้นครองสิริราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 9
แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พุทธศักราช 2489 พระองค์ทรงดำรงฐานะเป็นพระประมุขของชาติ
ที่ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญาความสามารถและพระวิริยะอุตสาหะ ในการปฎิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานับปการ
เพื่อนำประโยชน์และความเจริญอย่างยั่งยืนมาสู่ประชาชนชาวไทยและความมั่นคงเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติมาโดยตลอด
ในปีพุทธศักราช 2549 เป็นปีมหามงคลอันประเสริฐที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 60 ปี
พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างปลื้มปิติโสมนัสเปี่ยมด้วยความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเทิดทูนไว้เหนือเกล้าฯ
จึงได้ขอพระราชทานจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ขึ้นตามโบราณราชประเพณี ด้วยความกตัญญูกตเวทิตา
และนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานชื่อการจัดงานและชื่อพระราชพีธี ซึ่งได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานชื่อการจัดงานนี้ว่า “การจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี” ชื่อพระราชพิธีว่า
“ พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ” ชื่อการจัดงานและชื่อพระราชพิธีภาษาอังกฤษว่า
“ The Sixtieth Anniversary Celebrations of His Majesty’s Accession to the Throne ”