รัชกาลที่ ๘
ภาพจาก http://www.prdnorth.in.th/The_King/picture/ram8.jpg
พระราชประวัติ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลู หรือตรงกับวันที่
20 กันยายน พุทธศักราช 2468 ณ เมืองไฮเดนเบิร์ก (Heidenberg) ประเทศเยอรมนี ทรงเป็นพระราชโอรสพระองค์โตใน
สมเด็จเจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ และหม่อมสังวาล ตะละภัฎ
(ภายหลังทรงได้รับการเฉลิมพระนามาภิไธยเป็น สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร์ อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก
และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี) เมื่อแรกประสูติทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น หม่อมเจ้าชายอานันทมหิดล
ต่อมาในปีพุทธศักราช 2470 ทรงได้รับการสถาปนาเป็นพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงมีพระเชษฐภคินีหนึ่งพระองค์คือ
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และทรงมีสมเด็จพระอนุชาอีกหนึ่งพระองค์คือ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงเข้ารับการศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนมาแตร์เดอี
เป็นเวลา 2 ปี และต่อมาทรงย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ต่อมาเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
บ้านเมืองเกิดความสับสน พระองค์จึงได้เสด็จฯ ไปประทับ ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราชชนนี พระเชษฐภคินีและพระอนุชา เพื่อการศึกษาและเพื่อบำรุงพระพลานามัย
แต่แล้วเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พุทธศักราช 2477 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้น
ประทับรักษาพระเนตรอยู่ ณ ประเทศอังกฤษ ได้ทรงประกาศสละราชสมบัติพร้อมกับสละพระราชสิทธิ์ในการแต่งตั้ง
ผู้สืบราชสันตติวงศ์ และเนื่องจากไม่ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดาเลย การสืบสันตติวงศ์จึงเป็นไปตามกฎมณเฑียรบาล
โดยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลไทยในขณะนั้นจึงได้กราบทูลอัญเชิญ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล
ซึ่งทรงอยู่ในลำดับที่ 1 แห่งการสืบราชสันตติวงศ์ ขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 8 ในพระบรมราชจักรีวงศ์ ทรงพระนามว่า
“ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหา อานันทมหิดล สกลไพศาลมหารัษฎาธิบดี พระอัฐมรามาธิบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ”
และเนื่องจากในขณะนั้นทรงมีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา จึงต้องทรงมีคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ซึ่งได้แก่ พระวรวงศ์เธอ
กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพยอาภา และเจ้าพระยายมราช
ทำการบริหารราชการแผ่นดินแทนพระองค์จนกว่าจะทรงบรรลุพระราชนิติภาวะ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ได้เสด็จฯ นิวัติประเทศไทยเป็นครั้งแรกหลังจากเสด็จขึ้นครองราชย์
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2481 ซึ่งขณะนั้นทรงมีพระชนมายุได้ 13 ชันษา พร้อมด้วยสมเด็จพระราชชนนี
สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอและสมเด็จพระอนุชา หลังจากเสด็จฯ นิวัติเมืองไทยครั้งแรกแล้ว ได้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
สถานการณ์ของโลกอยู่ในขั้นวิกฤติ การคมนาคมติดต่อระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศขัดข้อง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล จึงมิได้เสด็จฯ นิวัติประเทศไทยอีกเป็นเวลานาน แต่ก็ได้ทรงศึกษาวิชาการอยู่โดยตลอด จ
นเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง เหตุการณ์ต่าง ๆ เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ซึ่งขณะนั้นกำลังทรงศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์และเหลือเวลาอีกประมาณ 3 ปี ก็จะทรงได้รับปริญญาเอก
ก็ได้เสด็จนิวัติฯ กลับประเทศไทยอีกครั้ง โดยทางเครื่องบินที่กองทัพอากาศของรัฐบาลอังกฤษจัดถวาย เสด็จฯ
ถึงกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2488 ขณะนั้นทรงมีพระชนมายุ 21 พรรษา ซึ่งทรงบรรลุพระราชนิติภาวะแล้ว
พระราชกรณียกิจที่สำคัญ วัดประจำรัชกาลที่ ๘ ตราประจำรัชกาลที่ ๘