มรดกอารยรรมของจักรวรรดิโรมัน

การสิ้นสุดของแต่ละยุคแต่ละสมัยไม่ได้หมายความว่าผู้คนและอารยธรรมของยุคเก่าจะสูญสิ้น เช่นการสิ้นสุดประวัติศาสตร์สมัยโบราณ เมื่อกรุงโรมถูกพวกอนารยชนโจมตีแตกใน ค.ศ. 476 ซึ่งถือเป็นการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันออก ดังที่กล่าวมาแล้ว แม้ทุกอย่างอยู่ในสภาพเสื่อมสลาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะสูญสิ้น ยังมีเรื่องสำคัญหลาย ประการที่มีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันมากับประวัติศาสตร์สมัยกลาง

1.มรดกอารยธรรม  พวกอนารยชนหลายพวกซึ่งโจมตีและปล้นสะดมเมืองต่างๆ  ได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองได้เรียนรู้รับอารยธรรม ผู้นำอารยชนที่มีความสามารถและทะเยอทะยานจึงมีความต้องการที่จะฟื้นความเป็นเอกภาพ ความรุ่งเรืองของจักรวรรดิโรมันขึ้นมาใหม่ทำให้ได้รับการสืบทอดต่อมา

2.ศริสต์ศาสนา  การที่ผู้นำของจักรวรรดิโรมันยอมรับศริสต์ศาสนาอย่างเป็นทางการ ได้เป็นแบบอย่างให้ผู้นำหลังการล่มสลายของจักรววรดิโรมันรับปฏิบัติต่อมา ดังนั้นศริสต์ศาสนาจึงยังคงอยู่และเป็นที่พึ่งของคนในเวลาบ้านเมืองแตกแยก ศริสต์ศาสนาจึงช่วยรักษาและสืบทอดความคิดและอารยธรรมโรมัน

3.กฎหมาย มรดกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโรมัน กฎหมายฉบับแรกที่สุดคือ “กฎหมายสิบสองโต๊ะ”

4.ภาษาโรมานซ์  คือภาษาละตินที่เป็นที่รู้จักกันในปัจจุบันนี้ว่าภาษาโรมานส์  มีภาษา  อิตาเลียน  ฝรั่งเศส  สเปนิช  ปอร์ตุเกส และ รูมาเนีย  ซึ่งคำศัพท์ในภาษาอังกฤษกว่าครึ่งหนึ่งก็ล้วนมาจากภาษาละตินนี้ทั้งสิ้น

5.ผลงานก่อสร้างและวิศวกรรม  ถนนโรมัน  ท่อส่งน้ำ และเขื่อนสร้างด้วยฝีมือประณีตมาก สำหรับทางด้านศิลปและสถาปัตยกรรมนั้นส่วนใหญ่โรมันได้แบบอย่างจารึก สิ่งก่อสร้างที่สำคัญของโรมันก็คือโรงละคอน  สถานอาบน้ำสาธารณ  บาสิลิคา (ห้องยาวมีเสาเรียงอยู่ 2 ข้าง) และแอมพิเธีย-เตอร์  ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นสิ่งก่อสร้างรูปโค้งและรูปโดม

นางสาว ณัฐณี จันทร์พรหมมา ม.6/1 เลขที่ 38

แหล่งอ้างอิง หนังสือประวัติศาสตร์สากล ม.4 - ม.6 อจท.