ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ
ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ
http://202.28.94.55/web/322236/2551/project/g20/image/Project/image/3241a0.jpg
ช่วงเวลา
เทศกาลสารทไทยตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10
ความสำคัญประเพณีอุ้มพระดำน้ำ
เป็นประเพณีที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย เกิดจากความเชื่อเกี่ยวกับอภินิหารของพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองคือพระพุทธมหาธรรมราชา ซึ่งมีตำนานเล่าขานกันมานานว่า เมื่อประมาณ สี่ร้อยปี ที่แล้ว พระพุทธมหาธรรมราชา เป็นพระพุทธรูปที่สำคัญของเมืองเพชรบูรณ์ ได้หายไปจากวัด ที่ประดิษฐานอยู่ ซึ่งก็คือวัดไตรภูมิ ในวันที่หายก็คือวันสารทไทย จากนั้นชาวบ้านก็ช่วยกันออกตามหา และได้พบพระพุทธมหาธรรมราชา ที่วังน้ำวน ที่ซึ่งเคยพบ พระพุทธมหาธรรมราชา เป็นครั้งแรกและได้ อันเชิญมาเป็นพระพุทธรูป ประจำจังหวัด ดังนั้นพอถึงวันสารทไทย ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้พร้อมใจกันจัดงานอุ้มพระดำน้าขึ้น เพื่อเป็นสิริมงคล แก่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยบุคคลที่จะเป็น ผู้ที่อุ้มพระดำน้ำ ได้นั้น ต้องเป็นเจ้าเมืองเพชรบูรณ์ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เท่านั้น
พระพุทธรูปที่จะใช้ในการประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ ก็คือ พระพุทธมหาธรรมราชา ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ศิลปะสมัยลพบุรี เนื้อองค์พระพุทธรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ มีความกว้างของหน้าตัก 13 นิ้วและมีความสูง 18 นิ้ว ไม่มีฐาน เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ
พิธีกรรม
1. จัดให้มีการตั้งศาลเพียงตาแล้วอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชามาประทับ ทำพิธีสวดคาถา โดยพราหมณ์ผู้ทำพิธีนุ่งขาวห่มขาวแล้วอัญเชิญขึ้นบนบุษบกให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาและมีงานฉลองสมโภช
2. จัดให้มีพิธีอุ้มพระดำน้ำในตอนเช้าหลังทำบุญสารทโดยมีขบวนเรือแห่ นำไปโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อถึงบริเวณวัดโบสถ์ชนะมาร เจ้าเมืองพร้อมข้าราชบริพารจะอุ้มพระลงดำน้ำ โดยหันหน้าองค์พระไปทิศเหนือ 3 ครั้ง ทิศใต้ 3 ครั้ง ชาวบ้านจะโปรยข้าวตอก ดอกไม้และข้าวต้มกลีบ เมื่อดำน้ำเสร็จชาวบ้านจะตักน้ำรดศีรษะและรดกันเองเพื่อเป็นสิริมงคล
สาระ
ชาวบ้านเชื่อว่าถ้าทำพิธีอุ้มพระดำน้ำแล้วจะทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล