มะเขือยาว
ชื่ออื่น ๆ : มะเขือหำม้า, มะแขว้ง, มะแข้งคม, มะเขือป้าว (ภาคเหนือ), มะเขือฝรั่ง (กรุงเทพฯ), มะเขือขาว, มะเขือจานมะพร้าว, มะเขือกระโปกแพะ, มะเขือจาน (ภาคกลาง), สะกอวา, ยั่งมูไล่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), เกียจี้ (จีน)
ชื่อสามัญ : Egg Plant
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Solanum melongena Linn.
วงศ์ : SOLANACEAE
ลักษณะทั่วไป : ต้น : เป็นพรรณไม้ล้มลุก ลำต้นมีความสูงประมาณ 0.5-1 เมตร ลักษณะของลำต้นจะแข็งแรง มีสีเขียวหรือสีม่วง ลำต้นมีขนนุ่ม และสั้นปกคลุมทั่ว หรืออาจมีหนามเล็ก ๆ ส่วนบนจะแตกกิ่งก้านสาขาหนาทึบ
ใบ : ใบออกสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปค่อนข้างกลม โคนใบเบี้ยว ส่วนปลายใบแหลม ริมขอบใบหยัก หรือเป็นคลื่นหลังใบ และใต้ท้องใบจะมีขนนุ่มปกคลุม ขนาดของใบยาวประมาณ 2.5-7 นิ้ว กว้างประมาณ 1.5-5 นิ้ว ก้านใบยาวประมาณ 1 นิ้ว
ดอก : ดอกออกเป็นช่อ หรือออกเป็นดอกเดียว ลักษณะของดอกมีสีม่วง กลีบดอกมี 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกันส่วนปลายแยกจากกันเป็น 5 แฉก ปลายแหลม กลางดอกมีเกสรตัวผู้ 5 อันและตัวเมีย 1 อัน อยู่ติดกับกลีบดอก ก้านเกสรและอับเกสรเป็นสีเหลือง
ผล : ผลมีลักษณะกลมยาว มีสีเขียวอ่อน สีม่วงคล้ำ หรือเป็นสีขาว ผิวเปลือกจะเรียบเกลี้ยงเป็นมัน ตรงขั้วผลก็จะมีกลีบเลี้ยงสีเขียวติดอยู่
การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้เจริญเติบโตได้ดีในดินอุดมร่วนซุย ต้องการน้ำและความชื้นในปริมาณปานกลาง ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
ส่วนที่ใช้ : ลำต้นและราก ใบ ดอก ผล ขั้วผล
สรรพคุณ : ลำต้นและราก ใช้ลำต้นและรากแห้ง ประมาณ 10-15 กรัม นำมาต้ม เอาน้ำกินเป็นยาแก้บิดเรื้อรัง บิดอุจจาระเป็นเลือด หรือใช้ลำต้นและรากสดนำมาตำให้ละเอียดคั้นเอาน้ำทาหรือล้างบริเวณที่เป็นแผลที่ถูกความเย็น แผลเท้าเปื่อยอักเสบ เป็นต้น
ใบ ใช้ใบแห้ง นำมาตำให้เป็นผงละเอียดกินประมาณ 6-10 กรัม เป็นยาแก้โรคบิดอุจจาระเป็นโลหิต แก้ปัสสาวะขัด แก้โรคหนองใน แก้ตกเลือดในลำไส้ ใช้ภายนอกนำเอามาต้มเอาน้ำใช้ล้างแผล หรือใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลบวมเป็นหนอง และแผลที่เกิดเนื่องจากถูกความเย็น
ดอก ใช้ดอกสด หรือดอกแห้ง นำมาเผาให้เป็นเถ้าแล้วบดให้เป็นผงละเอียด ใช้มาบริเวณที่ปวดเป็นยาแก้ปวดฟัน
ฟันผุ และบริเวณแผลที่มีหนอง เป็นต้น
ผล ใช้ผลแห้ง นำมาทำเป็นยาเม็ด กินเป็นยาแก้ปวด แก้ตกเลือดในลำไส้ ขับเสมหะ อุจจาระเป็นโลหิต หรือใช้ผลสด นำมาตำให้ละเอียดใช้พอกบริเวณที่เป็นแผลอักเสบที่มีหนอง เป็นโรคผิวหนังเรื้อรัง และผดผื่นคัน เป็นต้น
ขั้วผล ใช้ขั้วผลที่แห้ง ประมาณ 60-90 กรัม นำมาต้มหรือเผาให้เป็นเถ้าบดให้ละเอียดกิน เป็นยาแก้ตกเลือดในลำไส้ อุจจาระเป็นโลหิตหรือใช้ขั้วผลสดนำมาตำให้ละเอียดใช้พอกหรือทา บริเวณที่เป็นแผลบวมมีหนอง แผลในปาก ปวดฟัน หรือเป็นฝี เป็นต้น
ตำรับยา : 1. สำหรับผู้หญิงหัวนมแตกเจ็บ ให้ใช้ผลแก่จัด นำมาตากในร่ม จนแห้งแล้วนำไปเผาให้เป็นเถ้า จากนั้นก็บดให้ละเอียดผสมกับน้ำ แล้วใช้ทาบริเวณที่เจ็บ
2. แผลที่เกิดจากพยาธิปากขอ เจาะไชเท้าให้ใช้ใบนำไปต้มเอาน้ำล้างบริเวณแผล
3. เป็นฝีหลายหัว บริเวณที่หลัง หนองยังไม่แตก ให้ใช้ใบสดนำมาตำให้ละเอียดผสมกับน้ำส้มสายชูสีดำ นำมาต้มแล้วพอกในบริเวณที่เป็น
4. เป็นปื้นขาว หรือแดงบริเวณบนผิวหนัง ให้ใช้ขั้วผลที่แห้งแล้ว คลุกผสมกับกำมะถัน จากนั้นก็บดให้เป็นผงละเอียด ใช้ทาบริเวณที่เป็น
5. สำหรับเด็กที่เป็นวัณโรค อาเจียนเป็นโลหิต ไอ ท้องเสีย อาการที่พึ่งเป็น หรืออาการที่ยังไม่รุนแรง ให้ใช้หนอนลำต้นมะเขือเทศ (ต้นที่ไม่ได้ฉีดยาฆ่าแมลง) นำมาผสมกับอาหารให้เด็กรับประทาน
ข้อมูลทางคลีนิค : จากการทดสอบผู้ป่วยที่เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดลมอักเสบเรื้อรัง โดยการใช้ รากสดนำมาทำเป็นยาน้ำเชื่อม กินวัน 2-3 ครั้ง ๆ ละ 50 มล. กินติดต่อกันเป็นเวลา 10 วัน ปรากฏว่า อาการของคนป่วยที่หายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมี 21 คน อาการดีขึ้น 19 คน อาการหายชั่วคราว 22 คน สำหรับที่เหลืออีก 6 ราย ไม่ได้ผลแต่อย่างใด
ข้อมูลทางเภสัชวิทยา : สารที่สกัดได้จากราก มีฤทธิ์ในการฆ่าแบคทีเรีย และเชื้อราบางชนิด แต่สารที่สกัด
จากผล หรือใบ เมื่อนำไปทดสอบ เช่น ใช้ทดสอบกับคน และกระต่าย ผลปรากฏว่ามีฤทธิ์ในการลดโฆเลสเตอรอลในเลือด และมีฤทธิ์ขับปัสสาวะได้