ประวัติศาสตร์สากล
ประวัติศาสตร์สากลสมัยโบราณ
อียิปต์ ศูนย์กลางของอารยธรรมอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำไนล์ มีปราการธรรมชาติเป็นทะเลทรายล้อมรอบ เป็นสังคมเกษตรกรรมที่พัฒนามาจนเป็นเมือง(โมนิส) ขยายพื้นที่เพาะปลูก สร้างเขื่อน กษัตริย์ที่ขึ้นปกครอง เรียกว่า ฟาโรห์ เป็นกึ่งกษัตริย์กึ่งเทพเจ้า
เมโสโปเตเมีย เป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ระหว่างแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำโทกริสและแม่น้ำยูเฟรติส จึงทำให้ชนชาติต่างๆแย่งชิงผลัดเปลี่ยนเข้ามาสร้างสรรค์อารยธรรมของตน ชาติแรกที่เข้ามา คือ สุเมเรียน ซึ่งมีความเจริญด้านการเกษตร รู้จักการชลประทานและจัดการปกครองแบบนครรัฐได้เป็นครั้งแรก มีการประดิษฐ์อักษรลิ่ม ลงบนแผ่นดินเหนียว มีความเจริญด้านคณิตศาสตร์ เช่น การคูณหาร ถอดรากกำลังสอง เลขฐาน 60 เป็นต้น มีการติดต่อค้าขายกับภายนอก มีการนับถือเทพเจ้าหลายองค์ วิหารบูชาเทพเจ้า คือ ซิกกูแรท (Ziggurat)
กรีก มีศูนย์กลางอยู่ที่เอเธนส์ มีการปกครองแบบนครรัฐ ศูนย์กลางของนครรัฐอยู่ที่ "อะโครโปลิส" เป็นที่ที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้ามาก ชาวกรีกมีโลกทัศน์กว้างขวางและรับวัฒนธรรมจากดินแดนต่างๆ ทำให้ชาวกรีกเป็นคนอยากรู้อยากเห็น เชื่อมั่นในเหตุผล เชื่อในดุลพินิจของตน ส่งผลต่อแนวคิดมนุษย์นิยม (Humanism)
โรมัน ถือว่าเป็นผู้สืบทอดวัฒนธรรมมาจากกรีก เพราะผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมกรีกกับของอีทรัสกันเข้าด้วยกัน เช่น การวางผังเมือง การแกะสลักเครื่องปั้นดินเผา ท่อระบายน้ำ การใช้ประตูโค้ง การปกครองของโรมันปกครองแบบสาธารณรัฐ ซึ่งประกอบด้วยประมุขฝ่ายบริหาร 2 คนและมีสภาเซานท์หรือสภาสูงจำนวน 300 คน ประกอบด้วยชนชั้นสุงและเจ้าของที่ดิน (Patrician) ส่วนสภาราษฎรประกอบด้วยพลเมืองโรมันทั้งพาทริเชียนและพลีเบียน คือ ชนชั้นสามัญ
นางสาวกมลชนก คงธนกุลโรจน์ ชั้น ม.6/1 เลขที่ 7