เรื่องย่อ10
พระอินทร์เห็นพระสังข์บรรจุความสำเร็จแล้วก็ยินดี คิดช่วยนางจันท์เทวีต่อไปเพราะนางลำบากยากแค้นมามากแล้วจึงดำริว่า“จำกูจะให้ไอ้เฒ่าผัว ไปรับตัวโฉมฉายผายผัน จึงจะได้พบพักตร์ลูกรักนั้น ในเขตขัณฑ์สามนต์พารา”พระองค์เข้าไปหาตัวท้าวยศวิลกลางดึก คุกคามจะเอาชีวิต แล้วสั่งให้ไปรับลูกเมียกลับมาภายในเจ็ดวัน มิฉะนั้นจะทุบตีและฆ่าให้เสีย
ท้าวยศวิมลสั่งให้เตรียมรี้พลเพื่อไปตามหานางจันท์เทวีกับหอยสังข์เพราะ“พระอินทร์บนสวรรค์ท่านลงมา กูคะเนเพลาราวค่อนรุ่ง ถือกระบองเหล็กใหญ่เท่าไม้ซุง หมายมุ่งจะทุบให้ยุบยับ”พอนางจันทรารู้เข้าก็มาพูดจาเยาะเย้ยต่างๆ นานา หาว่าท้าวยศวิมลแอบอ้างพระอินทร์ ไม่รู้จักอายที่มีลูกเป็นหอยสังข์ ท้าวยศวิมลกริ้วไล่เฆี่ยนตีนางจันทราออกไป แล้วให้เหล่าเสนานางกำนัลตามพระองค์ไปรับนางจันท์เทวีที่กระท่อมของตายาย แต่พอไปถึงแล้วนางจันท์เทวีไม่ยอมกลับ ตัดพ้อต่อว่าท้าวยศวิมลมากมายจนท้าวยศวิมลต้องเล่าเรื่องให้ฟังและงอนง้อขอโทษ
นางจันท์เทวีทราบว่าโอรสยังมีชีวิตอยู่ก็ยินดีเป็นหนักหนา“ที่เคืองขัดภัสดาก็เหือดหาย”และต้องการตามเสด็จไปตามหาพระสังข์ด้วย นางขอให้แทนคุณตายายที่ให้ที่อยู่อาศัยและดูแลนาง ท้าวยศวิมลก็ประทานข้าวของเงินทองให้ตายายมากมาย ตั้งให้เป็นนายบ้านและให้ชาวบ้านยกย่องด้วย
ท้าวยศวิมลพานางจันท์เทวีเดินทางไปเมืองสามนต์ รอนแรมมาในป่าจนใกล้ด่านก็หยุดพักกองทัพให้ไร่พลซุ่มซ่อนอยู่ในป่าก่อน ท้าวยศวิมลเกรงว่า พระสังข์จะแค้นเคืองพระองค์จึงได้ปรึกษานางจันท์เทวีว่า พระองค์ทำผิดไว้“จะเข้าไปในบ้านเมืองเขา ถึงลูกเต้าของตัวก็กลัวอยู่”แต่นางจันท์เทวีไม่เห็นด้วยนางเชื่อมั่นว่า พระสังข์นั้น“พ่อแม่มาหาจะฆ่าตี ก็ผิดทีทำนองในคลองธรรม์”ท้าวยศวิมลจึงค่อยคลายความกังวล ทั้งสององค์ปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา เข้าไปในเมืองสามนต์ชมเมืองจนเย็นค่ำแล้วไปพักอยู่ที่ศาลาข้างทางใกล้ๆตลาด
ฝ่ายพระสังข์เกิดร้อนรุ่มกลุ้มพระทัย อยากจะไปเลียบพระนคร พอวันรุ่งขึ้นก็เสด็จขึ้นช้างทรง ไพร่พลห้อมล้อมไปรอบเมืองผ่านมาทางศาลาที่พระบิดาและพระมารดาพักอาศัยอยู่ ท้าวยศวิมลชวนนางจันท์เทวรไปคอยเฝ้าดูพอพระสังข์เสด็จมาพระองค์ตรัสถามนางจันท์เทวีว่าใช่พระโอรสหรือไม่นางจันท์เทวีก็ไม่แน่ใจเช่นเดียวกัน
ดังนั้น กษัตริย์ทั้งสองจึง“ว่างพลางทางชวนกันดูพลาง จนช้างที่นั่งเข้ามาใกล้ ลืมตัวกลัวเกรงภูวไนย ลุกขึ้นยืนได้ตั้งใจดู”พวกทหารที่ดูแลขบวนแห่เห็นคนยืนอยู่ก็ตกใจ เข้ามายื้อยุดฉุดตัวและชักหวายออกมาจะตีพระสังข์ร้องห้ามว่าตายายเป็นคนบ้านนอกไม่รู้ระเบียบ ไม่ให้ทำร้ายลงโทษ
ท้าวยศวิลมลเห็นท่าทางของพระสังข์ที่ดูเหมือนจะรู้จักนางจันท์เทวีก็คาดว่าน่าจะเป็นพระโอรสเพราะ“จึงหยุดอยู่ดูเจ้า (นางจันท์เทวี) เป็นหนักหนาแล้วหน้าตาโศกเศร้าหมองศรี”ดังนั้น ทั้งสององค์จึงปรึกษากันว่าจะไปขออาศัยอยู่กับนายประตูก่อน นางจันท์เทวีจะเข้าไปตีสนิทกับพวกวิเสท (พวกทำกับข้าวของหลวง) นางได้อาสาช่วยทำอาหาร และฝากเนื้อฝากตัวกับพวกวิเสท จนกระทั่งได้รับความเมตตาจากพวกนั้นให้แต่งเครื่องเสวยของพระสังข์