เรื่องย่อ9

          นางมณฑาได้รู้เรื่องราวความเป็นมาของพระสังข์ก็สุดแสนจะยินดี ร้องเรียกพระสวามีให้เข้ามาดูว่า“ลูกเขยคนนี้ ทั้งในธานีไม่มีสอง ผิวเนื้อเรื่อเหลืองเรืองรอง เปล่งปลั่งดังทองนพคุณ”แต่ท้าวสามนต์ไม่เชื่อ กลับหัวเราะเยาะนาง
          ในที่สุดท้าวสามนต์ก็ต้องเข้าไปในกระท่อม พอได้เห็นพระสังข์ก็ตระหนักว่านางมณฑาพูดจริง จึงเปลี่ยนทีท่าดูหมิ่นพระสังข์รังเกียจพระสังข์มาเป็นรักใคร่ลูบหน้าลูบหลัง พอถามความเป็นมาก็ทราบว่าพระวังข์เป็นโอรสกษัตริย์ก็ยิ่งยินดียอมรับว่าพระองค์ผิด“บิดาโฉดเฉาเบาความ ไม่รู้เลยว่างามถึงเพียงนี้ อย่าถือโทษโกรธพ่อเลยหนอลูก ว่าลบหลู่ดูถูกขับหนี แม้นเจ้ามีชัยชนะคลี พ่อจะมอบบุรีให้ครอบครอง”
          พระสังข์กราบทูลอาสาตีคลี แล้วขอม้าสำหรับขี่เข้าตีคลี“ข้าเห็นพาชีสีกะเลียว มาเที่ยวกินถั่วริมรั้วไร่ ท่วงทีขี่ขับจะว่องไว ขอพระองค์จงให้ไปจับมา”เทวดาบันดาลให้เสนาจับม้ามาได้อย่างง่ายดาย พอพระสังข์ขี่ม้าตามช้างต้ยของท้าวสามนต์เข้ามาในเมือง ประชาชนชาวเมืองพากันชื่นชมโสมนัส ตามมากราบไห้วและอำนวยพร จนกระทั่งท้าวสามนต์ นางมณฑา หระสังข์ และนางรจนามาถึงปราสาทชัย หกเขยกับหกนางได้ข่าวก็ริษยาเจ้าเงาะรีบพากันมาเฝ้าท้าวสามนต์ แต่พอเห็นพระสังข์หกเขยก็จำได้อย่างแม่นยำ
          ฝ่ายหกนางมีความรู้สึกต่อพระสังข์เป็นอีกทางหนึ่ง คือพรัสีงข์รูปงามยิ่มนัก“รู้กระนี้นี่ทิ้งพวงมาลัย จะเลือกเจ้าเงาะไว้เป็นของตัว” ต่างคิดริษยานางรจนาจนลืมกลัวพระบิดา ร้องว่านางรจนาทันที
          นางรจนาเห็นพี่สาวหาเรื่องทะเลาะวิวาทก่อนก็ตอบโต้ แม้ว่าหกเขยจะห้ามปรามหกนางอย่างไร หกนางก็ไม่ฟังจนในที่สุดนางรจนาก็เท้าความไปถึง“เมื่อคราวไปหาเนื้อปลา ผัวหาได้เองหรือใครให้ จะใคร่แจ้งประจักษ์จงซักไซ้ จมูกหูอยู่ไหนไม่ถามกัน”หกนางโกรธหุนหันถามหกเขยทันทีว่า“ไหนว่าจมูกเจ้าปักเป้ากัด ผีตัดใบหูมีผู้เห็น”และต่อว่าพระสวามีว่าเถียงคนไม่เป็น เหตุใดจึงเงียบให้อีกฝ่ายหนึ่งมาว่าเล่นอยู่
          ท้าวสามนต์ได้ทราบความจริงในตอนนี้เองว่า ตอนที่หกเขยไปหาปลาและเนื้อนั้น ได้ไปขอจากพระสังข์และถูกเชือดจมูกกับใบหูไว้ จึงด่าว่าหกเขยไม่เป็นโล่เป็นพาย แต่จะลงโทษฆ่าเสียก็สมเพชเวทนา สู้ไว้ให้เป็นข้าทาสของพระสังข์เสียดีกว่า เพราะจะยกบ้านเมืองให้พระสังข์ครอบครองอย่างแน่นอน
          พระสังข์ออกไปตีคลี มีชาวเมืองไปเอาใจช่วยกันมากมาย พระอินทร์กับพระสังข์ต่างเดาะคลีโต้ตอบกันเป็นสามารถ“ต่างแกว่งคันคลีเป็นทีท่า ขับม้ามีฝีเท้าเคล่าคล่อง เวียนวกวนวิ่งชิงคลอง เปลี่ยนทำนองเข้าออกหลอกล้อ”และพอตีคลีไป พระอินทร์ก็“ทรงเลี้ยงลูกลีตีเดาะ พระอินทร์เหาะขึ้นจากท้องสนาม พระสังข์ไม่พรั่นครั่นคร้าม เหาะตามติดพันกระชั้นชิด”ภาพการตีคลีนี้ทำให้ผู้ชมตื่นตาตื่นใจ เบียดเสียดกันเข้ามาดูถึงหน้าพระที่นั่งจนเกิดความสับสนอลหม่าน พวกจ่าโขลยตำรวจวังต้องมาดูแลไล่ตีออกไป
          ท้าวสามนต์ประจักษ์ในความสามารถของพระสังข์แล้ว ก็ตรัสสั่งเสนาผู้ใหญ่ว่าวันรุ่งขึ้นให้พิธีสมโภช“ตกแต่งตั้งการภิเษกศรี”มีมหรสพฉลอง เมื่อเสร็จพิธีแล้วพระองค์มอบเมืองสามนต์ให้พระสังข์ครอบครองทั้งหมด

         

         

         

   

สร้างโดย: 
นางสาวกิตติยา วิทยานารถไพศาล

มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้ใหญ่ใจดี
 

 ช่วยด้วยครับ
นักเรียนที่สร้างบล็อก กรุณาอย่า
คัดลอกข้อมูลจากเว็บอื่นทั้งหมด
ควรนำมาจากหลายๆ เว็บ แล้ววิเคราะห์ สังเคราะห์ และเขียนขึ้นใหม่
หากคัดลอกทั้งหมด จะถูกดำเนินคดี
ตามกฎหมายจากเจ้าของลิขสิทธิ์
มีโทษทั้งจำคุกและปรับในอัตราสูง

ช่วยกันนะครับ 
ไทยกู๊ดวิวจะได้อยู่นานๆ 
ไม่ถูกปิดเสียก่อน

ขอขอบคุณในความร่วมมือครับ

อ่านรายละเอียด

ด่วน...... ขณะนี้
พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 
มีผลบังคับใช้แล้ว 
ขอให้นักเรียนและคุณครูที่ใช้งาน
เว็บ thaigoodview ในการส่งการบ้าน
ระมัดระวังการละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
อ่านรายละเอียดที่นี่ครับ

 

สมาชิกที่ออนไลน์

ขณะนี้มี สมาชิก 0 คน และ ผู้เยี่ยมชม 363 คน กำลังออนไลน์