เรื่องย่อ8
กล่าวถึงพระอินทร์อยู่บนสวรรค์ “ทิพอาสน์เคยอ่อนแต่ก่อนมา กระด้างดังศิลาประหลาดใจ”จึงใช้เนตรทิพย์มองลงมาว่ามีเหตุผิดปกติอันใด เห็นนางรจนาทุกข์ทรมานเพราะพระสังข์ไม่ยอมถอดรูปเงาะ ก็คิดยกทัพเทวดาไปล้อมเมืองสามนต์เพื่อชวนท้าวสามนต์ตีคลีพนัน“จะขู่ให้ให้งันงกตกใจ ออกไปหาบุตรสุดท้อง พระสังข์ครั้งนี้จะถอดเงาะ งามเหมาะไม่มีเสมอสอง พ่อตาจะได้เห็นเป็นรูปทอง ทั้งทำนองเพลงคลีตีต่อยุทธ์”
พระอินทร์สั่งมาตุลีเทพบุตรให้เตรียมพลเทวดา นิรมิตตนเองให้เหมือนมนุษย์ ยกพลมาล้อมเมืองสามนต์ แล้วแกล้งยิงปืนตีกลองโห่ร้องให้ชาวเมืองตกใจกลัว จากนั้นก็ให้พระวิษณุกรรมถือสารเข้าไปในเมือง พระวิษณุกรรมสำแดงฤทธิ์ ถีบประตูเมืงพังทลายแล้วเข้าไปหาท้าวสามนต์ คลี่ราชสารออกอ่านให้ฟัง
ท้าวสามนต์รับสั่งให้หกเขยไปตีคลีพนันกับพระอินทร์บรรดาราษฎร์มาดูการตีคลีอย่างคับคั่ง หกเขยจำใจต้องตีคลีไปตามแกน“ต่างเข้าตะลุบบอนช้อนคลี พาชีชุลมุนมุ่นหก ทำพยศหันเหียนเวียนวก พลัดตกลงมาขาแพลงบ้านเดาะคลีตีผิดไปเป็นวา เหลียวดูภรรยาแล้วยิ้มแห้ง อาชาพาโผนโดนกำแพง สิ้นแรงร้องโยคนโห่เกรียว ที่ขี่ม้าไม่เป็นเต้นสามขา ฉุดคร่าสายถือสองมือเหนี่ยว”ในที่สุดหกเขยก็ยอมแพ้
พระอินทร์ขู่ว่าจะริบเมืองตามสัญญา ให้ท้าวสามนต์ตามหาเขยคนที่เจ็ดมาแก้มือ ท้าวสามนต์ เสียพระทัยยิ่งนัก คิดดูเห็นมีแต่“ไอ้เงาะป่า จะแต่งให้ไปสู้กู้พารา น้ำหน้าไหนจะตีคลีเป็น”แต่นางมณฑาดฉลียวใจคิดได้ว่าพระองค์น่าจะทำตามที่ฝ่ายศัตรูแนะนำสักครั้งหนึ่ง
แล้วนางมณฑาก็ทแนะนำ“แต่ก่อนเฝ้าขึ้งโกรธ จงไปง้อขอโทษเสียให้หาย แม้นเงาะรับผจญเห็นพ้นอาย ดีร้ายจะได้เวียงชัยคืน”ท้าวสามนต์เห็นด้วยแต่จะไปงอนง้อเจ้าเงาะก็ไม่สู้อยากไป ได้แต่สั่งนางมณฑาว่า“เจ้าอุตสาห์แข็งใจออกไปหา บอกว่าพี่เฒ่านี้รับผิด ให้เจ้าเงาะปรานีช่วยชีวิต มาต่อฤทธิ์ตีคลีแทนบิดา”
นางมณฑาจำต้องไปตามรับสั่งเมื่อนางรจนาทราบเรื่องก็พลอยโสกเศร้าเกรงจะเสียบ้านเมืองไป จึงอ้อนวอนพระสังข์ให้ถอดเงาะ เจ้าเงาะแกล้งเฉยเสียสงสารนางก็สงสารแต่“คิดแค้นแม่ยายกับพ่อตา จะทรมาเสียก่อนให้อ่อนหูถ้าแม้นไม่งอนง้อต่อกู จะทำเชิงเฉยอยู่ให้ช้านาน”
นางรจนาร้องไห้วิงวอนจนเจ้าเงาะต้องยอมรับปากว่าจะออกตีคลีพนันให้แต่เจ้าเงาะบอกว่าไม่มีเครื่องทรงสวมใส่ไป นางมณฆาจีงให้สาวใช้ไปกราบทูลขอเครื่องต้นจากท้าวสามนต์
เจ้าเงาะไม่ยอมสวมเครื่องทรงที่ประทาน“เจ้าเงาะครั้นเห็นก็สั่นหัวติว่าเครื่องทรงมัวซัวเต็มชั่วนักหนาข้าไม่เอา”พอท้าวสามนต์ทราบก็ให้ชั่งน้ำหน้า หมั่นไส้เจ้าเงาะยิ่งนักในที่สุดต้องให้จัดเครื่องทรงอย่างเอกให้ทั้งๆที่“คิดเสียดายนักของรักของกู จนอยู่จำใจต้องให้มัน”และเสด็จไปกระท่อมปลายนาเอง แต่เจ้าเงาะก็ติเครื่องทรงใหม่อยู่นั่นเอง จนพระอินทร์เห็นว่าไม่ได้การจึงตรัสสั่งให้พระวิษณุกรรมจัดเครื่องทรงไปให้พระสังข์ พระวิษณุกรรมรับบัญชาแล้วนำเครื่องทรงของพระอินทร์ไปที่กระท่อม กำบังกายาเข้าไปส่งให้เจ้าเงาะ
เจ้าเงาะยินดีอย่างยิ่งแล้ว“พระถอดรูปเงาะพลันทันใด มอบให้รจนานงเยาว์”พอทรงเครื่องเสร็จพระสังข์ก็ชวนนางรจนา“มากราบกรานมารดาด้วยใจภักดิ์”